
กุหลาบ สายประดิษฐ์ (พ.ศ. 2449 - 2517) นักคิด นักเขียน และนักหนังสือพิมพ์ เจ้าของนามปากกา “ศรีบูรพา”, “อิสสรชน”, “นายบำเรอ” ฯลฯ และยังเป็นหนึ่งในผู้ถูกจับกุมในเหตุการณ์ “กบฏสันติภาพ” ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2495
เหตุการณ์การเมืองในระหว่างสี่ห้าปีมานี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเสรีภาพของหนังสือพิมพ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเสรีภาพของประชาชน เมื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ถูกล่ามด้วยโช่ตรวนโดยข้ออ้างกฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนก็ขาดอาวุธอันสำคัญเพื่อป้องกันเสรีภาพของเขา เสรีภาพของประชาชนในประการต่าง ๆ ก็จะถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนไปด้วยรัฐบาลที่จมอยู่ในโมหะคิดเห็นว่า การกดขี่ทำลายเสรีภาพของหนังสือพิมพ์จะทำให้ฐานะของรัฐบาลมั่นคงขึ้น รัฐบาลคิดเห็นว่าจะได้รับความผาสุกจากการระบายความเจ็บใจออกไปในรูปแบบนั้น เป็นความจริงว่าหนังสือพิมพ์ได้ถูกทอดทิ้งให้กล้ำกลืนความเจ็บปวดแต่ลำพังหรือ? หามิได้เลย ความเจ็บปวดที่หนังสือพิมพ์ได้รับได้แผ่ไปในหมู่ชน แผ่ไพศาลไปในมหาชน ความเจ็บปวดนั้นได้แล่นเข้าไปในดวงใจทุกดวงที่มีมนุษยธรรมและที่รักความยุติธรรม ปฏิกิริยาเช่นนี้หรือที่ทำให้ฐานะของรัฐบาลมั่นคงขึ้น? ที่นำความผาสุกมาให้รัฐบาล? ยิ่งไปกว่านั้น การกดขี่ทำลายเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ยังมีผลเสมือนหนึ่งว่า เป็นการควักดวงตาของรัฐบาลออกทิ้งเสียเอง และบดขยี้มโนธรรมของรัฐบาลเสียเอง เมื่อรัฐบาลได้ลงมือทำลายเสรีภาพของหนังสือพิมพ์และทำร้ายชาวหนังสือพิมพ์อย่างไม่เป็นธรรมนั้น รัฐบาลคงคิดไปไม่ถึงว่าจะส่งผลไปไกลถึงปานนั้น บัดนี้เราจะสำรวจเหตุการณ์ในอดีตแล้วนำมาพิจารณาดูว่า ข้อความดังกล่าวข้างต้นสมจริงหรือไม่ เพื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ใช้บทเรียนจากอดีตให้เป็นคุณประโยชน์แก่ปัจจุบันและอนาคต
ก่อนหน้าวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็นเวลานาน ระบบการเซ็นเซอร์หนังสือพิมพ์อันเป็นสิ่งที่ไม่มีรัฐบาลประชาธิปไตยของประเทศใดจะฝันไปว่า จะนำมาใช้บังคับแก่หนังสือพิมพ์ในยามปรกติอีกแล้ว ได้ถูกรัฐบาลของประเทศไทยนำมาใช้แก่หนังสือพิมพ์ โดยอาศัยข้ออ้างใน พ.ร.บ.การพิมพ์อันล้าสมัยว่า ‘อาจจะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน’ นอกจากนั้น ยังได้มีคำสั่งห้าม ‘วิพากษ์วิจารณ์การเมืองระหว่างประเทศอันอาจกระทบกระเทือนต่อสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ’ ซึ่งได้ออกไว้ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ อาศัยข้ออ้างตามคำสั่งและบทบัญญัติใน พ.ร.บ.