ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
แนวคิด-ปรัชญา

ถาม-ตอบ : มุ่งหน้าสู่การยุบสภา (?) ความหวังสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

21
ธันวาคม
2568

 

รศ. ดร.วรรณภา ติระสังขะ :

ทีนี้อยากเปิดเวทีค่ะ ให้ผู้เข้าร่วมเสวนาในห้องนี้น รวมถึงทางบ้านได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกัน อนุญาตแนะนำตัวเองและเป็นคำถามสำหรับผู้เสวนา เรียนเชิญค่ะ

ผู้ร่วมเสวนา :

แนะนำตัวนะครับ ผศ.(เกษียณ) อนุชา จินตกานนท์ สั้น ๆ มากนะครับ คือผมได้ความรู้จากวันนี้เยอะมาก ที่อยากเสนอแนะเท่านั้นเอง คือว่าเราบอกว่าเราต้องการที่จะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะว่ารัฐธรรมนูญเก่าอาจจะไม่ได้มีประโยชน์ต่อประชาชน

จริง ๆ สาระสำคัญในการร่างมันสำคัญว่าการร่าง มันสำคัญว่าที่ร่างมาแล้วมันมีประโยชน์หรือเปล่า ทีนี้ผู้ร่างเดิมเขาบอกว่ารัฐธรรมนูญนี้ เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีมาก ปราบเซียน ปราบโกง ในขณะที่พวกเราวันนี้ เราก็จะบอกว่ามีข้อจำกัดนะ

 

 

ผมขออย่างนี้ได้ไหมครับ คือสำหรับประชาชนธรรมดา เขาจะไม่เข้าใจของที่มันค่อนข้างสับสน คืออธิบายให้เขาฟังได้ไหม ว่าผมอยากเสนอแนะพรรคการเมืองต่าง ๆ อธิบายว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมันบกพร่องที่ไหน แล้วที่เราอยากจะให้เสนอแนะนะครับ เป็นแนวทางให้ประชาชน อยากจะแก้ไขอะไรนะครับ ให้เขาพิจารณา

เพราะอยู่ดี ๆ โยนให้ประชาชนผมคิดว่าประชาชน 90% ไม่เข้าใจ แค่นั้นเองครับ คือเพื่อความสำเร็จของพวกท่าน พวกเราช่วยอธิบายว่า อะไรที่มันบกพร่องอะไรที่เราอยากจะแก้ไข ขอบพระคุณครับ

รศ. ดร.วรรณภา ติระสังขะ :

ขอบพระคุณท่านมากค่ะ เดี๋ยวอาจจะขอสรุป ก็คือว่าท่านพูดถึงว่าจริง ๆ กระบวนการมันก็สำคัญ แต่เนื้อหาที่มันจำเป็นต้องแก้ไขมีข้อบกพร่องอะไร ควรจะเสนอแนะอย่างไรเพื่อให้ประชาชนได้เห็นถึงจุดอ่อน หรือข้อบกพร่องมากกว่าที่จะไปถกกันเรื่องกระบวนการ ซึ่งมันมีความสลับซับซ้อนเทคนิคมากกว่า เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ในสมการของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มมากขึ้นด้วย

เดี๋ยวรอมีคำถามอีกไหมคะ ในห้องนี้มีไหมคะ ถ้าไม่มีจะขออนุญาตอ่านคำถามอีก 3 คำถามจากออนไลน์ เพื่อให้วิทยากรทั้งสามท่านเลือกตอบได้นะคะ

มีคำถามจากทางบ้านถามว่า ถ้ามีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริงแล้ว จะยังคงมีการรัฐประหารอีกไหม? ก็อาจมีได้นะคะ รัฐประหารซ้อนใช่ไหมคะ สามารถสร้างแนวทางการป้องกันอะไรได้บ้าง?

