ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
เกร็ดประวัติศาสตร์

พระธรรมเทศนาในโอกาสครบ 100 วัน แห่งการอสัญกรรมของนายปรีดี พนมยงค์

31
พฤษภาคม
2563

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ

ปัญญาวุฒิสัมปันโน วิทานะวิทิโก กาลันโย สะมะยันยูจะ ราชะวะสัญจึงวะเสหิ

บัดนี้จะแสดงพระธรรมเทศนา เป็นธรรมิกถาฉลองศรัทธาท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ซึ่งเป็นประธานพร้อมด้วยบุตรธิดาและญาติมิตร ปรารภบำเพ็ญกุศลตามศาสนประเพณี เพื่อประมวลกุศลราศี เป็นทักษิณานุประทานอุทิศกัลปนาผลเฉพาะท่านรัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ ผู้ถึงอสัญกรรมล่วงมาได้ครบ 100 วัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ปิยชนทั้งหลายจะได้แสดงน้ำใจกตัญญูกตเวทีบูชาสถูปด้วยพร้อมเพรียงบำเพ็ญกุศลตามศาสนประเพณีเพื่อให้เกิดสุขสวัสดีในสัมปรายภพตามควรแก่อัตตวิสัย

 

 

การที่ปิยชนทั้งหลายมีภรรยา บุตร ธิดา เป็นต้น แสดงความอาลัยรักในท่านผู้เป็นบุพพการีผู้ล่วงลับดับขันธ์ไปตามธรรมดาของสังขารเช่นนี้ เป็นการแสดงถึงน้ำใจที่ยังรักภักดีด้วยน้ำใจอันงามตามหลักกตัญญูกตเวทีย่อมเป็นที่ควรสรรเสริญในทุกกาละสมัย เพราะท่านบุพพการีที่เคยเคารพรักนั้น ท่านได้จากไปแต่เพียงชีวิตร่างกาย คุณูปการที่เคยอนุเคราะห์สงเคราะห์มีประการต่าง ๆ มาแล้ว หาได้แตกดับสูญสลายไปด้วยไม่ ย่อมยังคงปรากฏเด่นประจักษ์กับน้ำใจของอนุชนอยู่มิรู้วาย ดังที่ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ พร้อมด้วยบุตรธิดา ญาติมิตรกำลังบำเพ็ญอยู่ ณ บัดนี้ ก็อาศัยบุญบารมีที่ท่านรัฐบุรุษอาวุโสได้ปฏิบัติบำเพ็ญมาแล้วในอดีตกาล เตือนความสำนึกให้หาทางตอบสนองอุปการะคุณของท่านอยู่มิรู้วาย บุคคลผู้ระลึกถึงอุปการะคุณที่ท่านได้อนุเคราะห์สงเคราะห์แก่ตนมาตามลำดับกาลแล้วแสวงหาทางตอบสนองคุณูปการนั้นด้วยน้ำใจอันงาม  ฉะนี้ ทางพระพุทธศาสนายกย่องว่าเป็นลักษณะของคนดี เพราะทำความดีตอบสนองความดีของท่าน ประกาศน้ำใจอันงามของตนบูชาคุณูปการของท่านให้รุ่งเรืองตลอดกาล

ท่านรัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์ เป็นบุคคลมหัศจรรย์ยากที่จะมีผู้เทียมถึงเพราะท่านมีชาติกำเนิดเป็นเพียงลูกชาวนาของเมืองกรุงเก่าคือพระนครศรีอยุธยา เมื่อพิจารณาตามชาติคุณแล้วไม่มีลู่ทางที่จะดำเนินชีวิตให้รุ่งโรจน์ถึงตำแหน่งรัฐบุรุษอาวุโส ซึ่งเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าแต่งตั้งในประเทศไทย แต่ที่เจริญชีวิตรุ่งเรืองสูงเด่นเกินกว่าคติความคาดคิดของญาติมิตรมาได้ถึงเพียงนี้ ทางพระพุทธศาสนานิยมว่าเพราะคุณความดีในปางก่อนส่งเสริมเป็นกำลัง นำให้ชีวิตในปัจจุบันสู่ทางของความรุ่งเรือง เริ่มแต่เป็นนักเรียนศึกษาวิชาสามัญมาตราบเท่าได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรมและศึกษาภาษาฝรั่ง มีความเฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง ด้วยสติปัญญาสามารถมาก จึงสอบไล่วิชากฎหมายชั้นเนติบัณฑิตได้เมื่ออายุยังไม่ทันครบ 20 ปี จากนั้นได้สมัครทำงานในหน้าที่เสมียนสำนักงานทนายความและกรมราชทัณฑ์ ตราบเท่าถึงได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงยุติธรรมให้ทุนไปศึกษาวิชากฎหมาย ณ ประเทศฝรั่งเศส ได้เล่าเรียนจนได้ปริญญาเป็นดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมายและสอบไล่ได้ประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูงในทางเศรษฐกิจ

อาศัยท่านรัฐบุรุษอาวุโสมีสมองปราดเปรื่องในด้านกฎหมาย มุ่งมั่นแต่จะให้ประเทศชาติมีความเจริญเทียมทันนานาอารยประเทศ ได้ชักชวนบุคคลกลุ่มหนึ่งให้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทางเป็นประมุข ได้ร่วมดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย จัดการปกครองปรับปรุงแก้ไขเพื่อความเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ เพราะปราดเปรื่องในความคิด ผู้ที่ร่วมคณะตามไม่ทันจึงมีความเห็นขัดกันเป็นธรรมดา  เมื่อถูกกระทบกระเทือนในกลุ่มนักการเมืองชวนให้เป็นที่อิดหนาระอาใจอยู่เสมอ แต่เพราะมีใจมั่นคงจงรักภักดีต่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างแน่นแฟ้น จึงชวนให้เกิดกำลังใจมีความอดทนเพื่อส่วนรวมอยู่ได้

ท่านรัฐบุรุษอาวุโสได้มอบกายถวายชีวิตโดยใช้สติปัญญาสามารถดำเนินรัฏฐาภิปาลโนบาย ด้วยนโยบายอันเฉียบแหลม จัดระบบการปกครองให้ทันเหตุการณ์ทุกตำแหน่งหน้าที่ ดังจะเห็นความสำคัญในสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ปฏิบัติงานเป็นผลดีแก่บ้านเมืองที่สำคัญหลายประการ เช่น การร่างพระราชบัญญัติเทศบาลเปิดโอกาสให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการปกครองท้องถิ่น การป้องกันและปราบปรามโจรผู้ร้ายภายใต้ทัณฑนิคมเพื่อให้ผู้พ้นโทษแล้วมีที่ดินของตนเอง และเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง

สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญคือได้บอกเลิกสนธิสัญญาไม่เสมอภาคกับประเทศต่าง ๆ อาศัยหลักดุลยภาพแห่งอำนาจให้ประเทศเหล่านั้นยอมทำสนธิสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งประเทศไทยได้รับเอกราชอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็ได้ร่วมกับคนไทยผู้รักชาติทั้งภายในและนอกประเทศจัดตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้นเพื่อร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร ต่อต้านและกวาดล้างกองทหารญี่ปุ่นในประเทศไทย จนกระทั่งได้รับการรับรองและยกย่องจากฝ่ายสัมพันธมิตร มีผลให้การประกาศสงครามต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกาเป็นโมฆะไม่ผูกพันประชาชนชาวไทย นับว่าเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่นำประเทศให้รอดจากการเป็นผู้แพ้ให้กลับเป็นฝ่ายชนะอย่างน่าอัศจรรย์

อนึ่ง เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จนิวัตสู่นครทรงพระราชดำริเห็นว่า นายปรีดี พนมยงค์ ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ ท่านได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในความปรีชาสามารถบำเพ็ญคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ จึงมีพระราชโองการโปรดเกล้ายกย่องไว้ในฐานะรัฐบุรุษอาวุโส มีหน้าที่รับปรึกษาราชการแผ่นดินเพื่อความวัฒนาถาวรของชาติสืบไป นับเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเทียมถึงอีกประการหนึ่ง

ตามนัยยะบางประการที่นำชีวประวัติมาแสดงพอเป็นอุทาหรณ์นี้ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของปรีชาสามารถปราดเปรื่อง ไม่เลือกว่าจะจับงานประเภทใด ล้วนแต่ยังงานประเภทนั้นให้สมบูรณ์พูนผลเจริญทันเหตุการณ์ด้วยความเหมาะสมทุกตำแหน่ง ทั้งนี้ก็เพราะอาศัยปรีชาสามารถที่ได้อบรมศึกษาเป็นส่วนสำคัญ แม้จะมีชาติตระกูลต่ำต้อยเพียงไร ก็ย่อมตั้งตนได้เพราะความสามารถฉลาดเฉลียว สมที่จะเป็นข้าราชการสนองพระเดชพระคุณ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ได้เป็นอย่างดี สมดังอุบาลีพุทธภาษิตที่เชิญมาเป็นหัวข้อเทศนาว่า “ปัญญาวุฒิสัมปันโน วิทานะวิทิโกวิโท กาลันโย สะมะยันยูจะ ราชะวะสัญจึงวะเสหิ” มีความว่าผู้มีปัญญาถึงพร้อมด้วยความรู้ ฉลาดในวิธีจัดงาน รู้กาลและรู้สมัย เขาพึงอยู่ในราชการได้ดังนี้

อันคุณธรรมคือปัญญานี้ ถึงจะมีจิตอัธยาศัยมาแต่ชาติกำเนิดบ้าง ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการใช้ในการดำเนินชีวิต ยังอาศัยการศึกษาในปัจจุบันประกอบอบรมเพื่อเพิ่มเติมจากครูอาจารย์อีกตามสามารถ ด้วยวิธีศึกษาจดจำความรู้ของครูอาจารย์มาเป็นความรู้ของตน ถ้าไม่พยายามอบรมประกอบการศึกษาให้ทวีอยู่เสมอแล้ว ย่อมถึงความเสื่อมสิ้นสูญเป็นผู้ด้อยถอยปัญญา ท่านสรรเสริญคุณปัญญาไว้หลายประการ เช่น แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มา ปัญญาเป็นดังแสงสว่าง ปัญญาเป็นรัจนะของนรชน ความได้ปัญญาให้เกิดผลดังนี้

การที่จะอบรมปัญญาให้เกิดมีต้องอาศัยประพฤติอยู่ในหลักเกณฑ์การศึกษาลักษณะหนึ่ง ว่าด้วยยึดองค์คุณคือ สุ จิ ปุ ลิ หรือฟัง คิด ถาม จด อีกลักษณะหนึ่งว่า ต้องอาศัยการหมั่นสดับตรับฟังจากการสอนของครูอาจารย์ หรือการอ่านตำรับตำราเรียกว่า “ตรรกยะ” หมั่นคิดนึกตรึกตรองใคร่ครวญเหตุการณ์ความรู้ที่ได้สดับมาเรียกว่า “จิตตามัย” และหมั่นฝึกฝนอบรมพากเพียรพยายามฝึกฝนอบรมจนสมเหตุสมผล เรียกว่า “พลานามัย” ทั้ง 2 ลักษณะนี้ ก็เป็นแนวทางความฉลาดอย่างเดียวกันคือ ต้องอาศัยการสดับตรับฟังจากครูบาอาจารย์หรือตำรับตำราต่าง ๆ เป็นการจดจำความรู้ของอาจารย์มาเป็นความรู้ของตนเป็นเบื้องต้นก่อน เพราะความรู้ของครูอาจารย์ที่ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ก็คือ ปรีชาสามารถของท่าน เมื่อท่านสั่งสอนก็คือ ถ่ายความรู้ให้แก่เด็ก เมื่อศิษย์จดจำคำสอนของครูไว้ได้ ละเอียดถี่ถ้วนเพียงไร ก็ชื่อว่านำความรู้ของครูมาเพิ่มเติมความรู้ของเด็กให้สูงเด่น เฉลียวฉลาดกว้างขวางยิ่งขึ้น จึงเรียกได้ว่าจะเกิดมีความรู้เฉลียวฉลาดเป็นปัญญาสามารถในการดำรงชีวิตสืบไป