การพิมพ์ อันไม่เป็นประชาธิปไตยนี้ เจ้าพนักงานของรัฐบาลได้ดำเนินการกดขี่เสรีภาพของหนังสือพิมพ์อย่างสาหัส จนชาวหนังสือพิมพ์เหลือที่จะยอมทนต่อไปได้ จึงได้รวมกำลังกันทำการคัดค้านอย่างแข็งแรง การเคลื่อนไหวคัดค้านได้เริ่มในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้ตั้งคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ขึ้น และที่ประชุมใหญ่ของ ส.น.ท. ได้รับรองการตั้งคณะกรรมการคุ้มครอง ฯลฯ เป็นเอกฉันท์ในวันที่ ๑๐ มิถุนายน[1] การดำเนินการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของคณะกรรมการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนร่วมมืออย่างเป็นปึกแผ่นกว้างขวาง ทั้งจากชาวหนังสือพิมพ์และประชาชน ได้เริ่มขึ้นแต่วันนั้นและได้ถึงที่สุดลงด้วยการที่กรรมการและชาวหนังสือพิมพ์เป็นอันมากได้ถูกจับกุมคุมขังในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๕

กุหลาบ สายประดิษฐ์ “ศรีบูรพา” ถูกจับกุมในเหตุการณ์ “กบฏสันติภาพ” ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2495
ที่มา : ปฏิทินชีวิต กุหลาบ สายประดิษฐ์
แม้ว่ารัฐบาลจะปฏิเสธคำเรียกร้องอันหนักแน่นมั่นคงของชาวหนังสือพิมพ์ และได้ลงมือทำร้ายชาวหนังสือพิมพ์อย่างไม่เป็นธรรมก็ดี แต่การเรียกร้องอย่างเด็ดเดี่ยวของชาวหนังสือพิมพ์ในกาลครั้งนั้น ได้ยังผลให้รัฐบาลยอมรามือจากการเซ็นเซอร์หนังสือพิมพ์ไปโดยปริยาย ถึงกระนั้นก็ดีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ตลอดจนสวัสดิภาพของชาวหนังสือพิมพ์เอง ก็ยังคงได้รับการกดขี่ปองร้ายอย่างหนักอยู่นั่นเอง และกลับจะหนักยิ่งขึ้นเสียอีก รัฐบาลได้ยอมถอยจากการเซ็นเซอร์ เพื่อบรรเทาความขมขื่นของชาวหนังสือพิมพ์ก็จริง แต่รัฐบาลก็กลับหันไปสร้างอาวุธขึ้นใหม่ ซึ่งมีความร้ายแรงยิ่งกว่า และไม่เป็นประชาธิปไตยยิ่งกว่า คือการออกกฎหมายว่าด้วยการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พร้อมกับการคุกคามใส่ร้ายผู้มีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลว่าเป็นคอมมิวนิสต์ การคุกคามนี้ได้ดำเนินไปพร้อมกับการจับกุมคุมขังผู้คนอย่างไม่ขาดสาย นอกจากอาวุธร้ายที่นำออกใช้อย่างสง่าผ่าเผยแล้ว ยังมีอาวุธลับที่นำออกใช้ในที่มืดอีกหลายชนิด ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในวงผู้สนใจและในระหว่างปีสองปีมานี้ก็ได้มีการเปิดโปงในหนังสือพิมพ์มาแล้ว ทั้งในวงการรัฐบาลเองก็ได้แถลงยอมรับความสกปรกโสมมเองอย่างสิ้นอายเหล่านั้นไปบ้างแล้ว การกดขี่เสรีภาพของหนังสือพิมพ์และของประชาชนตลอดจนการคุกคามทำร้ายผู้คน โดยปราศจากอำนาจกฎหมาย และไร้ศีลธรรมโดยเจ้าพนักงานของรัฐบาล ได้ดำเนินติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งท่านนายกรัฐมนตรีได้กลับ