คำถามที่ 2 จากสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศที่มีเหตุปะทะและปัญหาอื่น ๆ เป็นอุปสรรคในการทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนไหม? เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหลายในปัจจุบันไม่ว่าเหตุปะทะชายแดน หรือว่าปัญหาอื่น ๆ นะคะ จะเป็นอุปสรรคต่อการทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนไหม? แล้วจะทำอย่างไรไม่ให้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนมีช่องโหว่ สามารถบังคับใช้ได้โดยไม่มีการแทรกแซงเหมือนแบบที่เป็นมาค่ะ

 

 

เรียนเชิญอาจารย์ทั้ง 3 ท่านเลยค่ะ เลือกตอบไและเสนอความเห็นเพิ่มเติมได้เลยค่ะ อ. ธีระ เชิญค่ะ

รศ. ธีระ สุธีวรางกูล :

ผมขออนุญาตตอบท่านสักเล็กน้อยก่อนแล้วกัน ถามว่าตัวรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีข้อบกพร่องอย่างไรที่ควรจะแก้ไข และถ้าจะแก้ไข จะแก้ไขอย่างไร อันนี้ผมพูดเป็นการทั่วไปก่อนว่าเบื้องต้นเลย รัฐธรรมนูญ 2560 ในแง่ที่มา อันนี้อาจจะเป็นความคิดเห็นแตกต่างกันได้

เราก็เห็นว่ารัฐธรรมนูญควรจะมาจากครรลองประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ 2560 เหมือนกับปี 2550 คือไม่ได้มาจากครรลองของประชาธิปไตย เป็นผลผลิตจากการรัฐประหาร เพราะงั้นส่วนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งที่เราถือว่าเป็นเหตุอย่างหนึ่ง ไม่ได้สำคัญมากนะ แต่เป็นเหตุอย่างหนึ่งที่คุณจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุง จริงอยู่รัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านการออกเสียงประชามติเหมือนกับปี 2550 แต่ประชามติก็เป็นประชามติที่อาจจะไม่ถึงกับขนาดฟรีและแฟร์ในระบบทั่ว ๆ ไป อันนี้ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ควรจะแก้ไข

แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับส่วนเนื้อหา ถ้าถามว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่บอกเป็นฉบับปราบโกง มันเป็นเนื้อหาที่ดีอยู่แล้วจะมาแก้ตรงนี้อย่างไรแบบไหน อันนี้อยากเรียนให้ท่านทราบว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวางกรอบเอาไว้ว่า  ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญหรือทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ต้องมีกรอบเนื้อหาที่จะแก้ด้วย ว่าจะแก้เรื่องไหนอย่างไรเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ

เพราะฉะนั้น ในชั้นของผู้ที่ร่างตัวร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เขาวางกรอบเนื้อหาไว้แล้วหลัก ๆ อยู่ 7-8 กรอบ อันนี้ปรากฏอยู่แล้วในตัวร่างของคณะกรรมาธิการซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในรัฐสภาวาระที่สองวันนี้ กรอบนั้นคืออะไรบ้าง เราไม่แก้ไขเรื่องรูปของรัฐกับระบอบการปกครอง เพราะมันเป็นข้อห้ามอยู่แล้ว และเราก็ไม่แตะหมวด 1 กับหมวด 2 ซึ่งถือว่าเป็นความสบายใจของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ไม่แตะเลย ยกมาทั้งหมดไม่แตะเลย

 

 

ส่วนที่จะมีการแก้ไขจริง ๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประเทศกับประชาชนกับลูกหลานของเราคือ

1) หมวดตัวโครงสร้างของรัฐสภา ยกตัวอย่างโครงสร้างรัฐสภาเราประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ถามว่าวุฒิสภาที่มาเป็นอย่างไร อำนาจหน้าที่เป็นอย่างไร อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่เหมาะสมหรือไม่ ทำให้เป็นฝ่ายข้างน้อยไปกดดันฝ่ายข้างมากได้หรือเปล่า อันนี้เราจะพิจารณาทบทวนแก้ไข อันนี้คือหมวดโครงสร้างรัฐสภา

2) คณะรัฐมนตรี ในหมวดคณะรัฐมนตรีเวลารัฐมนตรีจะบริหารประเทศอย่างไร รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้เดินไปตามแผนปฏิรูปประเทศ หมายความว่าแผนปฏิรูปประเทศ มันเป็นกรอบที่ทำให้ประชาชนที่เลือกฝ่ายบริหารเข้าไปทำอะไรนอกกรอบของแผนไม่ได้

