ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
เกร็ดประวัติศาสตร์

เสรีไทยราชสกุล “สวัสดิวัตน” : พันโท หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน

20
สิงหาคม
2563

“ท่านชิ้น”: พันโท อรุณ เสรีไทย 136

นายทหารเสรีไทยสายอังกฤษซึ่งมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการของเสรีไทยจากประเทศอังกฤษ และยังเป็นผู้ที่ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจทั้งจากฝ่ายอังกฤษและฝ่ายไทยมากที่สุด คือ ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน อดีตนักเรียนนายร้อยวูลลิช พระเชษฐาของสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปว่า “ท่านชิ้น” หรือในพระนามแฝงระหว่างปฏิบัติการเสรีไทยว่า “อรุณ”

ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิททรงมีส่วนสําคัญในการเจรจาให้ทางการอังกฤษยินยอมรับอาสาสมัครคนไทย จํานวน 36 นาย เข้าประจําการในกองทัพบกอังกฤษเมื่อกลางปี 2485 ซึ่งท่านเองก็ทรงสมัครเป็นทหารอังกฤษ และทรงปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับคําสั่งซึ่งเป็นงานที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นผลดีต่อทั้งฝ่ายอังกฤษและต่อบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรงเล็ดลอดเข้ามาในประเทศไทยเพื่อประสานกองทัพไทยกับกองกําลัง 136 และประสานงานระหว่างหัวหน้าขบวนการเสรีไทยกับกองบัญชาการทหารสูงสุดสัมพันธมิตรที่แคนดี

ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฏ์ กับม.ร.ว.เสงี่ยม (สนิทวงศ์) ธิดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ ประสูติเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2443  หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เสด็จไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2461 รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนักเรียนสังกัดกระทรวงกลาโหม ภายหลังที่ได้ศึกษากับครูพิเศษมาเป็นเวลา 3 ปี เพื่อเตรียมตัวเข้าโรงเรียนนายร้อย ปี 2465 ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยทหารบกที่วูลลิช ซึ่งเป็นโรงเรียนทหารปืนใหญ่ของอังกฤษและเป็นสถานศึกษาเดิมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

 

พันโท หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน (23 สิงหาคม พ.ศ. 2443 - 22 เมษายน พ.ศ. 2510)
พันโท หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน
(23 สิงหาคม พ.ศ. 2443 - 22 เมษายน พ.ศ. 2510)

 

เมื่อทรงสําเร็จการศึกษา จึงเสด็จกลับเมืองไทย ได้รับพระราชทานยศเป็นนายร้อยตรีและเข้ารับราชการในกรมทหารปืนใหญ่ ระหว่างปี 2474-2475 เสด็จไปทรงศึกษาและดูงานที่สกอตแลนด์ยาร์ด ประเทศอังกฤษ และศึกษากิจการตํารวจที่สหรัฐอเมริกา

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อเดือนมิถุนายน 2475 ทรงย้ายมารับราชการในกรมทหารรักษาวัง มียศเป็นนายร้อยเอก ต่อมาได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไปต่างประเทศจนรัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ และเสด็จสวรรคตที่อังกฤษเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2484

 

ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท (ที่ 3 จากซ้าย) ไปฝึกกระโดดร่มที่อินเดีย (ส่วนที่ 2 จากซ้าย คือ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช)
ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท (ที่ 3 จากซ้าย) ไปฝึกกระโดดร่มที่อินเดีย
(ส่วนที่ 2 จากซ้าย คือ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช)

 

ปีต่อมาประเทศไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกาในวันที่ 25 มกราคม 2485 ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิททรงสมัครรับราชการในกองทัพบกอังกฤษได้รับยศเป็นร้อยเอก เมื่อนักเรียนไทยและข้าราชการสถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน แสดงความประสงค์จะอาสาสมัครเป็นทหารเพื่อทํางานรับใช้ชาติด้วยการเป็นเสรีไทย  “ท่านชิ้น” ทรงวิ่งเต้นกับทางการอังกฤษให้รับอาสาสมัครเสรีไทยจํานวน 36 นายเข้าประจํากองทัพบกอังกฤษ โดยมีลายพระหัตถ์ไปถึงนายวินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

หลังจากอาสาสมัครเสรีไทยเข้าเป็นทหารประจําหน่วยโยธาและได้รับการฝึกเบื้องต้นในประเทศอังกฤษแล้ว ก็ออกเดินทางโดยทางเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปมาขึ้นบกที่เมืองบอมเบย์ประเทศอินเดียปลายเดือนเมษายน 2486 พ.ต. หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ หรือ “พันตรี อรุณ” จึงเสด็จมาประจํา ณ กองกําลัง 136 ซึ่งตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ชานเมืองแคนดี บนเกาะลังกา

