ภายหลังที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศยกย่องนายปรีดี พนมยงค์ ไว้ในฐานะ “รัฐบุรุษอาวุโส” และให้มีหน้าที่รับปรึกษากิจราชการแผ่นดิน เพื่อความวัฒนาถาวรของชาติสืบต่อไป
ประกาศนั้นมีใจความว่า
ประกาศ
อานันทมหิดล
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่า นายปรีดี พนมยงค์ ได้เคยรับหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินในตำแหน่งสำคัญๆ มาแล้วหลายตำแหน่ง จนในที่สุดได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และปรากฏว่า ตลอดเวลาที่ นายปรีดี พนมยงค์ ดำรงตำแหน่งเหล่านี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและด้วยความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ ทั้งได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในความปรีชาสามารถ บำเพ็ญคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติเป็นเอนกประการ
จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ยกย่อง นายปรีดี พนมยงค์ ไว้ในฐานะรัฐบุรุษอาวุโส และให้มีหน้าที่รับปรึกษากิจราชการแผ่นดิน เพื่อความวัฒนาถาวรของชาติสืบไป
ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พุทธศักราช 2488 เป็นปีที่ 12 ในรัชชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
นายกรัฐมนตรี
พร้อมกันนี้ได้พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตน์ราชวราภรณ์ ซึ่งถือเป็นราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่สามัญชนพึงได้รับพระราชทาน แก่นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส
ประกาศนั้นมีใจความว่า
แจ้งความสำนักนายกรักฐมนตรี
เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์
ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้า แก่นายปรีดี พนมยงค์
แจ้งความ ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2488
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
นายกรัฐมนตรี
เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์
ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ คือ
เครื่องขัตติยราชอิสสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์แก่
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล
เครื่องราชอิสสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตน์ราชวราภรณ์แก่ นายปรีดี พนมยงค์
แจ้งความ ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2488
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
นายกรัฐมนตรี