สารอวยพรเนื่องในวารดิถีวันขึ้นปีใหม่ไทย พุทธศักราช 2568
ในศุภวาระวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือ วันสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 กระผม ในนามของคณะกรรมการบริหารและทีมงานสถาบันปรีดี พนมยงค์ ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังมิตรสหายและพี่น้องราษฎรไทยทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขสวัสดี ความเจริญรุ่งเรือง มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ และเปี่ยมด้วยพลังใจอันเข้มแข็ง เพื่อก้าวผ่านทุกความท้าทายในชีวิต
ช่วงเวลาที่ผ่านมา เราต่างประจักษ์ถึงความผันผวนและความเปราะบางของโลก ทั้งจากภัยธรรมชาติที่รุนแรง วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ตลอดจนความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล้วนเป็นบททดสอบสำคัญของมนุษยชาติ
ท่ามกลางสภาวะการณ์อันไม่แน่นอนเหล่านี้ สิ่งที่เราพึงยึดมั่นคือหลักการอันมั่นคงเหนือกาลเวลา นั่นคือ คุณธรรม ปัญญา และความหวัง
ชีวิตมนุษย์แม้มีขีดจำกัด แต่การเลือกเดินทางที่มีความหมายจะทำให้เวลานั้นมีคุณค่า บางคนอุทิศตนให้แก่ครอบครัว บางคนให้แก่บ้านเมือง หรืออุดมการณ์เพื่อสังคมที่ดีขึ้น ไม่ว่าความหมายของชีวิตของแต่ละคนคืออะไร หากตั้งอยู่บนความเมตตา ความยุติธรรม และการใช้ปัญญาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สิ่งนั้นคือพลังที่แท้จริงในการขับเคลื่อนสังคมของเราไปข้างหน้า
ในวาระครบรอบ 125 ปีชาตกาลของศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ในปี 2568 นี้ สถาบันปรีดี พนมยงค์ จะจัดกิจกรรม PRIDI Talks #30 ภายใต้หัวข้อ “ประชาธิปไตยที่ไร้สันติภาพ : เมื่อความรุนแรงไม่ได้อยู่แค่ในสงคราม” ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อเป็นเวทีทางปัญญาในการร่วมกันสำรวจสภาวะความขัดแย้งที่คุกคามสังคม อาทิ ความเกลียดชังทางชาติพันธุ์ การเลือกปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ และแนวคิดสุดโต่งที่บั่นทอนหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน เราจำเป็นต้องรู้เท่าทันและร่วมกันป้องกันมิให้เชื้อแห่งความเกลียดชังเหล่านี้ลุกลาม จนอาจเผาผลาญสันติสุขของสังคมและภูมิภาคได้
ในเวทีสากล ประเทศไทยในฐานะรัฐขนาดกลาง จำเป็นต้องดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างสุขุม รักษาดุลยภาพระหว่างมหาอำนาจ โดยยึดมั่นในหลักการแห่งอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติ มิใช่การเลือกข้างหรือยอมตนเป็นเครื่องมือของผู้ใด
บทเรียนจากการรวมพลังของอาเซียนในการสร้างอำนาจต่อรองกับมหาอำนาจ ย้ำเตือนว่าพลังของประเทศเล็กจะก่อเกิดได้จากการสร้างเอกภาพบนพื้นฐานของหลักการและความร่วมมือ สถาบันฯ ขอยืนยันการสนับสนุนแนวทางดังกล่าว ที่ซึ่งความสามัคคีไม่เพียงเพิ่มศักยภาพในการเจรจา แต่ยังแสดงให้เห็นว่าความเข้มแข็งมิได้วัดกันที่ขนาด หากอยู่ที่การยึดมั่นในหลักการและใช้ปัญญาในการสร้างดุลยภาพ ดังเช่นยุทธศาสตร์ของขบวนการเสรีไทย ที่ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเกียรติภูมิและรอดพ้นจากการตกเป็นผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 มาได้
นอกจากนี้ สถาบันฯ ขอเชิญชวนนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรีทั่วประเทศ ร่วมแสดงพลังทางความคิด ส่งบทความเข้าประกวดในโครงการ “ทุนปาล พนมยงค์” ประจำปี 2568 เพื่อร่วมกันจุดประกายปัญญาและอุดมการณ์ ขับเคลื่อนสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างยั่งยืน
สุดท้ายนี้ ในวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ กระผมขอเชิญชวนพี่น้องราษฎรไทยทุกท่าน ร่วมกันเป็นพลังแห่งความหวัง สร้างสรรค์ปีใหม่ให้เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนสังคมสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และสันติสุขอย่างยั่งยืน ดังปณิธานของท่านปรีดี พนมยงค์ ที่ว่า:
“พลังแห่งความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของสังคมหนึ่ง ๆ ก็คือพลังของมวลราษฎรแห่งสังคมนั้น ๆ นั่นเอง”
สถาบันปรีดี พนมยงค์ ขออำนวยพรให้พี่น้องราษฎรไทยทุกท่านประสบแต่ความสุข มีความหวัง และมีพลังในการสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีงาม สังคมที่เปี่ยมด้วยสันติสุข ความเสมอภาค ความเป็นธรรม และภราดรภาพสืบไป
ด้วยความปรารถนาดี
รองศาสตราจารย์ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ
ประธานกรรมการบริหาร สถาบันปรีดี พนมยงค์
คณะกรรมการบริหารฯ ทุกท่าน
พนักงานของสถาบันปรีดี พนมยงค์
13 เมษายน พ.ศ. 2568
