สนธิสัญญาสมบูรณ์แบบ ระหว่างไทย-อังกฤษ
ลงนามเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2489 ณ ประเทศสิงคโปร์
การทำความตกลงสมบูรณ์แบบกับอังกฤษและความตกลงระงับกรณีกับฝรั่งเศส มีผลให้สัมพันธภาพระหว่างไทยกับอังกฤษและฝรั่งเศสกลับคืนเข้าสู่สภาพปกติ เปิด ทางให้ประเทศไทยสามารถเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติสมตามความปรารถนา ของไทยก็จริง แต่ก็ได้สร้างปัญหาให้รัฐบาลไทยขบหลายเรื่องด้วยกัน ความตกลงระหว่างประเทศที่ฝ่ายหนึ่งอยู่เบื้องบนได้เปรียบ ในฐานะที่ถือตนเป็นผู้ชนะสงคราม ส่วนอีกประเทศหนึ่งอยู่เบื้องล่างเสียเปรียบในฐานะที่เป็นผู้เสมือนแพ้สงคราม ย่อมเป็นธรรมดาอยู่เองที่จะมีลักษณะเป็นสัญญาเสมอภาคไม่ได้ ฝ่ายแรกจะต้องถือเอาประโยชน์ของตนเป็นเกณฑ์ เรียกร้องอย่างใดได้จากอีกฝ่ายหนึ่ง ย่อมไม่เว้นที่จะบีบบังคับเอาจนสำเร็จความประสงค์ และก็เป็นธรรมดาอยู่อีกเหมือนกันที่ฝ่ายหลังจะต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะแก้ไขปรับปรุงความตกลงเอาเปรียบนั้นให้ ผ่อนคลายลงทีละเล็กละน้อยด้วยการขอความเห็นใจจากฝ่ายแรก และถ้าจำเป็นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากประเทศที่สาม ก็จะไม่เว้นที่จะวิ่งเข้าไปหาเพื่อความเป็นธรรมอย่างมากที่สุดที่จะเป็นได้
เพื่อการนี้ต้องอาศัยความสามารถและไหวพริบทางการทูตเป็นสำคัญ ซึ่งตามปกติแล้วดำเนินได้สองทาง คือ ทางประเทศไทยโดยเจ้าหน้าที่ทางกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการลงไปและเจ้าหน้าที่กรมที่เกี่ยวข้อง เจรจากับทูตต่างประเทศที่ประจำอยู่ในกรุงเทพฯ และทางทูตไทยที่ประจำอยู ่ในประเทศที่เกี่ยวข้อง ในกรณีประเทศไทยสำหรับการตกลงหลังสงคราม ผู้ที่รู้เรื่องดีย่อมได้แก่เจ้าหน้าที่ ในกระทรวงการต่างประเทศ ภาระหน้าที่จึงตกหนักอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ แต่ในบางกรณีอาจเห็นว่าเจรจากับทูตต่างประเทศที่กรุงเทพฯ ไม่เพียงพอ ต้องอาศัย ความเข้าอกเข้าใจของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในต่างประเทศด้วย ก็จำต้องขอให้ทูตไทย ในต่างประเทศนั้นช่วยกระตุ้นเตือนอีกทางหนึ่ง ทูตไทยจะปฏิบัติการได้ก็ต่อเมื่อ ตระหนักในความตื้นลึกหนาบางของเรื่องดี การสั่งการทางโทรเลขจะหวังให้ชัดแจ้ง ทุกถ้อยกระทงความ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ทูตต้องเป็นผู้สนใจติดตามเรื่องโดยใกล้ชิด และตระหนักในภูมิหลังของปัญหาต่าง ๆ เป็นอย่างดี หาไม่แล้วเป็นการยากนักที่ ทูตจะช่วยได้ ตามปกติสมัยก่อนนั้นเรายังขาดการติดต่อในด้านนี้อยู่ เราขาดการประสานงานกันทุกระดับเท่าที่ควร ฉะนั้นเมื่อนาน ๆ ทีทูตได้รับคำสั่งให้ช่วยเจรจาเรื่องใด หากมิใช่ผู้ที่จัดเจนในปัญหานั้นโดยเฉพาะเจาะจงแล้ว ก็น่าเห็นใจที่จะช่วยอะไรไม่ได้มาก
