Focus
- คำแถลงนโยบายฉบับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศหลังความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างเสถียรภาพภายในประเทศ ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเกษตร สาธารณสุข การศึกษา และความมั่นคง ทั้งนี้ รัฐบาลเน้นหนักในการพัฒนาประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตย โดยยึดหลักสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นธรรมเป็นแกนกลางของการบริหารบ้านเมือง

นายปรีดี พนมยงค์ แถลงนโยบายต่อรัฐบาลต่อสภาผู้แทนราษฎรใน พ.ศ. 2489
คําแถลงนโยบายของรัฐบาล[1]
ท่านประธานรัฐสภา
ด้วยตามที่ท่านสมาชิกพฤฒสภาและท่านสมาชิกสภาผู้แทนต้องการให้ข้าพเจ้ารับใช้ชาติต่อไปอีกในยามคับขัน ข้าพเจ้าก็จําต้องสนองตามความต้องการของท่าน
บัดนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามประกาศลงวันที่ 11 มิถุนายน 2489 ดังท่านได้ทราบแล้ว รัฐบาลจึงขอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาดังต่อไปนี้
1. แม้ว่าในขณะนี้สถานะการณ์ของประเทศในส่วนที่เกี่ยวกับภายใน ความยากแค้นในการครองชีพและความสงบเรียบร้อยโดยทั่วไป เพียงเริ่มจะบรรเทาลงบ้าง แต่ก็ยังเป็นภาระหนักอยู่มิใช่น้อย ซึ่งรัฐบาลจําเป็นต้องพยายามฝ่าฟันในอันที่จะแก้ไขปรับปรุงให้เป็นที่เรียบร้อยและเป็นผลดี เพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชนในส่วนรวมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
2. การต่างประเทศ เนื่องจากพฤตติการณ์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การผูกไมตรีอันดีกับสหประชาชาติ และนานาประเทศตลอดทั้งปฏิบัติการให้เขาเกิดมีความเชื่อถือขึ้นนั้น ย่อมได้รับผลดียิ่ง รัฐบาลนี้จึงจะดําเนินการอย่างเต็มความสามารถที่จะส่งเสริมสัมพันธไมตรีตลอดทั้งความเข้าใจอันดี ซึ่งมีอยู่อย่างดีกับสหประชาชาติแล้วนั้นให้ดียิ่งขึ้น และร่วมมือกับสหประชาชาติตามอุดมคติซึ่งองค์การนั้นได้วางไว้ ในการนี้รัฐบาลหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากรัฐสภา ทั้งนี้เพราะปัญหาการต่างประเทศบางเรื่องนั้นเป็นนโยบายของชาติโดยแท้ และเพื่อแสดงให้นานาชาติเห็นอกเห็นใจว่า ประชาชนคนไทยทั้งหลายมีความสมัครสมานกลมเกลียว ประเทศไทยตั้งอยู่ในความสงบสุข บูชาความเป็นธรรม ซึ่งตรงตรงกับหลักการของสหประชาชาตินั้นเอง
3. การทหาร รัฐบาลนี้ถือว่ากําลังทหารที่มีอยู่นั้นเป็นของประเทศชาติโดยฉะเพาะ และจะได้ปรับปรุงการจัดการปกครองทางทหารให้สอดคล้องกับการปกครองแบบประชาธิปไตยตามที่เหมาะสมกับประเทศของเรา
จะได้จัดการปรับปรุงวิทยะฐานะผู้บังคับบัญชาทหาร ให้สมรรถภาพสูงขึ้น บํารุงความสุขของทหาร และให้ทหารได้อยู่ในระเบียบวินัยโดยเคร่งครัด
4. การคลัง จะจัดหาเงินโดยวิธีที่เหมาะสมเพื่อการใช้จ่ายพอสมควรของรัฐ ในอันจะบูรณะบ้านเมืองให้ดําเนินกลับไปสู่สภาพปรกติ
จะปรับปรุงรายได้และรายจ่ายเพื่อให้งบประมาณแผ่นดินเป็นดุลยภาพ
จะจัดให้เงินตรามีเสถียรภาพในระดับอันสมควรแก่ภาวะเศรษฐกิจเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างราคาสินค้าและค่าจ้างได้กลับคืนสู่สภาพปรกติ และให้การค้าและธุระกิจได้อาศัยหลักที่มั่นคงยั่งยืนสืบไป