แต่แผน 20 ปี มันรับไม่ได้กับสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน ถ้าเรายังมีกรอบนี้อยู่กลายเป็นว่า ประชาชนต้องการจะมีนโยบายอย่างไร เลือกรัฐบาลไปเป็นแบบไหนแล้ว ก็ไม่สามารถจะปรับแผนปฏิรูปประเทศให้แตกต่างไปจากแผนปฏิรูปรัฐธรรมนูญได้ อันนี้ต้องแก้ 

3) หมวดศาล หมวดศาลก็จำเป็นต้องปรับ เราอาจเห็นว่าในหมวดศาล ชัด ๆ เลยคือศาลรัฐธรรมนูญเราควรจะต้องมานั่งทบทวน ว่าควรจะยังมีอยู่ไหม ถ้ามีอยู่ควรจะมีอำนาจหน้าที่แค่ไหน มีอำนาจหน้าที่แล้วระบบการถ่วงดุล และคานอำนาจระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับองค์กรอื่น ควรจะทำอย่างไรในลักษณะที่เป็นการถ่วงดุลระหว่างกัน ไม่ใช่ว่ารัฐสภาถูกตรวจสอบโดยศาลอย่างเดียว แต่รัฐสภาสามารถตรวจสอบศาลด้วย โดยกลไกการถ่วงดุลที่เหมาะสม อันนี้ก็ต้องปรับต้องแก้

สำคัญไม่น้อยกว่านั้นคือ หมวดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เรายืนยันเป็นหลักเลยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ประชาชนจะต้องมีสิทธิ์ได้รับการรับรองสิทธิ์ ในสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้อย่างเหมาะสมในยุคปัจจุบัน อันนี้ก็จะปรับด้วย

ผมยกตัวอย่างทั้งหมดนี้ เป็นเพียงความประสงค์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม แต่ในชั้นของการจัดทำจริง ๆ จะมีกระบวนการรับฟังความเห็นว่าประชาชนต้องการอะไรอย่างไรแบบไหน อันนั้นจะรวบรวมมาเพื่อมาจัดระบบของตัวรัฐธรรมนูญอีกครั้งหนึ่ง

สรุปรวมความคือว่า ความบกพร่องของรัฐธรรมนูญปี 60 ทั้งเรื่องที่มาทั้งเรื่องเนื้อหาหลายอย่าง นอกจากจะมีความบกพร่องตรงส่วนนั้นแล้ว มันยังไม่รับกับโลกยุคปัจจุบันนี้ที่เราจะต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือ ที่ต้องเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อไปตอบโจทย์ หรือแก้ปัญหากับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นในระยะสั้นและระยะยาว

จึงเป็นเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อันนี้ขออนุญาตตอบท่าน ถ้าท่านมีคำถามเพิ่มเติมผยินดีจะตอบท่านเพิ่มเติมครับ

ผู้ร่วมเสวนา :

ผมคิดว่าผู้ดำเนินรายการจับประเด็นผมได้ถูกต้อง ว่าสำหรับประชาชนทั่วไปเรื่องที่มันซับซ้อนควรจะทำให้เข้าใจง่ายว่า ปัจจุบันข้อติดขัดคืออะไรแล้วที่เรามีแนวโน้มที่จะแก้คืออะไรนะครับ คือผมคิดว่าการพูดถึงกระบวนการมันดีสำหรับพวกวิชาการของเรา แต่ว่าถ้าจะให้ประชาชนเข้าใจ ผมเพียงจะเสนอแนะอย่างที่ผู้ดำเนินรายการจับประเด็นผมถูกต้องครับ ว่าต้องชี้แจงให้เขาทราบให้มีแนวทางการตัดสินใจแค่นั้นเองครับ ไม่ได้ว่าไม่เห็นด้วยกับที่พูดมาตลอดผมเข้าใจ แต่ผมในฐานะที่อยากให้ประชาชนมีอะไรที่เป็นแนวทาง

 

 

รศ. ดร.วรรณภา ติระสังขะ :