จากทัศนาจรต่างประเทศ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๘ และได้แถลงว่า แต่นี้ไปรัฐบาลจะเป็นประชาธิปไตย พร้อมทั้งได้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเป็นครั้งแรกว่า ในอดีต รัฐบาลของท่านมิได้เป็นประชาธิปไตย หลังแต่นั้นมา เหตุการณ์ทางการเมืองก็ได้คลี่คลายไปในทางแจ่มใสขึ้น การวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ที่มีความรักชาติด้วยน้ำใสใจจริง และไม่มีความเกลียดชังอาฆาตผู้มีความเห็นต่างกันในทางการเมืองเป็นการส่วนตัว ก็ดำเนินไปในทางร่วมมือกับรัฐบาล โดยชี้ข้ออ่อนแอและข้อที่เสื่อมประโยชน์ของประเทศชาติในนโยบายของรัฐบาล เพื่อเร่งเร้ารัฐบาลให้ปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลเสียใหม่
มูลเหตุจูงใจที่ทำให้ท่านนายกรัฐมนตรีประกาศว่า จะดำเนินเข้าสู่ร่องรอยประชาธิปไตย จะมีประการใดบ้างนั้น เราจะผ่านการวิจารณ์ไป แต่เราอาจกล่าวได้ว่ามูลเหตุสำคัญข้อหนึ่งก็คือความรู้สึกไม่พอใจของประชาชน ที่มีต่อวิธีการปกครองแบบกดขี่ปองร้าย ที่รัฐบาลได้ใช้มาหลายปีนั้น ได้แผ่กว้างออกไปเป็นลำดับ ความไม่ปลอดภัยของประชาชนนั้น แม้จะดูสงัด เพราะถูกกดเอาไว้ด้วยความคุกคามปองร้ายของเจ้าพนักงาน แต่ก็เป็นความสงัดอันน่ากลัว นับแต่นายกรัฐมนตรีได้ผ่อนคลายเสรีภาพให้แก่หนังสือพิมพ์และแก่การแสดงความเห็นของประชาชนในที่ชุมนุมสาธารณะ ตัวท่านและรัฐบาลก็ได้รับฟังความจริงหลายอย่างที่ไม่มีโอกาสจะได้ฟังหรือได้สำนึกอย่างจริงจัง ในระหว่างเวลาหลายปีที่เสรีภาพของหนังสือพิมพ์ ได้ถูกเหยียบไว้
เมื่อมอบเสรีภาพให้แก่หนังสือพิมพ์แล้ว รัฐบาลก็ได้ดวงตากลับคืนมาตลอดปี พ.ศ. ๒๔๙๘ จนถึงเวลานี้ รัฐบาลและนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลได้ฟังคำสรรเสริญ หรือคำประเภทไหนจากหนังสือพิมพ์ ก็ย่อมเป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่บุคคลในวงการของรัฐบาลแล้ว การเปิดโปงพฤติการณ์ชั่วร้ายต่าง ๆ ในวงการบริหาร ซึ่งแม้ว่ายังเป็นการเปิดโปงแต่ส่วนเล็กน้อยนั้น ก็นับว่ามากพอที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีสะดุ้งใจ และหยั่งเห็นความไม่พอใจอันลึกซึ้งที่มีอยู่ในจิตใจของประชาชนผู้ได้รับการกดขี่มาเป็นเวลานาน ในที่สุด รัฐบาลก็ได้ทราบความจริงหลายอย่างที่จะอำนวยคุณค่าแก่การแก้ไขความผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่รัฐบาลได้กระทำไปแล้ว เป็นต้นว่า การที่รัฐบาลได้เทิดทูนฝรั่งพันธมิตรตะวันตกราวกับพระผู้เป็นเจ้า และได้เอากล่องดวงใจของประชาชาติไทยไปฝากไว้กับเขา สุดแต่เขาจะนำไปทำอะไร นับตั้งแต่การนำเข้าไปสู่สงครามเกาหลี การใส่โซ่ตรวนให้แก่ตนเองในทางเศรษฐกิจ การคุกคามทำร้ายประชาชนคนไทยด้วยกัน การประพฤติเป็นพาลก้าวร้าวประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียที่ไม่เคยทำอะไรเราเลยนอกจากเขาจะได้ขับไล่พวกฝรั่งตะวันตกที่เคยใช้หลังของเขาเป็นผืนดินสำหรับไถนา ออกไปจากประเทศของเขา จนถึงการกระโจนเข้าไปในร่างแหของซีอาโต ซึ่งหายใจเป็นกลิ่นดินปืน