Focus
- กองบรรณาธิการได้คัดสรรเรื่องราวชีวิตและผลงานของ “หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร” ผ่านการบันทึกของคุณกรรณิกา วงศ์ปิยะกุล เลขานุการของท่านอันปรากฏในหนังสืออนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2526 ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
- บทความนี้อธิบายถึงแง่มุมนักสังคมสงเคราะห์ผู้มีบทบาทสำคัญทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยเฉพาะการบุกเบิกงานด้านสตรี เด็ก เยาวชน และการพัฒนาชนบท ผ่านการก่อตั้งและประสานงานมูลนิธิ สมาคม และองค์กรต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ รวมถึงการเป็นผู้นำหญิงไทยคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานสภาสตรีระหว่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเสียสละ วิสัยทัศน์ และการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมตลอดชีวิตของเธอ

หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร
ที่มา: อนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ท.จ.ว. วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2526 ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร เป็นธิดาของพลโทพระสารสาส์นพลขันธ์ุ และนางสวัสดิ์ อัศวนนท์ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2458 และมีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน คือ
- ร.อ.สมหวัง สารสาส (พี่ชาย)
- นางจริตราบ สารสาส (น้องสาว)
- นางโสภิณ อัศวเกียรดิ์ (น้องสาว)
- นางเสลา สก็อต (น้องสาว)
การศึกษา
เมื่อสำเร็จมัธยมปีที่ 8 จากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย พ.ศ. 2475 ได้รับประกาศนียบัตรเทียบเท่ามัธยมศึกษาของประเทศฝรั่งเศส จึงศึกษาเภสัชกรรมที่มหาวิทยาลัยซอร์บอน กรุงปารีส จบปีที่ 3 และฝึกงานในร้านขายยา 1 ปี ก็พอดีประเทศไทยเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ เมื่อ พ.ศ. 2482 จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย
พูด อ่าน เขียน ได้ 3 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปญ
ชีวิตสมรส

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร และหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร
ที่มา:อนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ท.จ.ว. วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2526 ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
แต่งงานพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร พระโอรสของพลเอกพระเจ้าบรวงศ์เธอชั้น 5 พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาวสิทธินฤมล เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2483 มีบุตรบุญธรรม 1 คน คือ ม.ล. ธีรฉัตร บุรฉัตร (แต่งงานกับ น.ส.ยุวดี โกมารกุล ณ นคร)
ประวัติหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร
ด้านสังคมสงเคราะห์และการบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์
คุณงามความดีได้บุกเบิก ส่งเสริมสถานภาพสตรีไทยในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด 42 ปี มีทั้งระดับชน ระดับประเทศ ระดับโลกด้วย บทบาทสำคัญ ๆ ที่หม่อมท่านได้พากเพียรทำด้วยใจจริงมีดังนี้คือ
ภายในประเทศ
2484 อาสากาชาด (งานอาสาสมัครสังคมสงเคราะห์ครั้งแรก)
หลังจากนั้นเป็นกรรมการและริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิฯ, สมาคม, องค์การกุศล เพื่อสาธารณประโยชน์ ตั้งแต่ไม่มีเงินทุนเลย จนปัจจุบันองค์การต่าง ๆ มีเงินทุนที่จะบริหารงานตามวัตถุประสงค์เป็นล้าน ๆ บาท ตามลำดับดังนี้
