ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ส. ศิวรักษ์

แนวคิด-ปรัชญา
8
กันยายน
2564
ในแง่นี้จะว่าไทยรับความสำเร็จจากการเรียนรู้ในเมืองฝรั่งก็คงได้ แต่พอสถานประมาณโดยเราเข้าใจฝรั่งอย่างแตกฉานหรือไม่ น่าสงสัย
เกร็ดประวัติศาสตร์
27
มีนาคม
2564
ข้าพเจ้าเขียนบทความนี้ ณ วันที่ 9 มิถุนายน อันเป็นปีที่ 26 แห่งวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 จึงขอน้อมถวายแรงงานในการนี้เป็นราชพลี เจตนารมณ์ของการพิมพ์หนังสือเล่มนี้ นายชาญวิทย์เข้าใจว่าเพื่อจะลบล้างความคิดที่ว่านายปรีดีไม่ชอบเจ้า นอกไปจากนี้แล้ว ก็ต้องการจะยืนยันงานชิ้นโบว์แดงอันสำคัญที่นายปรีดีทำได้สำเร็จอย่างงดงาม “ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2”
22
กุมภาพันธ์
2564
  รายละเอียดการจัดกิจกรรม
เกร็ดประวัติศาสตร์
27
กันยายน
2563
หลังจากนายปรีดี พนมยงค์ ถึงแก่อสัญกรรมที่ประเทศฝรั่งเทศ ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2526 ม.จ.มารยาตรกัญญา ดิศกุล ได้มีลายพระหัตถ์ถึงท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ แสดงความเสียพระทัย
ศิลปะ-วัฒนธรรม
13
กรกฎาคม
2563
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นายกสโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าเรื่อง "ปรีดี พนมยงค์" ในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เขา ตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และการลงมือทำ #จุลสารปรีดี เพื่อเผยแพร่เรื่องราวของรัฐบุรุษอาวุโส และสัจจะทางประวัติศาสตร์
เกร็ดประวัติศาสตร์
4
มิถุนายน
2563
มรณกรรมของ ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ ณ ชานกรุงปารีส เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทยของประชาชนผู้รักชาติและผู้รักความเป็นธรรมทั้งปวง ที่กล่าวดังนี้ เป็นเรื่องของความรู้สึกและเป็นเรื่องของการประเมินค่า ผู้เขียนเห็นว่าย่อมจะมีคนจำนวนหนึ่งมีอารมณ์ร่วมและรู้สึกคล้อยตามเช่นนี้ ขณะเดียวกันก็อาจจะมีคนจำนวนหนึ่งรู้สึกแตกต่างออกไป ภายหลังจากสำนักข่าว เอ.พี. แพร่ข่าวมรณกรรมของรัฐบุรุษอาวุโสออกไปทั่วโลก
เกร็ดประวัติศาสตร์
30
พฤษภาคม
2563
"ทัศนะต่อท่านปรีดีจากมิตรและบุคคลที่รู้จัก" บทความนี้ผู้เขียนได้รวบรวมทัศนะของบุคคุลที่มีความผูกพันและเกี่ยวข้องกับนายปรีดีมารวบรวมไว้ ดังนี้ 1. “สุลักษณ์ ศิวรักษ์” จากปฏิปักษ์สู่กัลยาณมิตร 2. สุภาพสตรีผู้ศรัทธาในตัว ปรีดี พนมยงค์ 3. บทสัมภาษณ์นายปรีดี 'รงค์ - ตะวันใหม่ - อรุณ - ฉัตรทิพย์
เกร็ดประวัติศาสตร์
29
พฤษภาคม
2563
“ถ้าไม่มีนายปรีดี พนมยงค์ ประเทศไทยจะไม่มีประชาธิปไตย ถ้าไม่มีนายปรีดี พนมยงค์ ประเทศไทยก็จะเป็นเมืองขึ้น” คำกล่าวในเชิงสดุดีจากปากของนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส. ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยามอันดับแถวหน้าสุดของประเทศเช่นนี้ สำหรับผู้ที่ติดตามประวัติศาสตร์การเมืองยุคใกล้ของไทยด้วยความเที่ยงธรรมมาโดยตลอด ก็ไม่มีอะไรเป็นที่สงสัยเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับบางคนที่ม่านแห่งอคติบดบังจนดวงตาและดวงใจมืดสนิท คำกล่าวของ ส. ศิวรักษ์ ข้างต้น ก็มีแต่ก่อความขึ้งเคียดถึงขนาดตีอกชกหัวเลยทีเดียว
Subscribe to ส. ศิวรักษ์