หากว่ากันเรื่องชีวิตนักเรียนนอกของนายปรีดี พนมยงค์ แน่นอนทีเดียว ดินแดนที่ได้รับการเอ่ยอ้างมาเชื่อมโยงเสมอ ๆ ย่อมมิแคล้วประเทศฝรั่งเศส นั่นเพราะเขาคือนักเรียนทุนกระทรวงยุติธรรมผู้ไปร่ำเรียนวิชากฎหมายจวบจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยปารีส แต่กลับไม่ค่อยมีใครทราบเท่าไหร่ว่า ขณะนายปรีดีเป็นนักเรียนฝรั่งเศส เขาก็ได้เดินทางข้ามฟากไปเยี่ยมเยือนและแสวงหาความรู้ทางฝั่งประเทศอังกฤษ
นายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของไทย และเคยเป็นนักเรียนฝรั่งเศสในทศวรรษ 2460 เช่นเดียวกับนายปรีดี กล่าวคำปาฐกถาเรื่อง “ชีวิตของข้าพเจ้า” ณ หอประชุมคุรุสภาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2506 โดยเล่าย้อนถึงตอนที่ตนสอบเข้าโรงเรียนช่างโยธา École Centrale de Lyon ได้สำเร็จ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤดากร อัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส จึงให้รางวัลด้วยการส่งตัวไปพักผ่อนช่วงหยุดหน้าร้อนที่อังกฤษ และเพื่อเรียนภาษาอังกฤษให้แข็งแรงขึ้น ดังถ้อยความว่า
“ตอนนี้มีเรื่องขำ ๆ หน่อย คือพอผมสอบได้แล้วก็เขียนจดหมายถึงแฟน บอกเขาว่าประเดี๋ยวเราจะไปพบกันที่ชายทะเล แล้วผมก็กลับปารีส กำลังดีอกดีใจที่สอบได้แล้ว ท่านทูตกลับบอกว่า เอ้อแก ฉันไม่นึกว่าแกจะสอบได้ ฉันคิดว่าแกคงจะตกเสียอีก เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นรางวัล ฉันจะส่งแกไปพักผ่อนที่ประเทศอังกฤษ ผมก็ใจฝ่อ แฟนหายหมดไม่ได้พบกัน เพราะต้องไปอังกฤษ แล้วไปกับใครทราบไหม ก็ไปกับนายปรีดีนั่นเอง ไปอยู่บ้านเดียวกันเสียด้วย”
สำหรับชีวิตในอังกฤษของนักเรียนกฎหมายหนุ่มนามปรีดี ยังปรากฏผู้ใช้นามแฝง ‘เสรี’ พาดพิงไว้ผ่านข้อเขียน “นักเรียนต่างประเทศผู้หนึ่งเล่าเรื่องหลวงประดิษฐ์มนูธรรมเมื่อเวลาอยู่เมืองนอก” ลงในหนังสือพิมพ์ ชาติไทย ปีที่ 1 ฉะบับที่ 4 ประจำวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2475 ช่วงภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วเกือบสี่เดือน
‘เสรี’ เป็นนักเรียนอังกฤษและได้พบกับนักเรียนฝรั่งเศสคนหนึ่ง ณ กรุงลอนดอน ดังเริ่มต้นเล่าว่า
“เวลานั้นอยู่ในระวางเดือนเมษายน ซึ่งเปนฤดูใบไม้ผลิ ข้าพเจ้านั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องรับแขกบ้านมิสซิสชาร์ป ณะถนนครอมเวลล์ กรุงลอนดอน ระวางนั้นกำลังหยุดเรียน ข้าพเจ้าโดยสารรถไฟขึ้นมาพักในกรุงลอนดอน เพื่อเดิรทางต่อไปยังเมืองบอร์นมัธ ทางฝั่งทะเลภาคใต้ของประเทศอังกฤษ ข้าพเจ้าเปนนักเรียนใหม่พึ่งมาถึงอังกฤษได้ไม่ถึง ๖ เดือน และยังไม่รู้จักใครมากนัก.”