ก) องค์การต่าง ๆ ที่เป็นประธานก่อตั้ง หรือมีส่วนก่อตั้ง
2497 มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
2498 โรดารี่แอนด์ ในประเทศไทย (ประธานก่อตั้ง)
2499 มูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (กรรมการ)
2501 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (รองประธานก่อตั้งและรองประธานสมัยที่ 1)
2502 ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ประธานคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง)
2505 มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ประธานก่อตั้ง)
2508 มูลนิธิสิริวัฒนา-เชลเชียร์ (ประธานก่อตั้ง)
2522 มูลนิธิศูนย์กลางประสานงานพัฒนาชนบท (ประธานก่อตั้งด้วยเงินพระราชทาน)
2525 มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน (ผู้บุกเบิกประสานการก่อตั้งและประธานดำเนินงานคนแรก)
ข) องค์การที่มีส่วนริเริ่มเป็นกรรมการก่อตั้ง
2488-2511 สมาคมวายดับบลิว ซี เอ
2491 สมาคมสหประชาชาติในประเทศไทย
2499 มูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
2502 สมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิก และเอเชียอาคเนย์
2502-2504 สมาคมนักสังคมสงเคราะห์
2503 มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน ในพระบรมราชูปถัมภ์
2504 มูลนิธิมหาราช (กระทรวงมหาดไทย)
2504 มูลนิธิพีระยานุเคราะห์ (เป็นประธานมูลนิธิระหว่าง 2507-2509)
2505 มูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้าสตรีไทยมุสลิมแห่งประเทศไทย (เป็นประธานมูลนิธิระหว่างปี พ.ศ. 2507 - พ.ศ. 2510)
2506 มูลนิธิช่วยเหลือเยาวชน
2508 สันนิบาดมูลนิธิแห่งประเทศไทย
2508 มูลนิธิช่วยเด็กกำพร้าอีสาน
2509 สโมสรสตรีนานาชาติในประเทศไทย
ค) องค์การที่เป็นรองประธาน/กรรมการ
2491-2510 มูลนิธิช่วยคนตาบอด
2492 สมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณีวัฒนา
2497 สโมสรวัฒนธรรมหญิง
2501-2519 มูลนิธิช่วยคนหูหนวก
2502-2508 สโมสรอาสากาชาด สภากาชาดไทย
2505-2506 สโมสรอาสารุ่นเยาว์ (ที่ปรึกษา)
2507 มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ (ประธานฝ่ายการสังคมสงเคราะห์)
2507 สมาคมช่วยเด็กกำพร้าดอนบอสโก
2507-2508 สมาคมวัฒนธรรมไทย-สเปญ (นายก)
2510 กองทุนจอห์น เอฟ เคนเนดี้
2510 สมาคมผู็บำเพ็ญประโยชน์ (ที่ปรึกษา)
2511 มูลนิธิรักษาความสะอาดและสุขภาพของเด็กนักเรียน สโมสรซอนต้า (ที่ปรึกษาในการก่อสร้าง)
2513 มูลนิธิหมู่บ้านโสสะ (ช่วยก่อสร้าง)
2518 สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาการ แห่งประเทศไทย (ที่ปรึกษา)
2519 คณะกรรมการประสานงานระหว่างองค์การเอกชนและการป้องกันพลเรือน กระทรวงมหาดไทย
2519 ลูกเสือชาวบ้าน (เป็นสมาชิก)
ด้านการประชุมจัดงาน และอื่น ๆ
2500 ริเริ่มให้มีอาคารทำแขน-ขาเทียม
2502 จัดสัมมนาระหว่างองค์การเอกชนและยูนิเซฟ เรื่องเยาวชน ณ กรุงเทพฯ
2505 ช่วยให้มีโรงเรียนนักกายภาพบำบัดเป็นแห่งแรกในเมืองไทย ที่โรงพยาบาลศิริราช
2506 ประธานจัดงานวันคนพิการโลก (ครั้งแรก)
2510 ประธานริเริ่มทำการป้องกันโรคโปลิโอ ครั้งแรกในเมืองไทย
2519 ประธานจัดงานมิตรสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น (รายได้สมทบทุนมูลนิธิใจไทย และจัดเป็นถุงของขวัญให้ตำรวจ ทหาร พลเรือนตามชายแดน เนื่องในวันปีใหม่)
2520-2521 ประธานร่วมจัดงานบุปผชาติเขตหลังตั้งใจช่วย (ตำรวจ ทหาร พลเรือนชายแดน)