5. การเกษตร รัฐบาลนี้จะได้สนใจและเอาใจใส่ในเรื่องการเกษตรกรรม จะพยายามเพิ่มพูนการผลิตข้าวให้ได้มากที่สุดที่สามารถจะทําให้ และจะส่งเสริมการเพาะปลูกพืชน์อื่นที่เห็นว่าเป็นสินค้าของประเทศให้มีปริมาณมากขึ้น จะจัดให้มีสถานศึกษาทางปฏิบัติในวิชาการเกษตร นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่มีอยู่ในเวลานี้ เพื่ออบรมและเพาะให้เกิดกสิกรชั้นกลางขึ้น จะได้รีบเร่งการผลิตวัคซีนสําหรับป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น กับทั้งจะเร่งรัดบํารุงพันธุ์สัตว์โดยฉะเพาะอย่างยิ่งคือ โค สุกร เป็ด ไก่ ให้มีปริมาณและคุณภาพมากและดียิ่งขึ้น จะได้จัดหาวิธีควบคุมแพปลา เพื่อให้การค้าปลาของชาวประมงได้เป็นไปโดยยุตติธรรม จะได้ส่งเสิรมการทํายางพาราให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น อีกทั้งจะหาพันธุ์ยางที่ดีมาเผยแพร่แก่เจ้าของสวนยางอีกด้วย จะได้ปรับปรุงโครงการป่าไม้เสียใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานะการณ์ปัจจุบัน จะได้ก่อสร้างการชลประทานบริเวณลุ่มแม่น้ําเจ้าพระยาและโครงการอื่น ๆ ตลอดจนสนับสนุนการชลประทานท้องที่ จะส่งเสริมการสหกรณ์และจัดให้มีการสหกรณ์ขนส่ง โดยฉะเพาะอย่างยิ่งในเบื้องต้นคือการขนข้าว และสหกรณ์รูปอื่นเท่าที่สามารถจะทําได้ และจะเปิดธนาคารเพื่อการสหกรณ์โดยฉะเพาะขึ้น และจะได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสหกรณ์ให้มีอัตราต่ําลงกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้
6. การสาธารณสุข กิจการสาธารณสุขอันกล่าวได้ว่ามีรากฐานสําคัญอยู่ 4 ประการ ได้แก่การผลิตหมด ผลิตยา รักษาและป้องกันนั้น ยังเป็นผลไม่สมบูรณ์พอแก่การดังเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว รัฐบาลมีความมุ่งมาตรที่จะปรับปรุงเพิ่มเติมให้ได้ผลสมบูรณ์ขึ้นจนพอเพียงแต่การโดยลําดับ อาทิเช่นการผลิตแพทย์ที่เรียนสําเร็จออกจากมหาวิทยาลัยก็จะให้ได้จํานวนมากขึ้น การผลิตยาสําหรับรักษาป้องกันโรคก็จะให้ได้ปริมาณและชนิดยาที่จําเป็นทวีขึ้นจนพอสําหรับใช้ สิ่งใดที่ยังขาดและไม่สามารถจะผลิตขึ้นได้เองก็จะหาซื้อเพิ่มเติม ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ การรักษาพยาบาลซึ่งยังมีสถานที่ไม่พอเพียง โดยโรงพยาบาลยังมีไม่ทั่วทุกจังหวัด ก็จะได้พยายามจัดสร้างขึ้นให้ทั่วถึง ตลอดทั้งเครื่องใช้ เครื่องมือตามลําดับไป การป้องกันมิให้โรคเกิดลุกลามระบาทว์แพร่หลายก็จะได้ปรับปรุงวิธีการเพิ่มกําลังงานให้เหมาะสมทั่วถึงตลอดไปตามท้องที่และจะได้จัดให้มีการจําหน่ายยาที่จําเป็นโดยแพร่หลายตามชนบท จัดเจ้าหน้าที่ทําการอบรมพลเมืองให้มีความรู้ในการรักษาสุขภาพอนามัย และวิธีป้องกันโรคโดยตนเองตามสมควร ในด้านการศึกษาก็จะได้ช่วยการสาธารณสุข โดยให้นักเรียนรับความรู้ในเรื่องรักษาสุขภาพอนามัยและการป้องกันโรคพอควรแก่อัตตภาพด้วย
อนึ่ง โรคระบาทว์มีไข้ทรพิษและอหิวาตกโรค ซึ่งค่อยบบรรเทาเบาบางลงแล้ว แต่ยังไม่สงบลงโดยทั่วไปนั้น รัฐบาลก็จะได้เร่งรัดการปราบปรามให้สงบลงโดยทั่วถึง
และทําการป้องกันเป็นพิเศษต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 2 - 3 ปี เพื่อมิให้โรคเกิดระบาทว์รุนแรงขึ้นอีก ส่วนไข้มาเลเรียซึ่งมีชุกชุมอยู่ในท้องที่ต่าง ๆ นั้น รัฐบาลก็จะได้ขยายกําลังทําการรักษาป้องกันให้เบาบางลงโดยทํานองเดียวกัน