และ “ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอ่านหนังสือพิมพ์เพลินอยู่ที่หน้าเตาไฟ นักเรียนไทยอีกคนหนึ่งได้เดิรเข้ามาในห้องรับแขก ข้าพเจ้าเขยิบเก้าอี้เพื่อให้โอกาสเขาได้ผิงไฟบ้าง เพราะเย็นวันนั้นอากาศหนาวเยือกเย็นผิดปกติ”
ในสายตาของ ‘เสรี’ “รูปร่างของนักเรียนไทยผู้นี้สันทัด ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป แต่ลักษณะค่อนข้างล่ำ แม้เห็นแต่เพียงเผิน ๆ ข้าพเจ้าก็พอสังเกตได้ว่า เขามีท่าทางเปนผู้ใหญ่ น่าจะมีนิสสัยเปนคนขยันขันแข็ง เอาการเอางาน และไม่ชอบสนุกมากนัก”
นักเรียนหนุ่มชาวไทยทั้งสองทักทายและต่างมอบยิ้มให้แก่กัน ‘เสรี’ เอ่ยถามอีกฝ่ายว่า มาอยู่อังกฤษได้กี่ปี ยังมิทันได้รับคำตอบ ก็ถูกเรียกให้ลงไปตรวจตราหีบเสื้อผ้าข้างล่างที่เพิ่งมาถึง และไม่สบโอกาสสนทนากับเพื่อนนักเรียนคนใหม่เลยตลอดเย็น มิหนำซ้ำ เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ อีกสองสามคนยังชวน ‘เสรี’ ไปรับประทานอาหารจีน กว่าจะกลับมาบ้านถนนครอมเวลล์ก็ดึกดื่นราว 11 นาฬิกาครึ่งหรือ 23.30 น.
ครั้น ‘เสรี’ เข้าไปยังห้องพักพบเตียงนอนอยู่สองเตียง ไฟฟ้าในห้องดับมืดหมด เตียงหนึ่งมีคนนอนอยู่ แต่มิรู้ใคร จึงปลดเครื่องแต่งกายเงียบ ๆ เกรงอีกคนจะตื่น ก่อนจะ “...ย่องขึ้นบนเตียงอันเยือกเย็นประดุจน้ำแข็งของข้าพเจ้า” ฉับพลันทันใด ยินเสียงแว่วมาจากเตียงหนึ่ง “คุณพึ่งกลับหรือ?” ฟังดูก็จำได้ คือเสียงนักเรียนชาวไทยที่พบกันในห้องรับแขกตอนเย็น ‘เสรี’ ชี้แจงว่าตนไปรับประทานอาหารจีนเพิ่งกลับมา และได้ยินเสียงอีกฝ่ายถามต่อ “คุณเห็นจะพึ่งมาถึงอังกฤษกระมัง?”
‘เสรี’ บอกว่าตนเพิ่งมาอยู่อังกฤษไม่ถึง 6 เดือน พร้อมถามกลับนักเรียนไทยร่วมห้อง มาถึงอังกฤษได้กี่ปี เขาว่า “ผมไม่ใช่นักเรียนอังกฤษ ผมเปนนักเรียนฝรั่งเศส เรียนกฎหมาย มาเมืองนอกได้ราวปีกว่า ๆ เท่านั้น”
‘เสรี’ ยังคงซักถาม “ขอโทษคุณชื่ออะไร?”
“ปรีดี พนมยงค์” เป็นคำตอบ
คืนนั้น นายปรีดีกับ ‘เสรี’ พูดคุยกันอีกสองสามคำ ต่างคนต่างนอนหลับ วันรุ่งขึ้น นักเรียนอังกฤษออกเดินทางไป ‘โฮลิเดย์’ ที่เมืองบอร์นมัธ ส่วนนักเรียนฝรั่งเศส มิอาจล่วงรู้ว่าเขาใช้ชีวิตถัดต่อไปเช่นไร
‘เสรี’ หวนนึกความหลังและรำพันผ่านข้อเขียนของตนในเดือนตุลาคม 2475 ทำนองว่า “ใครบ้างจะนึกฝันว่า เพื่อนร่วมห้องของข้าพเจ้าในคืนวันนั้นจะเปนผู้ให้กำเนิดรัฐธรรมนูญฉะบับแรกของเมืองไทย จะเปนคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของประเทศสยาม และถือทุกข์ สุข ของคนตั้ง ๑๑ ล้านคนไว้ในกำมือ?”