หมายเหตุ ระหว่างปี พ.ศ. 2511-2518 ตามเสด็จพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ซึ่งได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอินเดีย เนปาล อาฟกานิสถาน ศรีรังกา เดนมาร์ก และนอรเวย์
2518-2524 คณะอนุกรรมการกิจกรรมด้านสตรีของรัฐบาล (ที่ปรึกษา)
2523 ผู้ประสานการจัดประชุมชาวชนบทไทยทั้วประเทศ (ครั้งแรก) ที่สวางศนิวาส มีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเจ้าของเรื่อง
2523 กรรมการฝ่ายต้อนรับงาน “ราตรีศิลปาชีพ”
2524 รักษาการประธานจัดงานรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน
2525 อนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี (ที่ปรึกษา)
2525 ประธานร่วมฝ่ายต้อนรับงาน “200 ปี แห่งสายสัมพันธ์”
2525 กรรมการผู้ประสานงานรางวัลวัรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน
2526 ประธานร่วมจัดงาน วาย ดับบลิว ซี เอ บาร์ซาร์
2526 ผู้ประสานการจัดงาน “พัฒนาสินค้าหัตถกรรม” เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ชาวชนบท และแก่สินค้าหัตถกรรมไทย สืบเนื่องจากงานโคเน๊กซ์ 81 (กุมภาพันธ์ 2524)
ด้านการต่างประเทศ

หม่อมงามจิตต์ นักประสานงานสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ ภาพถ่าย ร่วมกับผู้แทนนานาชาติ ในการประชุมสภาสตรีระหว่างประเทศ
ที่มา: อนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ท.จ.ว. วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2526 ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
เป็นกรรมการสภาสตรีระหว่างประเทศ (ICW) ในตำแหน่งต่าง ๆ มาช้านาน และดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานอยู่ถึง 6 ปี จึงได้รับเลือกเป็นประธานสภาสตรีระหว่างประเทศ เมื่อ พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) ณ การประชุมใหญ่ ที่แวนคูเวอร์ ประเทศคานนาดา ซึ่งประชุมในหัวข้อเรื่อง “Challenge of the Future” และพลอยจูงให้พระองค์ชายทรงเลื่อมใสและทรงเป็นสมาชิกตลอดชีพคนแรกของสภาสตรีระหว่างประเทศ และทรงเป็นสุภาพบุรุษพระองค์แรกเสียด้วย ก่อนสิ้นชีวิตหม่อมงามจิตต์ดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ ซึ่งเป็นทั้งที่ปรึกษาและกรรมการอำนวยการของสภาสตรีระหว่างประเทศ มีสิทธิออกเสียงด้วย ท่านเป็นประธานกิตติมศักดิ์อยู่ได้ 2 วาระ วาระละ 3 ปี ทั้งนี้เพราะ Darn Miriam Dell ได้รับเลือกเป็นประธานอยู่ 2 วาระ เช่นเดียวกัน
ในวาระที่สภาสตรีระหว่างประเทศฉลอง 90 ปีของการก่อตั้ง เมื่อปี 2521 หม่อมงามจิตต์ เป็นผู้เสนอและสนับสนุนให้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ น้อมเกล้าฯ ถวายเหรียญเซเรสแห่งปี ค.ศ. 1979 แต่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 ณ พระที่นั่งจักรี ในขณะนั้นหม่อมงามจิตต์ยังดำรงตำแหน่งประธานอยู่ และในตำแหน่งเกียรติยศนี้เองที่รัฐบาลอังกฤษในนามของสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบต ได้จัดเลี้ยงแสดงความยินดีแก่หม่อมท่าน พร้อมกันนี้ได้มีประมุขของประเทศต่าง ๆ ส่งสาน์สมาแสดงความยินดีมากมาย ในช่วงนี้หม่อมงานจิตต์ออกเดินทางมาก เพราะต้องตระเวนไปเยี่ยมเยือนองค์การสมาชิกมากมายหลายประเทศ และโชคดีได้รับการสนับสนุนในด้านการเงินจากรัฐบาล (สมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี) อีกทั้งสภาสตรีของประเทศสมาชิกก็ได้เชิญท่านไปเปิดประชุม ไปเปิดสัมมนาหลายแห่ง
เป็นผู้สนใจงานพัฒนาที่เกี่ยวกับสตรี เด็ก และเยาวชนมาก จากการที่ได้ประชุมในต่างประเทศมากมายหลายครั้ง จึงให้มีการสนับสนุนองค์การสหประชาชาติ ในเรื่อง ปีสตรีสากล ปีสากลสำหรับเด็กและการพัฒนาชนบทด้วย