ข้าพเจ้าเคยได้อ่านโทรเลขของกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษฉบับหนึ่งเลขที่ ๑๒๔๖ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๔๘๘ ส่งถึงเอกอัครราชทูตทอมสันมีใจความตาม สำคัญว่า ในงานรับรองของสถานเอกอัครราชทูตจีนเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ทูตไทย ยืนยันกับข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษว่า ได้รับโทรเลขจากรัฐบาล ไทยยืดยาวฉบับหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศคงจะทราบเรื่อง ดีแล้ว ทูตจึงจะไม่ขอรบกวนอย่างใด โทรเลขที่ ๑๒๔๖ ฉบับนั้นกล่าวต่อไปว่า ทูตไทยเป็นผู้มีอัธยาศัยน่าเอ็นดู แต่ดูจะไม่สู้มีประสบการณ์ทางการทูตเท่าใดนัก และอาจจะไม่สามารถปฏิบัติการในเรื่องสำคัญ ๆ ด้วยประสิทธิภาพ จากการสนทนา กับทูตเป็นที่ประจักษ์แจ้งว่า ทูตดูไม่สู้จะทราบเรื่องราวของประเทศไทย เมื่อเป็น เช่นนี้กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษจึงเกรงว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากทูตไทย ณ กรุงลอนดอน คงจะค่อนข้างน้อย งานสำคัญ ๆ จะต้องดำเนินทางกรุงเทพฯ ต่อไป เอกอัครราชทูตทอมสันกรุณาออกตัวแทนทูตไทยในโทรเลขที่ ๑๔๔๕ ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม ตอบกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษว่า ทูตไทยมิใช่คนเดียวที่ต้องประสบความไม่สามารถเช่นว่านั้น
ทางฝ่ายไทยเราหาได้มุ่งหวังผลแต่จากการเจรจาทางกรุงเทพฯ เท่านั้นไม่ เมื่อมีโอกาสจะยกเรื่องขึ้นพูดโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมนโยบายของต่างประเทศได้ เราก็พยายามทุกวิถีทาง เช่น เมื่อท่านรัฐบุรุษอาวุโสเดินทางออกไปเยือนต่างประเทศทางสันถวไมตรี รัฐบาลได้มอบหมายให้ไปช่วยพูดจาทำความเข้าใจและขอความเห็นอกเห็นใจจากต่างประเทศที่ท่านผ่าน ซึ่งก็ได้ผลพอสมควร ทั้งนี้เพราะท่านเป็นผู้รู้ในปัญหาต่าง ๆ เป็นอย่างดี เช่น ท่านได้ช่วยเจรจากับฝ่ายอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องภาระที่ประเทศไทยต้องแบกอยู่สืบเนื่องจากความตกลงสมบูรณ์แบบ เจรจากับฝรั่งเศส ในปัญหาเรื่องดินแดนทางอินโดจีน เหล่านี้เป็นต้น
คุณดิเรก ชัยนาม
สำหรับอังกฤษโดยเฉพาะ เมื่อรัฐบาลแต่งตั้งคุณดิเรก ชัยนาม ไปเป็นเอกอัครราชทูต ประจำราชสำนักเซนต์เจมส์ ประเทศไทยได้เอกอัครราชทูตที่ทราบปัญหาการเจรจา กับฝ่ายอังกฤษอย่างดีมากผู้หนึ่ง เนื่องจากเป็นผู้เจรจากับเอกอัครราชทูตทอมสัน ตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฉะนั้นท่านจึงอยู่ในฐานะที่จะขอความเห็นอกเห็นใจจากทางรัฐบาลอังกฤษได้ ผ่อนปรนภาระหน้าที่ของประเทศไทยลงไปบ้าง เพราะท่านเข้าถึงผู้ใหญ่ฝ่ายอังกฤษซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจในปัญหานโยบายที่สำคัญ ๆ
๑. ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของกองกำลังทหารสัมพันธมิตรในประเทศไทย
การลงนามในความตกลงเลิกสถานะสงครามเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๙ หมึกยังไม่ทันจะแห้งดีก็มีปัญหาสอดแทรกเข้ามาทันที เพราะเช้าวันนั้นคณะผู้แทนไทย และอังกฤษได้ลงนามในหัวข้อความตกลงและภาคผนวก ตกบ่ายลงนามในความ ตกลงสมบูรณ์แบบ ตามความคิดของอังกฤษนั้น หัวข้อความตกลงและภาคผนวกมี ข้อความกว้างขวางโดยเฉพาะในด้านการทหาร ซึ่งความตกลงทางทหารฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๘ กันยายน ๒๔๘๘ ยังคลุมไม่ถึงความตกลงทางทหารทำในนามของ สัมพันธมิตร จำเป็นต้องผ่านการพิจารณาของคณะเสนาธิการทหารสัมพันธมิตรเสียก่อน สหรัฐอเมริกาไม่ถือมีสถานะสงครามกับไทยต่างกับอังกฤษ ท่าทีของสหรัฐฯ จึงแตกต่างไปจากท่าทีของอังกฤษ รัฐบาลอเมริกันยึดหลักว่า เงินเดือนของกองกำลังทหารอเมริกันที่รัฐบาลส่งไปปฏิบัติการในประเทศอดีตศัตรู รัฐบาลอเมริกันเป็นผู้รับผิดชอบ ฝ่ายอังกฤษพยายามผลักภาระไปให้รัฐบาลท้องถิ่นในกรณีประเทศไทย เมื่ออังกฤษส่งกองทหารเข้ามาปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในประเทศไทย อังกฤษเบิกเงินค่าใช้จ่ายจากรัฐบาลไทยครั้งแรกเป็นเงิน ๕๐ ล้านบาท ต่อมาจะขอเบิกอีก ๒๕ ล้านบาท โดยอาศัยข้อความในภาคผนวกแนบท้ายหัวข้อความตกลงซึ่งกำหนดให้รัฐบาล ไทยต้องจ่ายเงินตราไทยให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารสัมพันธมิตรตามจำนวนที่ต้องการ ฝ่ายไทยเกี่ยงจะจ่ายเงินที่ขอเบิกใหม่ก็ต่อเมื่อตกลงกันได้ว่าจะคืนเงินที่เบิกครั้งแรกจำนวน ๕๐ ล้านบาท ให้แก่ประเทศไทยอย่างไร ประกอบกับฝ่ายไทยอ้างหลักการ ด้วยว่า เมื่อลงนามในความสมบูรณ์แบบแล้ว หัวข้อความตกลงและภาคผนวกต้องถือเป็นอันสิ้นสุด ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่อีก อังกฤษไม่เห็นด้วย อ้างว่าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วจะทำพิธีลงนามในหัวข้อความตกลงและภาคผนวกตอนเช้าวันที่ ๑ มกราคม เพื่อประโยชน์อันใด อังกฤษยึดมั่นว่า หัวข้อความตกลงและภาคผนวกเป็นหลักการใหญ่ ซึ่งจะต้องทำความตกลงสมบูรณ์แบบกันอีกชั้นหนึ่งในขั้นปฏิบัติการ ก็แหละความตกลงสมบูรณ์แบบที่ลงนามกันที่สิงคโปร์ในตอนบ่าย เป็นเพียงปฏิบัติตามหัวข้อความตกลงและภาคผนวกส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนอื่นที่ความตกลงสมบูรณ์แบบยังคลุมไม่ถึง จะต้องมีการเจรจาทำความตกลงสมบูรณ์แบบกันอีกฉบับหนึ่งหรือหลายฉบับ หรืออย่างน้อยต้องมีการแลกเปลี่ยนหนังสือกันจนครบถ้วนทุกข้อ อย่างไรก็ตามอังกฤษไม่กล้าที่จะเน้นหนักในเรื่องนี้นัก เกรงจะเพิ่มปัญหาทางรัฐสภาให้แก่รัฐบาลไทย เพราะรัฐบาลจะต้องเสนอความตกลงสมบูรณ์แบบต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะอนุมัติหรือไม่ หากนำปัญหาข้อกำหนดนอกเหนือไปจากความตกลงสมบูรณ์แบบปะปนเข้าไปอีก อาจทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่ยอมให้สัตยาบันก็ได้ ประกอบกับทางรัฐบาลอเมริกันกำลังติดตามสอดส่องอยู่ใกล้ชิด ถ้าอังกฤษขึ้นรีดนาทาเร้นไทยจนเกินไป จะเกิดปฏิกิริยาจากฝ่ายอเมริกัน ซึ่งไม่ชอบบทบัญญัติหลายข้อในหัวข้อความตกลงและภาคผนวกที่มิได้มีอยู่ในข่ายของความตกลงสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว
รัฐบาลอังกฤษสั่งให้นายเบิร์ด อุปทูตอังกฤษ ไปพบนายกรัฐมนตรีควง อภัยวงศ์ เพื่อขอความกระจ่างในเรื่องนี้ เพราะอังกฤษไม่เชื่อว่า รัฐบาลไทยจะถือว่าหัวข้อ ความตกลงและภาคผนวกซึ่งเพิ่งลงนามกันไปจะไม่มีผลใช้บังคับเลย อังกฤษพร้อม ที่จะปรึกษาหารือกับรัฐบาลไทย เกี่ยวกับการใช้บังคับหัวข้อความตกลงและภาคผนวกที่ไม่ปรากฏในความตกลงสมบูรณ์แบบในทางที่จะทำความพึงพอใจให้แก่ทั้งสองฝ่าย ถ้ารัฐบาลไทยเห็นว่า ในการนี้จะต้องเสนอขออนุมัติต่อสภาผู้แทนราษฎร ก็อาจจะรอให้ตกลงกันทุกข้อให้เรียบร้อยเสียก่อน ในระหว่างเจรจา กระทรวงการ ต่างประเทศอังกฤษจะรอการส่งนายเจฟฟรีย์ ทอมสัน ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นทูตประจำประเทศไทยไว้พลาง ถ้ารัฐบาลไทยยอมรับว่า หัวข้อความตกลงและภาคผนวกยังมี ผลบังคับอยู่ นายทอมสันจะเดินทางไปรับหน้าที่เพื่อทำข้อเสนอใหม่แก้ปัญหาใน หัวข้อความตกลงและภาคผนวกที่ยังค้างอยู่
สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษที่กรุงวอชิงตันได้รับคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๙ ให้ขอความสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกันให้ช่วยทำความเข้าใจกับรัฐบาล ไทย นายกรัฐมนตรีควง อภัยวงศ์ ตกลงประนอมกับฝ่ายอังกฤษว่า ถ้าฝ่ายอังกฤษ ไม่ยืนยันในความสมบูรณ์ใช้บังคับอยู่ของหัวข้อความตกลงและภาคผนวกนอกข่าย ความตกลงสมบูรณ์แบบ ฝ่ายไทยรับจะกำหนดจำนวนเงินแน่นอนตายตัวไว้ในงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการที่รัฐบาลจะเสนอความตกลงสมบูรณ์แบบให้สภาพิจารณาอนุมัติ ซึ่งตามกำหนดเดิม มีดำริจะเสนอในวันที่ ๔ มีนาคม เป็นอันตกลงให้เลื่อนไประยะหนึ่งก่อน เนื่องจาก การเจรจายังไม่สิ้นสุด ต้องรอมาจนกระทั่งวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๔๙๐ จึงเป็นอันตกลงกันได้ให้ยกเลิกหัวข้อความตกลงและภาคผนวก โดยฝ่ายไทยทำหนังสือยื่นต่อฝ่ายอังกฤษรับรองว่ารัฐบาลไทยจะควบคุมสินทรัพย์ญี่ปุ่นในประเทศไทยไว้ให้สัมพันธมิตร จะจับตัวบุคคลผู้ต้องหาทำอาชญากรรมสงครามหรือให้ความช่วยเหลือแก่ญี่ปุ่นใน การทำสงครามขึ้นศาล ทั้งรับและส่งตัวผู้ทรยศสัญชาติสัมพันธมิตรให้ด้วย ในวันเดียวกันนั้นกองกำลังทหารบริติชที่เข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทยรุ่นสุดท้าย ก็ได้ถอนตัวออกจากประเทศไทยกลับสิงคโปร์
๒. ปัญหาเรื่องสินทรัพย์ของประเทศไทยที่ถูกกักกัน ในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา
สำหรับสินทรัพย์ของประเทศไทยที่ถูกกักกันอยู่ในสหรัฐอเมริกา รัฐบาลสมัยท่านปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกรัฐมนตรี เจรจาขอให้ถอนการกักกันสำเร็จเมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๔๘๙ เป็นการส่งเสริมสถานะการเงินของไทยอีกทางหนึ่ง สินทรัพย์ จำนวนนี้แหละ ที่เพื่อแสดงความใจปํ้า ในวันแรกเกิดสงครามในแปซิฟิก ท่านเสนีย์ ปราโมช ทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน เสนอยกให้แก่รัฐบาลอเมริกันเพื่อนำไปใช้ใน การดำเนินสงคราม แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกันปฏิเสธไม่ยอมรับ เพียงแต่สั่งกักกันไว้เท่านั้น
ส่วนทางอังกฤษ เมื่อยังมีปัญหาเรื่องการทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผลประโยชน์ของอังกฤษในประเทศไทยยามสงคราม อังกฤษขอให้รอการปลดปล่อยสินทรัพย์ไทยที่ถูกกักกันไปอีกระยะหนึ่ง เมื่อนายเจฟฟรีย์ ทอมสัน ทูตใหม่ประจำ กรุงเทพฯ เดินทางมาถึงประเทศไทย ได้แจ้งต่อนายโยสต์ อุปทูตอเมริกัน เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๔๘๙ ว่า ได้รับคำสั่งให้เสนอบันทึกกำหนดความสัมพันธ์กับประเทศไทย ใหม่ตามแนวที่อังกฤษทำความเข้าใจไว้กับสหรัฐอเมริกา วัตถุประสงค์ที่มุ่งหมายของอังกฤษอยู่ที่อยากจะเห็นรัฐบาลไทยที่มีเสถียรภาพมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ อังกฤษไม่ต้องการผูกขาดการค้ากับไทยโดยกีดกันสหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่น อังกฤษไม่ต้องการเหยียบย่ำอธิปไตยและเอกราชของไทย หวังว่านายโยสต์จะไม่หลงในโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับจักรวรรดินิยมอังกฤษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วันที่ ๗ เมษายน นายกรัฐมนตรีปรีดี พนมยงค์ ส่งโทรเลขถึงนายแอ็ตลี นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ขอให้พิจารณาปล่อยสินทรัพย์ของรัฐบาลที่อังกฤษกักกันไว้เพื่อใช้ เป็นประโยชน์ในการบูรณะประเทศหลังสงคราม ในการนี้ ทูตทอมสันสนับสนุนไป ทางกรุงลอนดอนอ้างว่า รัฐบาลควรสนับสนุนท่านปรีดีอย่างมากที่สุดที่จะกระทำได้ เพราะท่านปรีดีเป็นเพื่อนที่ดีของอังกฤษและกำลังต้องเผชิญอยู่กับปัญหาภายใน รอบตัว ลอร์ดคีลเลอร์น ข้าหลวงพิเศษประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้ามาเยือน ประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐบาลระหว่างวันที่ ๒๙ เมษายน ถึงวันที่ ๒ พฤษภาคม ส่งโทรเลขสนับสนุนความเห็นของทูตทอมสันและพลเรือเอก เมานต์แบตตันว่า รัฐบาลอังกฤษควรสนองท่าทีอันเป็นมิตรแท้ของรัฐบาลไทย อังกฤษมีแต่จะได้ไม่มีทางเสีย และเตือนรัฐบาลให้เอาอย่างสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสายตายาวพอที่จะสนับสนุน คำขอร้องของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการปล่อยการกักกันสินทรัพย์ ของรัฐบาลไทยที่มีอยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษตอบ ลอร์ดคีลเลอร์นเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคมว่า รัฐบาลกำลังพยายามส่งเสริมความ สัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยอยู่ทุกวิถีทางแล้ว การถอนการกักกันสินทรัพย์ของ ประเทศไทยจะต้องคำนึงถึงการเรียกร้องค่าทดแทนความเสียหายที่ผลประโยชน์ บริติชได้รับในประเทศไทยระหว่างสงครามประกอบด้วย จึงยังจะถอนทันทีไม่ได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีแอ็ตลีให้ปล่อยเงินของรัฐบาลไทยจำนวนหนึ่งล้านปอนด์สำหรับส่งเสริมการค้า ระหว่างอังกฤษกับไทย และอีกห้าล้านปอนด์เพื่อให้ประเทศไทยสามารถจ่ายตาม ข้อผูกพันทางการคลังและตามสัญญาที่ทำไว้กับฝ่ายอังกฤษ ส่วนที่เหลือจำต้องคงกักกันไว้ก่อนจนกว่าประเทศไทยจะจ่ายค่าทดแทนความเสียหายให้หมดสิ้นแล้ว
หมายเหตุ :
- กองบรรณาธิการสถาบันปรีดี พนมยงค์ ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ต้นฉบับหนังสือการวิเทโศบายของไทย จากศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศแล้ว
- ศาสตราจารย์กนต์ธีร์ ศุภมงคล, เรื่อง “คณะทูตสันถวไมตรีหลังสงคราม”, การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ ถึง ๒๔๙๕ (กรุงเทพฯ : ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ, ๒๕๖๖), น. 471-480
บรรณานุกรม :
- ศาสตราจารย์กนต์ธีร์ ศุภมงคล, เรื่อง “คณะทูตสันถวไมตรีหลังสงคราม”, การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ ถึง ๒๔๙๕ (กรุงเทพฯ : ศูนย์ศึกษาการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ, ๒๕๖๖), น. 471-480
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 1 : สงครามโลกครั้งแรก