ภายหลังการอภิวัฒน์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นายปรีดี พนมยงค์ ย่อมเป็นผู้ครองบทบาทสำคัญของประเทศในฐานะมันสมองของคณะราษฎร
วกย้อนไปยังต้นทศวรรษ 2460 หลังนอนร่วมห้องกัน ณ บ้านมิสซิสชาร์ป ถนนครอมเวลล์ กรุงลอนดอน ในปีถัด ๆ มา พอ ‘เสรี’ เดินทางมาประเทศฝรั่งเศส ก็ได้นัดเจอกับนายปรีดีเนือง ๆ ส่วนใหญ่มักพบปะกันย่านการ์ติเย ลาแตง (Quartier Latin) อันเป็นแหล่งรวมตัวของนักศึกษา
“...เมื่อข้าพเจ้ามีโอกาส ข้าพเจ้ามักเล็ดลอดไปเที่ยวกรุงปารีสเสมอ ๆ หลวงประดิษฐ์เองในชั้นแรกอยู่ที่เมืองกัง แต่ภายหลังได้ย้ายมาอยู่ในปารีส เพราะฉะนั้น เมื่อข้าพเจ้าข้ามไปฝรั่งเศสทีไรจึงพบหลวงประดิษฐ์ทุกครั้ง”
และ “ถิ่นที่นักเรียนไทยมักพบกันบ่อย ๆ ก็คือ โรงกาแฟซูฑเฟล ในแถบการ์เตียร์ลาแตง ซึ่งนับว่าเปนถิ่นของนักเรียน หลวงประดิษฐ์เคยเปนล่ามให้ข้าพเจ้าก็หลายครั้ง แต่ข้าพเจ้าขอออกตัวเสียก่อนว่า หลวงประดิษฐ์ไม่เคยเปนผู้นำทางให้ข้าพเจ้าเลย”
ตามทัศนะของ ‘เสรี’ ที่สัมผัสคลุกคลีกับนายปรีดีมากขึ้น ก็ได้มองว่านายปรีดี “..เปนคนฉลาดและเต็มไปด้วยความพากเพียร และเริ่มแลเห็นว่าหลวงประดิษฐ์จะเปนคนใหญ่คนโตในภายหน้าผู้หนึ่ง” เนื่องจาก “มีอุปนิสสัยของหลวงประดิษฐ์ในครั้งนั้นอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งส่อให้เห็นว่าจะเปนหัวหน้าคนในวันต่อไป หลวงประดิษฐ์เปนคนชอบคบเพื่อนทุกชั้น และเอาใจใส่คอยพูดจาปราสัยไม่ว่าใคร ข้าพเจ้าเปนนักเรียนอังกฤษ และมีผู้กล่าวว่านักเรียนอังกฤษมักจะถือตัว ฉะนั้น นักเรียนฝรั่งเศสบางคนจึงไม่สมัคร์ที่จะสมาคมกับนักเรียนอังกฤษ แต่หลวงประดิษฐ์ไม่เปนเช่นนั้น ไม่ว่าใครที่ผ่านไปหลวงประดิษฐ์ต้องยินดีรับรองและช่วยเหลือทุกคน”
และ “ความกว้างขวางของหลวงประดิษฐ์ไม่มีอยู่ฉะเพาะระวางนักเรียนไทยด้วยกันเท่านั้น แม้นักเรียนชาติอื่น ๆ หลวงประดิษฐ์ก็รู้จักเปนจำนวนมาก เช่น พวกนักเรียนญวน เปนต้น”
ภาพลักษณ์ของนายปรีดีหาใช่คนชอบสนุก ตลกโปกฮา ดื่มเหล้าและเที่ยวเตร่เต้นรำ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกนักเรียนฝรั่งเศสมักถูกค่อนแคะ ถ้าจะมีบ้างก็ฝืนสนุกเพื่อตามใจเพื่อน ๆ ด้วยนิสัยอ่อนโยน การที่นายปรีดีนิยมคบหาเพื่อนพ้องทุกชนชั้นทุกเชื้อชาติพร้อมยินดีคอยช่วยเหลือเกื้อกูลมิตรสหาย มีบุคลิกทรงภูมิเป็นผู้ใหญ่ ส่งผลให้เขากลายเป็นบุคคลที่เมื่อตั้งตนเป็นผู้นำกระทำการสิ่งใด ก็จะได้รับแรงสนับสนุนอย่างแข็งขัน
เหตุการณ์ที่ ‘เสรี’ เจอกับนายปรีดีครั้งแรกในอังกฤษ ผมคิดว่าเกิดขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2465 (ค.ศ. 1922) ช่วงหยุดหน้าร้อนที่นักเรียนกฎหมายจากฝรั่งเศสข้ามฝั่งมาเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ณ กรุงลอนดอน สังเกตบทสนทนาที่ว่านายปรีดี “...มาเมืองนอกได้ราวปีกว่า ๆ เท่านั้น” และเมื่อพิจารณาข้อมูลเรื่องนายปรีดีเดินทางจากเมืองไทยมาถึงฝรั่งเศสปลายเดือนกันยายน 2463 (ค.ศ. 1920) เข้าประกอบ ผมใคร่วิเคราะห์ว่า ตอนนั้นนายปรีดีคงจะผ่านการเรียนวิชากฎหมายระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยกัง (Université de Caen) แต่ยังมิได้เข้ามาเรียนต่อวิชากฎหมายชั้นสูงในกรุงปารีส