7. การอุตสาหกรรม รัฐบาลจะได้ปรับปรุงกิจการภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้มีสมรรถภาพในการผลิต และจะได้ส่งเสริมการอุตสาหกรรมของเอกชนและสหกรณ์ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น ทั้งจะดําเนินการสืบสวนค้นคว้าในทางวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นการส่งเสริมการอุตสาหกรรม กสิกรรมและพาณิชย์กรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้าเพื่อประโยชน์แก่ราชการและเพื่อเผยแพร่แก่ประชาชน ในทางโลหกิจจะได้ดําเนินงานในทางวิชาการแร่ การสํารวจธรณีวิทยา เพื่อค้าคว้าหาแหล่งแร่วัตถุเชื้อเพลิงที่ใช้แทนไม้ เช่นถ่านหินและน้ํามัน เป็นต้น และจะช่วยเหลือผู้ทําเหมืองแร่โดยจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้อันเป็นอุปกรณ์ในการทําเหมือง เพื่อเร่งการผลิตดีบุกให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น
8. การคมนาคม ในหลักทั่วไปรัฐบาลจะจัดการบํารุงและบูรณะการสื่อสารทางรถไฟ การทางและการขนส่งทางบก ทางน้ํา และทางอากาศให้กลับสู่สภาพก่อนสงคราม
งานใดที่สมควรจะมีโครงการไว้แน่นอน รัฐบาลก็จะได้จัดทําโครงการขึ้นให้สอดคล้องกับกําลังคนและกําลังเงินของประเทศ
9. การพาณิชย์ ในด้านการพาณิชย์ รัฐบาลจะได้พิจารณาปรับปรุงกิจการบริหารในกระทรวงพาณิชย์ให้มีประสิทธิภาพเพื่อการพาณิชย์ในยามปรกติภายหลังสงคราม ทั้งจะได้ควบคุมและส่งเสริมการค้าทั้งภมยในและภายนอกประเทศให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจของประเทศยิ่งขึ้น และแก้ไขการครองชีพของราษฎรให้อยู่ในฐานะอันสมควรแก่กาลสมัย
ในทางการค้าภายใน รัฐบาลนี้จะได้ส่งเสริมให้คนไทยนิยมการค้าให้เป็นล่ําเป็นสันยิ่งขึ้น และจะได้ส่งเสริมให้มีร้านสหกรณ์เปิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของชาวนาต่อไปด้วย
ส่วนในด้านการค้าต่างประเทศ รัฐบาลจะได้ส่งเสริมและเผยแพร่สินค้าของประเทศไทยออกไปยังต่างประเทศให้เป็นที่นิยมทั้งในทางคุณภาพและปริมาณยิ่งขึ้น
10. การมหาดไทย ความสงบเรียบร้อยภายในเป็นความปรารถนาอย่างยิ่งที่จําต้องดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับการปราบปรามโจรผู้ร้ายต่อเนื่องตลอดไปอีก ในขณะเดียวกันจะได้ส่งเสริมให้ราษฎรได้กลับคืนเข้าสู่สภาพการครองชีพตามปรกติ และโดยวิธีการร่วมมือกับองค์การหรือกระทรวงทบวงกรมอื่น ๆ เพื่อให้ราษฎรได้ประกอบอาชีพที่เป็นหลักฐานยิ่งขค้น ในยามที่สงครามผ่านพ้นไปใหม่ ๆ เช่นนี้ ปัญหาเรื่องจิตต์ใจซึ่งถูกกระทบกระเทือนและเสื่อมโทรมลงไป จะได้หาทางแก้ไขโดยชี้แจงและชักชวนให้ได้รู้สึกถึงหน้าที่ในฐานะเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
เพื่อที่จะให้เป็นผลสมความมุ่งหมายดังกล่าวแล้ว จะได้ดําเนินการดังต่อไปนี้
(ก) การตํารวจ จะได้ปรับปรุงสมรรถภาพของตํารวจเพื่อให้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามที่เข้มแข็งโดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองโดยใกล้ชิด
(ข) การปกครองท้องที่ นอกจากจะได้ปรับปรุงเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ยังจะได้แก้ไขระบบการปกครองเพื่อให้หมู่บ้าน และตําบลได้รับการทะนุบำรุงโดยทั่วถึงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้
ส่วนการปกครองท้องถิ่นซึ่งปรากฏว่ามีความบกพร่องในบางแห่งและดําเนินการไปไม่สู้จะได้ผลสมความมุ่งหมายนั้น จะได้พิจารณาสอบสวนและหาทางแก้ไขให้ได้ผลยิ่งขึ้น
(ค) การราชทัณฑ์ จะดําเนินการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามหลักการราชทัณฑ์และปลูกฝังให้อาชญากรได้รับความรู้ในวิชาชีพภายในที่คุมขัง