งานชิ้นสำคัญที่ได้ปฏิบัติ
1. ในการประชุมกรรมการอำนวยการสภาสตรีมระหว่างประเทศที่ปารีส เมื่อ พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) หม่อมงามจิตต์ได้ขอให้สภาสตรีระหว่างประเทศยื่นข้อเสนอต่อองค์การสหประชาชาติผ่านผู้แทนของเรา “ขอให้ช่วยรักษาความสงบของโลก อย่าให้เกิดการข่มเหงรังแกกันไม่ว่าส่วนไหนของโลก” ทั้งนี้เพราะว่า ขนาดนั้นมีกองทหารของเขมรแดงบุกเข้ามาฆ่าคนไทย ลูกเด็กเล็กแดง ผู้หญิง อย่างโหดร้ายทารุณหลายครั้งหลายหน ในเขตปราจีนบุรี และอรัญประเทศ เพราะต้องการอาหารและทรัพย์สินเงินทอง
2. จัดการประชุมใหญ่ในโรบี ประเทศเคนยา พ.ศ. 2522 ในหัวข้อ “ Communication” ให้สำเร็จลุล่วงและได้ผลดี สามารถนำสตรีชาวอฟริกาได้เข้าไปประชุมในโรบีได้ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลของทั้งสองประเทศนี้ไม่เป็นมิตรกัน โดยที่พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ทรงช่วยเป็นธุระเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศให้ และอีกหลายต่อหลายครั้งที่ชาวไนจีเรียและชาวแอฟริกันตะวันตก ไม่ยอมเข้าร่วมประชุมกับชาวแอฟริกาได้ ซึ่งการประชุมที่ในโรบีมีสัมมนาหนึ่งวันเรื่อง “The Child-today-the World’s Future”
3. พ.ศ. 2521 จัดงานฉลองครบรอบ 90 ปีของสภาสตรีระหว่างประเทศ ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ คนไทยทั้งหมดพักที่โรงแรมบริสตอล นอกจากพิธีฉลอง 90 ปีแล้ว ยังจัดสัมมนาเรื่อง Women in Development มีเจ้าหญิงซอนยา, พระชายาของมงกุฎราชกุมารนอร์เวย์เสด็จร่วมฟังการสัมมนาด้วย
4. พ.ศ. 2522 จัดประชุมสตรีชนบททั่วโลก และประชุมผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจด้านพัฒนาชนบท ที่กรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ การประชุมครั้งนี้เรียก “International Seminar on Leadership Training for Rural Women in Socia-economic Development” ประธานาธิบดีมาคอสมาเปิดงาน
5. พ.ศ. 2524 จัดงาน โคเน๊กซ์ 81 ซึ่งมีงานแสดงผลิตภัณฑ์หัตถกรรมระหว่างประเทศ ที่สวนอัมพร มีการประชุมชาวชนบททั่วโลกที่สวางคนิวาส มีนิทรรศการเทคโนโลยีพื้นบ้านที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หม่อมงามจิตต์มีส่วนริเริ่มผลักดันและหาเงินทุนจากรัฐบาล จากองค์การยู เอน เอฟ พี เอ (UNFPA) จากยูนิเซฟ จากแอสแคพ จากยูนิโด ได้กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐบาล องค์การเอกชน และองค์การระหว่างประเทศด้วย โดยมีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าของเรื่อง
ผู้แทนรัฐบาลไทยและที่ปรึกษาคณะผู้แทนรัฐบาลไทย
ในประชุมระหว่างประเทศและการประชุมสหประชาชาติ ตามลำดับดังนี้คือ
2500 การประชุม UNCTAD, CASTASIA, International Social Development ณ กรุงนิวเดลลี ประเทศอินเดีย (เป็นผู้แทนสตรี และสภาสตรีโลก)
2516 European Security Conferences ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
2517 UN, World Population Conference ณ กรุงบูคาเรสต์ ประเทศรูมาเนีย และเป็นกรรมการดำเนินงานสำหรับองค์การเอกชนระหว่างประเทศ (Tribune)
2519-2522 การประชุมสหประชาชาติ ณ กรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
2520 การประชุมภูมิภาคของสหประชาชาติ ณ กรุงกัตมันดู ประเทศเนปาล
2520 The Commission on status of Women Conference to Draft the Convention on Elimination of Discrimination of Women ณ เจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