หลักฐานพึงสนใจอีกชิ้น คือ ‘บทที่ ๑๑ การเรียนในฝรั่งเศส’ ในสมุดบันทึกของนายปรีดีเอง ซึ่งหน้าปกเป็นภาษาจีนและมีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า หัวข้อสังคมของอัตโนตั้งแต่บทที่ ๑๐ พบถ้อยความระบุว่า พอปลายปี ค.ศ. 1922 (พ.ศ. 2465) ได้เข้าเรียนปีที่ 2 ในมหาวิทยาลัยกัง จนเดือนมิถุนายนค.ศ. 1923 (พ.ศ. 2466) สอบไล่ได้เกียรตินิยมดี และช่วงหยุดหน้าร้อนหลังสอบเสร็จชั้นปี 2 ก็ข้ามไปอังกฤษ โดยไปพักบริเวณใกล้ ๆ เมืองทอร์คีย์ (Torquay) ทางตอนใต้ของมณฑลเดวอน (Devon) เมืองชายฝั่งทะเลอันเลื่องลือความสวยงามและเหยียดยาวของหาดทราย สายลมพัดโชยแผ่วเบา และทิวต้นปาล์มพลิ้วไหวโดดเด่น
เรียกว่า ถ้าฝรั่งเศสมีชายฝั่งทะเลน่าหลงใหลเยี่ยงโกตดาซูร์ (Côte d'Azur) หรือเฟรนช์ริเวียรา (French Riviera) อังกฤษย่อมมีชายฝั่งทะเลแห่งทอร์คีย์ประหนึ่ง ‘English Riviera’ ยิ่งในปี ค.ศ. 1923 ซึ่งนายปรีดีแวะไปเยี่ยมเยือนเมืองนี้ นับเป็นห้วงยามที่หาดทรายกำลังมีชื่อเสียงจนใคร ๆ ก็ปรารถนาไปพักตากอากาศกัน ทั้งชายหาด Oddicombe ชายหาด Meadfoot และชายหาด Babbacombe กระทั่งทางเมืองทอร์คีย์เกิดแนวคิดที่จะสร้างรถรางจากชายหาดขึ้นไปบนหน้าผาหรือ ‘Babbacombe Cliff Railway’ จนเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1926
เมืองทอร์คีย์ยังเป็นภูมิลำเนาของนักประพันธ์สตรีระดับโลก เธอเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1890 ก่อนหน้านายปรีดีถึง 10 ปี (นายปรีดีเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2443 ตรงกับ ค.ศ. 1900) ผลงานนวนิยายฆาตกรรมเขย่าขวัญของเธอทำให้นาม อกาธา คริสตี้ (Agatha Christie) ระบือลั่นบรรณพิภพ
ขณะนายปรีดีเป็นนักเรียนกฎหมายในฝรั่งเศส เขาเคยข้ามฝั่งไปเยือนอังกฤษอยู่หลายหน ทั้งช่วงหยุดหน้าร้อนหลังเรียนมหาวิทยาลัยกังจบปีหนึ่ง ซึ่งได้พบกับ ‘เสรี’ ที่บ้านมิสซิสชาร์ป กรุงลอนดอน ช่วงหยุดหน้าร้อนหลังเรียนมหาวิทยาลัยกังจบปีสองแล้วไปพักแถวเมืองทอร์คีย์ และอาจจะมีช่วงหยุดหน้าร้อนที่เขาไปพร้อมกับนายควง อภัยวงศ์ หรือไปพร้อมกับมิตรสหายคนอื่น ๆ
ผมเองต้องตามสืบเสาะต่อไปให้กระจ่างว่า ผู้ใช้นามแฝง ‘เสรี’ ในหนังสือพิมพ์ ชาติไทย จริง ๆ แล้วคือใครกัน? เผื่อบางที เราอาจแกะรอยค้นพบเรื่องราวชีวิตในอังกฤษและฝรั่งเศสอันแสนสนุกของนักเรียนกฎหมายนาม ปรีดี พนมยงค์ ทยอยพรั่งพรูมาสมทบอีกมากโขก็เป็นได้ !
____________________
หมายเหตุ: ถ้อยความที่อ้างอิงมาจากหลักฐานจะรักษาการสะกดคำไว้ตามเดิมที่ปรากฏในเอกสารต้นฉบับ
เอกสารอ้างอิง
- ควง อภัยวงศ์. “ชีวิตของข้าพเจ้า” ใน อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พันตรีควง อภัยวงศ์ ป.จ., ม.ป.ช. , ป.ม. ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 13 มิถุนายน 2511. พระนคร: โรงพิมพ์ไทยสัมพันธ์, 2511
- ปรีดี พนมยงค์. หัวข้อสังคมของอัตโนตั้งแต่บทที่ ๑๐ (สมุดบันทึก ยังไม่ตีพิมพ์)
- ‘เสรี’. “นักเรียนต่างประเทศผู้หนึ่งเล่าเรื่องหลวงประดิษฐ์มนูธรรมเมื่อเวลาอยู่เมืองนอก.” ชาติไทย ปีที่ 1 ฉะบับที่ 4 (21 ตุลาคม 2475)
- www.babbacombecliffrailway.co.uk
- www.peterboroughimages.co.uk
- www.torquay.com