ค่ะเข้าใจค่ะ คือเป็นการเสนอแนะจากท่านว่า อยากฝากจริง ๆ ให้นักวิชาการเองหรือพรรคการเมืองเอง หรือคนที่ทำงานโครงสร้างสถาบันการเมืองเอง ทำเรื่องยาก ๆ ซับซ้อน ให้ประชาชนเข้าถึงเข้าใจได้ง่าย เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกคน อย่าทำให้เป็นเรื่องยาก ไม่งั้นเราจะรู้สึกกลัวและหวังไม่ถึงนะคะ เชิญค่ะคุณกฤชค่ะ

กฤช เอื้อวงศ์ :

ขอบคุณครับ ขออนุญาตแลกเปลี่ยนนะครับ บางทีอาจตอบไม่ได้ลงรายละเอียดไปมากนักใน 3-4 คำถามที่ท่านที่นั่งฟังอยู่ได้ร่วมขึ้นมานะครับ คำถามแรกที่ถามว่า ถ้ามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ป้องกันการรัฐประหารได้ไหม จริง ๆ ในส่วนของพรรคเองเคยเสนอกฏหมายป้องกันการรัฐประหารด้วยซ้ำ แต่ว่านั่งนึกดูแล้วแต่กฏหมายนี้ยังไม่ได้เสนอเข้าสภา เพราะมานั่งคุยกันอยู่ว่าถึงเสนอเข้าไปก็คงไม่ผ่านวาระที่หนึ่ง

และอีกอย่างพอเป็นรัฐประหารเข้ามา เขาฉีกรัฐธรรมนูญสูงสุด กฏหมายอื่นมันมีศักดิ์ลำดับรองลงไป คงไม่สามารถจะไปทัดทานกับกฏหมายรัฐธรรมนูญได้ และประกอบกับเคยมีคำพิพากษาของศาลฎีกา คำวินิจฉัยของศาลฎีกาพูดว่า คณะรัฐประหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เขามีอำนาจถ้าจะแก้อาจจะต้องมานั่งคุยกันในวงของศาลด้วยซ้ำ ว่าถ้าคุณยังมีบรรทัดฐานแบบนี้เวลาที่ใครยึดอำนาจมา แล้วมีคำรับรองจากศาลฎีกาว่าเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ก็คงไปทำอะไรไม่ได้ ซึ่งตัวนี้เป็นเรื่องที่ต้องมานั่งคุยกันในแวดวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งในส่วนของศาลด้วย โดยเฉพาะศาลเป็นคนรับรองอำนาจของคณะรัฐประหารในประเด็นนี้

ประเด็นที่ 2 เรื่องที่ควรจะพูดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีข้อบกพร่อง จริง ๆ เมื่อตะกี้ที่ท่านพูดขึ้นมา ท่านพูดเกือบหมดแล้ว เราเห็นชัด ๆ เลยรัฐธรรมนูญปัจจุบันมีข้อบกพร่องอะไร คือดุลอำนาจมันเสียไงครับ ทั้งองค์กรอิสระ ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้อำนาจมันสามารถไปครอบงำอำนาจอธิปไตยที่เคยมีอยู่ มันไม่สามารถจะใช้อำนาจได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่างศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ทั้งในเรื่องของที่มาและก็อำนาจด้วย แม้กระทั่งในส่วนของหมวดรัฐสภาที่ อ. ธีระ พูดถึงเมื่อกี้ผมเห็นด้วยว่ามันต้องมีการแก้ อาจจะต้องมีการทบทวนด้วยซ้ำ ว่าจริง ๆ แล้วรัฐสภาของเราจำเป็นต้องเป็น 2 สภาไหม หรือถ้าจะมี 2 สภา มี สว. อยู่ก็ได้ แต่ในเรื่องของที่มาคุณต้องแก้ไขไหม เรื่องอำนาจหน้าที่ของ สว. ที่จะไปเลือกองค์กรอิสระต่าง ๆ ควรต้องแก้ไขไหม

 

 