(ง) การสาธารณูปโภค จะได้ส่งเสริมและเร่งรัดในการจัดประปาและไฟฟ้าเพื่อความสดวกและปลอดภัยให้มีขึ้นในท้องถิ่นชุมนุมชนให้มากที่สุดที่จะทําได้ และจะได้จัดระเบียบผังเมืองส่งเสริมให้มีการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยให้เป็นไปโดยประหยัด และเหมาะสมแก่สภาพของท้องที่
(จ) การที่ดิน จะได้เร่งรัดและส่งเสริมบรรดาการกระทําทั้งปวงซึ่งรัฐบาลก่อนได้เริ่มดําเนินการไว้แล้วให้เป็นผลดียิ่งขึ้น เป็นการช่วยบุคคลที่ตั้งใจจะประกอบอาชีพในทางกสิกรรมให้ได้รับความสะดวกในการจับจองที่ดินรกร้างว่างเปล่า และการจัดให้ผู้มีกรรมสิทธิในที่ดินแล้วได้รับหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยรวดเร็ว เป็นต้น
(ฉ) การประชาสงเคราะห์ บรรดาการสงเคราะห์ต่าง ๆ ซึ่งได้ปฏิบัติอยู่แล้วจะได้ดําเนินการต่อไป และถ้ามีกําลังเพียงพอก็จะได้ขยายการสงเคราะห์ให้มากขึ้น
11 การศาล
(ก) จะรักษาและส่งเสริมฐานะของผู้พิพากษาตามควรแก่อิสสระที่มีในการ
พิจารณาพิพากษาอรรถคดี
(ข) จะสอดส่องให้กระบวนพิจารณาในศาลดําเนินไปโดยรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ของประชาชน และฉะเพาะอย่างยิ่งจะได้พิจารณาเพิ่มจํานวนผู้พิพากษาให้สมส่วนกับจํานวนคดีที่เกิดขึ้น
(ค) จะได้พิจารณาตั้งศาลในภูมิภาคเพิ่มขึ้นเพื่อความสะดวกแก่ประชาชนผู้เกี่ยวข้องในทางอรรถคดี และมิให้เสียเวลาในการประกอบอาชีพ
(4) จะปรับปรุงประมวลกฎหมายต่าง ๆ และพระธรรมนูญศาลยุตติธรรมให้เหมาะสมกับกาลสมัย เพื่อผดุงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
12. การศึกษาและการศาสนา รัฐบาลนี้จะวางแผนการศึกษาของชาติให้มีรากฐานถาวร แนวการศึกษาคงแบ่งเป็นสามัญศึกษา กับอาชีวะศึกษา หลักสูตรและตําราเรียน จะปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของประเทศและความเป็นอยู่ของท้องที่ เคยจะให้ผู้ที่ได้รับการศึกษารู้จักค้นคว้าหาเหตุผล และมีศีลธรรมอันดีงาม ทั้งมีความรู้อันจําเป็นที่จะประกอบการอาชีพตามที่ตนต้องการ ฉะเพาะอย่างยิ่งในทางเกษตรกรรมและพาณิชย์กรรม
การศึกษาที่ดีก็ต้องมีครูดี ฉะนั้น การศึกษาวิชาครู การบํารุงฐานะของครูให้เป็นที่เคารพนับถือแก่บรรดาศิษย์ จึงเป็นภาระกิจอันยิ่งใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ
ในด้านการศาสนานั้น รัฐบาลนี้จะส่งเสริมและทะนุบํารุงศาสนาและถือว่าความเชื่อมั่นยึดเหนี่ยวในทางศาสนา เป็นสิ่งที่ทําให้เกิดการละเว้นประพฤติในสิ่งที่ไม่ชอบไม่ควร รัฐบาลนี้ถือว่าการศึกษากับการศาสนาเป็นสิ่งอุปการะแก่กัน ผู้มีความรู้ต้องมีศีลมีสัตย์อยู่ในตนด้วย
ในที่สุดนี้ หวังว่ารัฐสภาจะได้พิจารณาตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้แล้วด้วยดี และพิจารณาดําเนินตามมาตรา 69 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
หมายเหตุ :
- อักขระและวิธีสะกดคงไว้ตามต้นฉบับ
- บทความชิ้นนี้มีการปรับปรุงชื่อโดยกองบรรณาธิการ สถาบันปรีดี พนมยงค์จาก คำแถลงนโยบายของรัฐบาล 15 มิถุนายน 2489 เป็นคำมั่นสัญญาหลังมหาสงคราม คำแถลงของคณะรัฐมนตรี นายปรีดี พนมยงค์ นายกรัฐมนตรี 11 มิถุนายน - 23 สิงหาคม 2489
[1] หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ม-(2)สร 0201.43 กล่องที่ 2 ปึกที่ 15. เอกสารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรื่อง คำแถลงนโยบายของรัฐบาล (รัฐบาล พ.ศ. 2475 ถึงรัฐบาล พ.ศ. 2490)