และการขู่ตะคอกก้าวร้าวอยู่ตลอดเวลา พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ภาคภูมิใจมานานว่า ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และได้เอานามประชาชนไปใช้กล่าวอ้างแก่พวกฝรั่งอยู่เนือง ๆ นั้น บัดนี้ รัฐบาลก็ได้ทราบความจริงอย่างแน่ชัดว่า ประชาชนไทยรู้สึกอย่างไร ในการดำเนินนโยบายเหล่านี้ ประชาชนไทยรู้สึกรังเกียจเพียงไร ต่อการปฏิบัติแบบเจ้านายของพวกฝรั่งประเทศตะวันตกต่อประเทศไทย อันจะมีผลเป็นการฉุดลากประชาชาติไทยให้ไปเผชิญกับมหาสงคราม เพื่อผลประโยชน์ของเจ้านายเจ้าหนี้ และประชาชนไทยเรียกร้องให้รัฐบาลทำอย่างไรกับนโยบายเหล่านี้ รัฐบาลย่อมได้เห็นอยู่เต็มตาและได้ยินอยู่อย่างกลบหูแล้ว ในเมื่อรัฐบาลได้ให้เสรีภาพที่จะพูดความจริงแก่หนังสือพิมพ์ ทั้งที่หนังสือพิมพ์ยังมิได้พูดทั้งหมด

ไทยส่งกองกำลังเข้าร่วมรบกับกองกำลังสหประชาชาติ (UN) ในสงครามเกาหลี
ที่มา : ไทยในสงครามเกาหลี
เรามิอาจจะชี้ให้เห็นคุณประโยชน์ที่รัฐบาลได้รับจากการให้เสรีภาพแก่หนังสือพิมพ์ได้อย่างละเอียดพอควรในบทความเรื่องเดียว จึงจำเป็นจะต้องกล่าวโดยสรุปว่า เป็นการเคราะห์ดีของรัฐบาลนักหนาที่กลับได้สติขึ้นมาแม้ว่าเป็นเวลาที่สายไปสักหน่อย และได้เสียไปมากแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าจะเสียไปจนหมดตัว เรากล่าวได้ว่า ในระหว่างหลายปีที่ล่วงมา ถ้ารัฐบาลไม่ทำการกดขี่ปองร้ายหนังสือพิมพ์อย่างสิ้นสติ และยอมฟังคำตักเตือนวิพากษ์วิจารณ์ของหนังสือพิมพ์แล้ว บุคคลในคณะของรัฐบาลจะไม่เมาถึงขนาดที่ได้เมามาแล้ว และจะไม่หลงตัว ลืมตัว และเสียตัว ไปถึงขนาดที่ได้เสียไปแล้ว
จงพอใจในการกินยาขมเถิด เพราะมันจะตอบแทนด้วยการป้องกันท่านมิให้ตกไปในความเมาได้
อย่าชังเสรีภาพของหนังสือพิมพ์เลย เพราะถึงท่านจะชังมันเท่าใด มันก็จะต้องกลับมาวันยังค่ำ ถ้าท่านไม่เปิดประตูรับมัน เมื่อได้ยินเสียงเคาะ มันก็จะเข้ามาทางหน้าต่าง หรือพังประตูเข้ามาจนได้ เพราะมันต้องการที่อยู่อันสมควร อย่างน้อยก็เช่นเดียวกับที่ท่านต้องการเหมือนกัน
การไม่กดขี่เสรีภาพของหนังสือพิมพ์นั้น นับได้ว่าเป็นมงคลข้อหนึ่ง แม้ว่าพระพุทธเจ้าจะมิได้ตรัสไว้ในมงคล ๓๘ ก็ดี
ที่มา : หนังสือพิมพ์ สารเสรี ฉบับวันอาทิตย์ : คอลัมน์ ที่นี่และที่นั่น
เวลา : ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
หมายเหตุ :
- อักขรวิธีสะกดคงไว้ตามเอกสารต้นฉบับ
- ตั้งชื่อบทความใหม่โดยกองบรรณาธิการ
บรรณานุกรม :
- ‘อิสสรชน’, คุณแห่งเสรีภาพของหนังสือพิมพ์, ใน, การหนังสือพิมพ์ของฉัน, (กรุงเทพฯ: คณะกรรมการอำนวยการจัดงาน 100 ปี ศรีบูรพา (กุหลาบ สายประดิษฐ์), 2549), หน้า 57 - 63.
[1] อ่านรายละเอียด ‘บันทึกของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพหนังสือพิมพ์’ จากการประชุมของ คณะกรรมการสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๕ ใน ภาคผนวก -บก.’