เบื้องต้นต้องอาศัยการสดับตรับฟังภายในครอบครัวมีจากมารดาบิดาเป็นต้นก่อน และท่านกล่าวว่ามารดาบิดาเป็นครูคนแรกของลูกอยู่แล้ว เมื่อมีการศึกษาศิลปวิทยาการด้วยการสดับตรับฟังคำสอนของครูอาจารย์ ตลอดทั้งอ่านจากตำราซึ่งบรรจุคำสอนของครูอาจารย์ ต้องอาศัยความใคร่ครวญตรึกตรองตามหลักเหตุผล ดีเลว ควรไม่ควร เป็นประโยชน์หรือไร้ประโยชน์อย่างไรอีกชั้นหนึ่ง มิใช่เชื่อกันตามไปโดยง่าย เป็นการน้อมใจเชื่อ หลงใหลใฝ่ฝันไปตามเป็นโลกาธิปไตย เมื่อใคร่ครวญคิดพิจารณาเหมาะเหตุสมผล สิ่งชั่วควรละเว้นก็ละเว้น ไม่ประพฤติส่วนชั่วใหม่เพิ่มเติม อบรมฝึกฝนส่วนที่เป็นคุณงามความดี มีคุณประโยชน์แท้จริง ทั้งแก่ตนและผู้อื่น จึงยึดดำเนินตาม ทำนองฟังด้วยย่อมได้ปัญญา เข้าลักษณะ “จินตามยปัญญา” ถ้าไม่สะดวกใจด้วยยังติดใจสงสัยเคลือบแคลงบางข้อบางตอนก็อย่าอมภูมิหรือทำนองคมในฝักเกรงเสียศักดิ์ศรีภูมิฐาน จะเป็นการทอนความเฉลียว ฉลาดเนื่องมาจากการสดับและการใคร่ครวญให้ลดน้อยถอยกำลัง อันจะหมดความเข้มแข็งเพราะไม่รอบรู้ในกิจการนั้น ๆ อย่างถ่องแท้ อย่างนี้ก็ต้องอาศัยการอบรมฝึกฝน บากบั่นหมั่นเพียรในการไต่ถามสอบสวนจากครูอาจารย์หรือผู้รู้ทั้งหลายจนสิ้นสงสัยหมดความลังเล มีแต่ความโปร่งใจ ปลื้มใจโดยคนเดียว และถ้ามีคนติดใจสงสัยในบางเรื่องบางราว นำให้ต้องไต่ถามเพื่อความเข้าใจถูกต้องสืบไปเช่นนี้ เมื่อเกิดความหลงลืมหรือเข้าใจผิดพลาด ก็ยากที่จะมีหลักฐาน ยิ่งจดจำติดสมองได้นับว่าเป็นการจารึกอย่างวิเศษ เพราะติดตัวอยู่เสมอไม่เหมือนจดอยู่ในสมุดหรือภาชนะอย่างอื่น ย่อมนำไปไหนได้ยาก เมื่อมีการจดจำจารึกได้เช่นนี้แล้ว เป็นอันได้ปฏิบัติตนครบองค์คุณของผู้เฉลียวฉลาดที่ท่านกล่าวเตือนว่า คนที่ขาดการฟัง คิด ถาม และจดเสียแล้ว เขาจะเป็นคนฉลาดไม่ได้เลย ด้วยประการเช่นนี้

ท่านรัฐบุรุษอาวุโสได้ดำเนินชีวิตตามหลักของนักปราชญ์ที่มีการศึกษาเล่าเรียนวิชาการมาแต่เยาว์วัย และเร่งศึกษาวิชาการให้เจริญกว้างขวางตามลำดับอายุ เป็นการเพิ่มเติมความเฉลียวฉลาดจนสามารถหยั่งทราบเหตุแห่งความเสื่อมเสีย เหตุแห่งความเจริญวัฒนา และทราบเหตุเพื่อละความเลว อดทนและหมั่นอบรมตนจึงเป็นผู้สามารถยกตนขึ้นจากฐานะลูกชาวนาขึ้นสู่ฐานะรัฐบุรุษอาวุโสเฟื่องฟุ้งด้วยเกียรติคุณทั่วประเทศตลอดถึงต่างประเทศ แม้ว่าชีวิตจะแตกดับถึงอสัญกรรมไปแล้วก็ตาม ส่วนคุณงามความดีที่ประดับประเทศชาติยังคงเป็นอนุสาวรีย์ปรากฏรับความสดุดีจากกัลยาณชนตลอดกัลปาวสาน ขออำนาจกุศลทักษิณานุประทานที่ปิยชนทั้งหลาย มีท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ เป็นประธานได้พร้อมใจกันบำเพ็ญเนื่องในดิถีศุภวาระ 100 วันแห่งการถึงอสัญกรรมคืนนี้จงประมวลเป็นมหากุศล บันดาลถึงรัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์ ให้มีแต่ความเกษมสำราญตามควรแก่ปิติวิสัยในสัมปรายภพสมเจตนาปรารภที่คิดถึงของปิยชนทั้งหลายทุกประการ

 

แสดง ณ วัดพนมยงค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2526