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 2 : สงครามโลกครั้งที่ ๒
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 3 : วิเทโศบายของไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 4 : การเรียกร้องดินแดนคืน
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 5 : การรักษาความเป็นกลางของประเทศไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 6 : ประเทศไทยเข้าสงครามข้างญี่ปุ่น
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 7 : ผลกระเทือนของการร่วมมือกับญี่ปุ่น
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 8 : สองปีในญี่ปุ่น ภาค 1 การต่างประเทศไทย หลัง ประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐฯ
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 8 : สองปีในประเทศญี่ปุ่น ภาค 2 ภารกิจหลังการตั้งกระทรวงกิจการมหาเอเชียบูรพา
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 9 : ขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นภายในประเทศไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 10 : เสรีไทยเข้าประเทศไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 11 : ท่าทีของอังกฤษต่อประเทศไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 12 : ความคลี่คลายของเหตุการณ์ภายในประเทศไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 13 : ความพยายามติดต่อทางการเมืองกับอังกฤษ
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 14 : นายสุนี เทพรักษา
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 15 : การกระชับงานต่อต้าน
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 16 : อวสานของสงครามภาคแปซิฟิก
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 17 : ไทยประกาศสันติภาพ
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 18 : การทำข้อตกลงทางทหารกับฝ่ายสหประชาชาติ
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 19 : ท่านทูตเสนีย์ ปราโมช เดินทางกลับประเทศไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 20 : การเสด็จพระราชดำเนินนิวัตพระนคร
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 21 : กำลังทหารบริติชเข้าประเทศไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 22 : การเจรจาเลิกสถานะสงคราม
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 23 : ฝรั่งเศสแซงเรียกร้องจากไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 24 : การทำความสัมพันธ์ทางทูตกับจีน
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๙๕ ตอนที่ 25 : ไทยเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ - ๒๔๙๕ ตอนที่ 26 : คณะทูตสันถวไมตรีหลังสงคราม
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ - ๒๔๙๕ ตอนที่ 27 : ความผันผวนทางการเมืองภายหลังสงคราม ภาค 1 บทบาทของเสรีไทย
- การวิเทโศบายของไทย ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ - ๒๔๙๕ ตอนที่ 27 : ความผันผวนทางการเมืองภายหลังสงคราม ภาค 2 การเปลี่ยนขั้วอำนาจ