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ มันเป็นเรื่องของโครงสร้างอำนาจซึ่งมันจำเป็นต้องแก้ แล้วบางทีการแก้เป็นรายมาตรา ผมเคยคิดอยู่เหมือนกันในพรรคเพื่อไทยเคยคิดอยู่ เมื่อ 2563 กับ 2565 เราเคยเสนอ ให้มีการแก้ในเรื่องของการเสนอชื่อของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มาจากบัญชีพรรคว่าไม่ต้องมีแล้ว เราเคยเสนอในปี 2563 ครั้งหนึ่ง ในปี 2565 ครั้งหนึ่ง แต่ทั้ง 2 ครั้งก็ตกในวาระที่หนึ่งเหมือนกัน เคยคิดมาแล้วแต่ก็เป็นข้อเสนอที่ดีว่า ถ้าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับมันไปสู่ทางตันทางออกเล็ก ๆ อีกทางหนึ่งคือ แก้เป็นรายมาตราไป แก้มันไปเรื่อง ๆ เลย จนกว่าเราจะพอใจ ก็เป็นไปได้ว่าเป็นอีกทางออกหนึ่ง

และอีกคำถามหนึ่งที่ถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เขมร หรือสถานการณ์อะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นอีก เป็นอุปสรรคในการที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไหม เป็นครับเพราะตอนนี้มีกระแสบอกว่า ทั้งปัญหาเรื่องความมั่นคง ทั้งปัญหาเรื่องภัยพิบัติภาคใต้ ก็บอกมีปัญหาตั้งเยอะแยะทำไมไม่คิดแก้ปัญหา ทำไมมัวแต่ไปคิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เคยมีคำถามนี้พูดกัน

แต่จริง ๆ แล้วมันแยกทำก็ได้นะครับ เพราะปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่มาก เป็นปัญหาเรื่องโครงสร้างอำนาจ ถ้าจะไปรอให้ปัญหาคลี่คลายไปหมด รอให้ไทยกับเขมรดีกันเมื่อไหร่ รอให้ปัญหาภัยพิบัติมันเลิกเมื่อไหร่ แล้วค่อยคิดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ผมว่าเป็นไปไม่ได้ มันต้องทำควบคู่ทำคู่ขนานกันไป มันต้องทำอยู่แล้ว

แล้วคำถามอีกอันนึงที่บอกว่า ทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญที่จะร่างขึ้นใหม่มันไม่มีช่องโหว่ คำถามนี้ตอบได้ยากครับ มันต้องมีอยู่แล้วมันถึงต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม กฏหมายหลายฉบับมีการแก้ไขเพิ่มเติมกันหลายครั้ง มันต้องมีแต่ก็ต้องมีให้น้อยที่สุด ให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด อันนี้คงต้องเป็นความพยายามของพวกเราที่ต้องช่วยกันคิดนะครับ ขอบคุณมากครับ

รศ. ดร.วรรณภา ติระสังขะ :

ขอบคุณค่ะ อาจารย์สิ (อ. สิริพรรณ) เชิญค่ะ

ศ. ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี :

ที่จริงทั้งสองท่านตอบไปดีมากแล้ว ถ้าจะให้แบบเร็ว ๆ เลยคือ ถ้าจะให้ประชาชนเข้ามารู้สึกถึงความจำเป็น ว่าทำไมจะต้องแก้รัฐธรรมนูญในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งภัยพิบัติ ปัญหาชายแดน ต้องบอกว่ารัฐธรรมนูญมันตอบโจทย์ปากท้องได้ คือต้องอธิบายให้เห็นภาพถึงความเชื่อมโยง ว่ารัฐธรรมนูญตอบปัญหา ตอบโจทย์ปัญหาปากท้องอย่างไร

วันนี้เราเป็นประเทศที่ติดหลุมพรางของการไม่สามารถฟื้นตัวจากโควิดได้ ทำไมเวียดนามถึงฟื้นตัวได้เร็ว ประเทศอื่น ๆ ก็โตเร็วกว่าเรา เป็นเพราะอะไรคะ เป็นเพราะเราเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยมาก เราเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยเพราะอะไร เพราะรัฐบาลถูกจัดการโดยองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจหรือยินยอมด้วยซ้ำ อันนี้คือปัญหาที่มาจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งคือสิ่งที่ท่านกฤชพูดไว้ คือระบบตรวจสอบถ่วงดุลมันไม่สมดุลแต่พอมันไม่สมดุล มันไปกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล

ระบบการเมืองใด ๆ ก็ตาม ที่รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพมันกระทบกับปัญหาปากท้อง ญี่ปุ่นทุกวันนี้ทำไมเงินเยนถึงอ่อน ใคร ๆ ก็อยากไปญี่ปุ่น เขาบอกว่าหนีไป ๆ เพราะไปไหนก็ไม่ได้ เพราะคนมันเต็มไปหมด เพราะเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยมาก ล่าสุดคือคุณซานาเอะ ทาคาอิจิ คือน่าจะ 4 คนแล้วในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปี ตัวอย่างให้เห็นเลยว่าแม้ประเทศเศรษฐกิจดี ๆ ถ้าเสถียรภาพรัฐบาลอ่อนแอ มันไม่ตอบโจทย์ปัญหาปากท้องประชาชน อันนั้นคือสิ่งสำคัญที่เราต้องพูดให้เห็นภาพ

ประการที่ 2 คือรัฐธรรมนูญ 2560 ถูกร่างมาโดยสภาวะที่การรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกทำให้มีเงื่อนไข นั่นคือสิ่งที่เราจะต้องอธิบาย อย่างเช่นแม้แต่เรื่องสิทธิ์เรียนฟรี 12 ปี ถ้าตามรัฐธรรมนูญ ณ วันนี้ เริ่มนับตั้งแต่ก่อนอนุบาลจะไปจบที่ ม. 3 ไม่ได้จบที่ม. 6 แต่ตอนนั้นพลเอกประยุทธ์ ใช้มาตรา 44 ระงับไว้ชั่วคราว

ดังนั้นตัวอย่างของเรื่องสิทธิเสรีภาพ โอกาสที่ประชาชนจะเข้าถึงทรัพยากร การมีส่วนร่วมในการประเมินสภาพแวดล้อม มันถูกลดทอนลงไป ซึ่งในที่สุดแล้วมันไปกระทบกับปัญหาปากท้อง อันนี้คือสิ่งที่เราจะต้องช่วยกันพูดให้ประชาชนเข้าใจ เพราะหลายเรื่องมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ยากต่อความเข้าใจ ดังนั้นก็ยังยืนยันว่ารัฐบาลที่ดีจะเกิดขึ้นได้คือต้องมีรัฐธรรมนูญที่ดีก่อน

 

 

ส่วนคำถามอื่น ๆ คิดว่าท่านกฤชตอบไว้ดีมากแล้ว เห็นชอบด้วยโดยเฉพาะเรื่องรัฐประหาร ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้น แต่หลัก ๆ เลย เพราะว่าศาลฎีกาได้รับรองเอาไว้ตั้งแต่ 2496 กับ 2505 ว่าคณะรัฐประหารเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ ประเด็นที่อยากพูดคือว่า ที่ผ่านทำไมรัฐประหารถึงสำเร็จ เพราะประชาชนนี่แหละ โดยเฉพาะรัฐประหาร 2 ครั้ง ประชาชนเป็นคนให้ความชอบธรรมกับรัฐประหาร ตอนรัฐประหาร 2549 รัฐประหาร 2514 มีคนเอาดอกไม้ไปให้เอาขนมไปไว้

และบรรยากาศ ณ วันนี้ ภายใต้ข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ความนิยม ความรู้สึกรักชาติ ความนิยมในทหารกลับมา อันนี้ส่วนหนึ่งมองว่าเป็นบทที่กำลังเขียนเอาไว้เพื่อรองรับถ้าจำเป็นที่จะต้องมีการรัฐประหารกลับมา

ดังนั้นโจทย์ใหญ่คือ สังคมมองรัฐประหารอย่างไร กระแสชาตินิยมจะทำให้ความชอบธรรม ถ้าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงของรัฐประหารกลับคืนมา สุดท้ายอยากจะบอกว่า เรากำลังอยู่ในโรงละครโรงใหญ่ที่มีผู้เขียนบท มีผู้กำกับ ประชาชนจะรู้เท่าทันได้อย่างไร อันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ รวมถึงในที่สุดเรื่องของการปฏิเสธความชอบธรรมของทหารในการทำรัฐประหารด้วย ขอบคุณมากค่ะ