2521 การประชุม UNESCO Regional Conference of Ministers and Those Responsible for Economic Planning in Asia and Oceania ณ กรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา
2522 การประชุม FAO World Conference on Agrarian Refrom and Rural Development
2523 การประชุม IWY (International Women’s Year) Mid-Decade Conference ณ กรุงโคเปเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ด้านส่งเสริมสถานภาพสตรี ให้มีบทบาทต่อการเสริมสร้างประเทศในด้านต่าง ๆ

ในฐานะประธานสภาสตรีแห่งชาติ นำเสด็จพระราชดำเนิน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในงานเคหะศิลป์ของสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมก์ พฤษภาคม 2506
ที่มา: อนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ท.จ.ว. วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2526 ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
1. เป็นผู้บุกเบิกคนแรกให้สตรีไทยออกมาทำงานสาธารณประโยชน์อย่างเป็นระบบ อันเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระสังคมโดยส่วนรวมด้วย
2. ด้วยจริยปฏิบัติ และผลงานโดยตลอดมาของท่าน สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของสตรีไทย นอกจากนี้ ผู้ที่ส่งเสริม และชักนำให้สตรีไทยมีสถานภาพเป็นที่ยอมรับ ยกย่อง และเชิดชู ในวงสังคมว่าทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้ หม่อมท่านทำด้วยการจัดตั้งให้มีสมาคม มูลนิธิฯ ต่าง ๆ ตามความต้องการของสังคมในขณะนั้น โดยเป็นผู้ริเริ่มวิธีการทำงานแบบประสานงาน หม่อมท่านปฏิบัติงานและเชื่อมโยงระหว่างองค์การกุศลและบุคคลต่าง ๆ ทำงานร่วมกันเป็นคณะ ไม่ทำคนเดียว โดยดึงบุคคลจากทุกวงการที่เกี่ยวข้องมาช่วยกัน เมื่องานใดสำเร็จลุล่วงดี และสามารถดำเนินการไปได้เอง ท่านก็จะปล่อยวาง ให้บุคคลอื่นทำต่อไป และท่านก็จะริเริ่มเรื่องอื่นตามความต้องการของสังคมต่อไป นอกจากนี้เมื่อท่านเห็นว่างานใดที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติได้อีก ท่านก็จะระดมพลังคนและทรัพยากรต่าง ๆ เข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
ด้านสื่อมวลชน
พ.ศ. 2498-2511 เป็นบรรณาธิการ (สตรีรุ่นแรก) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ภาษาอังกฤษฉบับแรกของประเทศไทย “แสตนดาร์ด” ตลอดระยะเวลา 21 ปี ตั้งขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเจตนาจะโฆษณาเผยแพร่ประเทศไทยไปยังนานาประเทศ และให้นานาชาติเข้าใจวัฒนธรรม และทราบเหตุการณ์ในประเทศอย่างถูกต้อง
2499-2511 บรรณาธิการวารสารยุวกาชาด-ประเทศไทย
2503-2511 เจ้าของและบรรณาธิการ หนังสือสำหรับผู้หญิง “เรวดี”
2505-2509 เจ้าของและบรรณาธิการ หนังสือสำหรับผู้หญิง “เยาวชน” ในการนี้ได้ริเริ่มจัดหาทุนให้เยาวชนจากต่างจังหวัดได้เข้ามาทัศนศึกษา และเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญในสถานที่ราชการต่าง ๆ ในกรุงเทพเป็นหมู่คณะด้วย ทราบว่าภายหลังรัฐบาลได้รับงานชิ้นนี้ไปดำเนินการต่อ
2509 Publication หนังสือสำหรับเด็ก กระทรวงศึกษาธิการ
2510 Publication Travelogues to South America
2513 Publication Leadership Training
ตำแหน่งงานปัจจุบัน (ก่อนถึงแก่อนิจกรรม) ระดับประเทศ ทางด้านพัฒนาชนบท และพัฒนาเยาวชน
มูลนิธิศูนย์กลางประสานงานพัฒนาชนบท ก่อตั้งจากมติที่ประชุมของผู้แทนองค์การของรัฐและเอกชน ที่ปฏิบัติงานพัฒนาชนบท ประมาณ 62 องค์การ (ปี 2522) เพื่อทำหน้าที่ประสานงานกิจการพัฒนาชนบทของภาครัฐและเอกชน อันจะเป็นการช่วยส่งเสริมการพัฒนาชนบทอีกทางหนึ่ง โดยอาศัยเงินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานช่วยชาวชนบทเป็นทุนก่อตั้ง และมีผู้บริจาคเงินเป็นสมทบเป็นลำดับ ฯลฯ
มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน เป็นผู้บุกเบิกและประสานงานการก่อตั้งซึ่งองค์การเอกชน 10 องค์การที่มีสาขาทั่วประเทศ ร่วมใจกันก่อตั้งในโอกาสสมโภชกรุงฯ 200 ปี เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ ศาสนา และราชวงศ์จักรี ตลอดทั้งบรรพบุรุษไทยทุกคน ที่ช่วยกันรักษาเอกราชตลอดเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเพิ่มเยาวชนที่ดีให้เป็นสัญลักษณ์ที่คนไทยทุกคนทั้งในประเทศและนอกประเทศ เป็นเจ้าของโครงการร่วมกันอุปถัมภ์เยาวชนที่ประพฤติดี และขัดสนจากชนบททั่วประเทศได้มีโอกาสเรียนหนังสืออย่างต่อเนื่องจนมีงานทำ เพราะเยาวชนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญที่จะต้องทำนบำรุงรักษาประเทศชาติต่อไป (ประธานดำเนินงานคนแรก)
รายชื่อประเทศที่ศึกษาดูงานสังคมสงเคราะห์. ประชุม ฯลฯ ตามคำเชิญของรัฐบาล สถาบัน และองค์การต่าง ๆ
- อาฟกานิสถาน
- อาร์เจนติน่า
- ออสเตรเลีย
- ออสเตรีย
- เบลเยี่ยม
- บราซิล
- พม่า
- กัมพูชา
- แคนาดา
- ศรีลังกาจีน
- โคลอมเบีย
- เช็คโกสโลวาเกีย
- เดนมาร์ก
- อียิปต์
- ฟิจิ
- ฟินแลนด์
- ฝรั่งเศส
- เยอรมัน
- อังกฤษกรีนแลนด์
- ฮ่องกง
- อินโดนีเซีย
- อิหร่าน
- อิสราเอลอิตาลี
- ญี่ปุ่น
- คีนธา
- เกาหลี
- คูเวต
- ลาว
- ลักแซมเบอร์ก
- มาเลเซีย
- เม็กซิโก
- เนปาล
- เนเธอร์แลนด์
- นิวซีแลนด์
- นอร์เวย์
- ปากีสถาน
- เปรู
- ฟิลิปปินส์
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- เปอร์โตริโก
- เซ้าท์อาฟริกา
- โรมาเนีย
- เซเนกัล
- สเปญ
- สิงคโปร์
- สวีเดน
- สวิสเซอร์แลนด์
- ไต้หวัน
- แทนซาเนีย
- อุรุกวัยอเมริกา
- รัสเซีย
- เวียดนาม
- ยูโกสลาเวีย
- ตุรกี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประเทศไทย พ.ศ. 2495 - ทุติยาภรณ์กุฎไทย ตริยาภรณ์ช้างเผือก
พ.ศ. 2502 - ทวิติยาภรณ์มงกุฎไทย
พ.ศ. 2510 - เหรียญกาชาดสรรเสริญชั้น 1
พ.ศ. 2519 - ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
ประเทศเกาหลี พ.ศ. 2525
ปริญญากิตติมศักดิ์ พ.ศ. 2513 สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (คนแรก)
กิตติมศักดิ์อื่น ๆ พลเมืองกิตติมศักดิ์แห่งเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส
กิตติประวัติของหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ได้รับการบันทึกไว้ใน
The World Who’s Who o f Women, Third Edition, published by International Biographical Centre, Cambridge, England.
หมายเหตุ :
- บทความชิ้นนี้มีการปรับปรุงชื่อโดยกองบรรณาธิการ สถาบันปรีดี พนมยงค์จาก “ชีวประวัติ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ท.จ.ว. หม่อมในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร” เป็น “ชีวประวัติ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” โดยตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี 2526
อ้างอิง :
- กรรณิกา วงศ์ปิยะกุล, เรื่อง “ชีวประวัติ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ท.จ.ว. หม่อมในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร”, อนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ท.จ.ว. วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2526 ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส, (ม.ป.ท. : สมชายการพิมพ์, 2526), หน้า 44-50.