ภายหลังสงคราม ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน ทรงได้เลื่อนยศเป็นพันโทแห่งกองทัพบกอังกฤษ และได้รับพระราชทานยศชั่วครามเป็นพันโทแห่งกองทัพบกไทย นอกจากนั้นทางการอังกฤษยังถวายอิสริยาภรณ์ O.B.E ให้ที่กรุงเทพฯ อีกด้วย ก่อนที่จะปลดประจำการกองทัพบกอังกฤษ

ภารกิจพบนายจำกัดที่อินเดีย

ก่อนหน้านั้นไม่นานนัก นายจํากัด พลางกูร ตัวแทนขององค์การต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศไทยได้เล็ดลอดออกไปเมืองจีน ได้พบกับ พ.อ. ลินเซย์ ที.ไรด์ ผู้บังคับการหน่วยความช่วยเหลือของกองทัพบกอังกฤษ ที่เมืองกุยหลินทางตอนใต้ของประเทศจีน  พ.อ. ไรด์เป็นนักเรียนเก่ามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเช่นเดียวกับนายจํากัด ซึ่งได้มีการบอกให้นายจํากัดเขียนรายงานละเอียด แล้ว พ.อ. ไรด์จึงนํามาปรับปรุงทําเป็นรายงานอย่างเป็นทางการเสนอผ่านทูตทหารบกและหัวหน้าคณะทหารอังกฤษประจําประเทศจีน ถึงกองกําลัง 136 ที่เมียรุตและแคนดี

 

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี  หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท และหม่อมเสมอ สวัสดิวัตน
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี  หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท และหม่อมเสมอ สวัสดิวัตน

 

เดือนสิงหาคม 2486 กองกําลัง 136 มอบหมายให้ “พ.ต. อรุณ” และ พ.ต. ครุต (อดีตผู้จัดการไฟฟ้าวัดเลียบ) เดินทางจากอินเดียเพื่อไปพบนายจํากัด พลางกูร ที่จุงกิง “พ.ต. อรุณ” ได้รับอนุญาตให้ดําเนินการติดต่อนัดหมายกับองค์การต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศไทย เพื่อส่งเสรีไทยสายอังกฤษซึ่งกําลังฝึกอยู่ที่ริมทะเลสาบคารัควัสลา นอกเมืองปูนา ประเทศอินเดีย เข้าไปปฏิบัติงานหลังแนวรบญี่ปุ่นในประเทศไทย

จากปากคําของนายจํากัด พลางกูร ทําให้ ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิททราบว่า หัวหน้าองค์การต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศไทยที่ส่งนายจํากัดมาติดต่อกับฝ่ายสัมพันธมิตรที่เมืองจีน คือ นายปรีดี พนมยงค์ หรือหลวงประดิษฐ์มนูธรรม ผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งเป็นผู้นําฝ่ายพลเรือนในการอภิวัฒน์ระบอบการปกครองของสยามจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบรัฐธรรมนูญ และเป็นบุคคลสําคัญในวงการเมืองไทยภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น ปรปักษ์ต่อระบบกษัตริย์นิยม

ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน นายทหารเสรีไทยอาวุโสทรงได้รับการยืนยันจากนายจํากัด พลางกูร ว่า นายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้ที่รักชาติและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ คือ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ ด้วยบริสุทธ์ใจและจริงใจ อีกทั้งมีเจตจํานงอันแน่วแน่ที่จะธํารงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งนายปรีดีเป็นผู้นํามาสู่สยามเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475

สายสัมพันธ์จากท่านชิ้นถึงนายปรีดี

การได้ร่วมทํางานรับใช้ชาติในขบวนการเสรีไทยในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 กับนายปรีดี พนมยงค์ ทำให้ ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิททรงรู้จักนายปรีดีอย่างแท้จริง ดังที่ทรงนิพนธ์ไว้ในเรื่อง “ลําดับเหตุการณ์ของคณะเสรีไทยในประเทศที่ได้ปฏิบัติ (สะกดตามต้นฉบับ) ว่า

“ตามที่ข้าพเจ้าได้สังเกตเห็นหลวงประดิษฐ์ทํางานในการต่อต้านครั้งนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกได้แน่ชัดว่าท่านผู้นี้ได้พยายามเต็มสติกำลังความสามารถ อดทนมิได้คิดเห็นแก่เหน็ดเหนื่อย พยายามกระทําการทุกอย่างโดยมิได้เห็นแก่ตัว และภยันตรายที่กำลังจะมาถึงตน จนพวกเราทั้งหลายที่เข้ามาจากต่างประเทศต่างพากันขอร้องกันหลายครั้งหลายคราว ให้เตรียมตัวที่จะต้องคิดป้องกันตัวเองเสียบ้าง หาไม่ฉะนั้นการงานของประเทศจะเสียหมดถ้าหลวงประดิษฐ์เปนอันตรายไป

“ตลอดเวลาหลวงประดิษฐ์มัวนึกถึงความปลอดภัยของผู้อื่น เช่น ไปมัวมีกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยของเจ้านายที่บางประอิน และความอดอยากของผู้อื่น ๆ ซึ่งจะเกิดมีขึ้นเมื่อญี่ปุ่นจะเข้าทําลายต่อตีประเทศไทย ในที่สุด เราต้องบังคับให้หลวงประดิษฐ์จัดการกระทําการตามแผนการปลอดภัยของเราว่า ถ้าเมื่อญี่ปุ่นเข้าตีเมื่อใดแล้ว หลวงประดิษฐ์จะต้องออกเดินทางไปสู่ยังที่ที่ปลอดภัยโดยทันที  การเหล่านี้เปนของที่ทางข้าพเจ้าเห็นใจเปนที่สุด เพราะคนเรานั้นย่อมเชื่อแต่คําพูดเท่านั้นไม่ได้ การกระทําของบุคคลนั้นแหละเป็นเครื่องพิสูจน์แห่งความจริงใจของเขาว่าเขามีความจริงในใจแค่ไร”

ความเอื้ออาทรที่ ม.จ.ศุภสวัสดิ์ฯ ทรงมีต่อนายปรีดี พนมยงค์ มิได้จํากัดอยู่เฉพาะในระหว่างการรับใช้ชาติในภาวะสงครามเท่านั้น แม้ภายหลังสงครามซึ่งนายปรีดียังจําเป็นต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ตาม ท่ามกลางทั้งมิตรและศัตรูทางการเมืองรอบด้าน ม.จ.ศุภสวัสดิ์ฯ ได้พิสูจน์ความเป็นกัลยาณมิตรด้วยการให้คําปรึกษาหารือในข้อราชการ ให้กําลังใจ ตลอดจนข้อคิดและคําแนะนําที่มีค่าแก่นายปรีดี ดังปรากฏในลายพระหัตถ์หลายต่อหลายฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารสําคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

 

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 กับ หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 กับ หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน

 

ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิทมิได้เป็นเจ้านายในราชสกุล “สวัสดิวัตน”เพียงองค์เดียวที่ได้รับใช้ชาติในฐานะเสรีไทย นอกจากสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 ซึ่งมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่บรรดาเสรีไทยในอังกฤษแล้ว ก็ยังมีอีก 3 องค์ ในราชสกุล “สวัสดิวัตน” คือ ม.จ.ผ่องผัสมณี กับ ม.จ.กอกษัตริย์ เสรีไทยสายอังกฤษ และ ม.จ.ยุธิษเฐียร เสรีไทยสายสหรัฐอเมริกา

 

อดีตเสรีไทยพาครอบครัวไปเยี่ยม “พันโท อรุณ” ที่ “สวนเสมา”
อดีตเสรีไทยพาครอบครัวไปเยี่ยม “พันโท อรุณ” ที่ “สวนเสมา”

 

พ.ศ. 2495 ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน เสด็จกลับมาประทับที่เมืองไทย บั้นปลายชีวิตทรงทํา “สวนเสมา”อยู่ที่หมู่บ้านบางควาย อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี

พ.ท. หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน สิ้นชีพตักษัยที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2510

ฟังผู้ใหญ่เล่าเรื่องปรีดี EP 3: ม.ร.ว.สายสวัสดี สวัสดิวัตน

ม.ร.ว.สายสวัสดี สวัสดิวัตน เป็นธิดาของ ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน หรือ "ท่านชิ้น" พระเชษฐาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 อดีตผู้นำเสรีไทยสายอังกฤษ อดีตผู้บังคับการกองทหารรักษาวัง เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนายปรีดีกับท่านชิ้น ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญอยู่เบื้องหลังประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ในโอกาสครบรอบ 120 ปีชาตกาลของนายปรีดี พนมยงค์ วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 สถาบันปรีดี พนมยงค์ ได้จัดทำโครงการบันทึกคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ที่รู้จักนายปรีดี เพื่อให้ท่านเหล่านั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับนายปรีดีในความทรงจำ และเกร็ดความรู้ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และได้ศึกษาจากแหล่งข้อมูลโดยตรง
 

แหล่งอ้างอิง: วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร, ตำนานเสรีไทย, กรุงเทพฯ: แสงดาว, 2546, หน้า 934-943.