ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
เกร็ดประวัติศาสตร์

บทบาทและความเคลื่อนไหวของ ถวิล อุดล ในขบวนการเสรีไทยสายอีสาน

17
พฤศจิกายน
2568

 

นายถวิล อุดล (3 พฤศจิกายน 2452 - 4 มีนาคม 2492)

ขบวนการเสรีไทยเป็นขบวนการต่อต้านนโยบายของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ในการเข้าร่วมสงครามกับฝ่ายญี่ปุ่น กลุ่มบุคคลที่เคลื่อนต่อต้านนโยบายดังกล่าวประกอบด้วย หลวงบรรณกรโกวิท (เปาว์ จักกะพาก) นายเตียง ศิริขันธ์ นายสงวน ตุลารักษ์ นายถวิล อุดล นายกำจัด พลางกูร ฯลฯ โดยเฉพาะนายกำจัด พลางกูร เคยจัดตั้งคณะกู้ชาติเพื่อต่อสู้กับจอมพล ป. มาแล้ว แต่การจัดตั้งดังกล่าวเป็นไปอย่างลับ ๆ โดยร่วมมือกับกลุ่มของนายถวิล อุดล นายเตียง ศิริขันธ์ และนายจำลอง ดาวเรือง แต่ได้สลายไป

อันที่จริงเรื่องการกู้ชาตินี้ ได้คิดกันมานานแล้วตั้งแต่ก่อนญี่ปุ่นเข้าเมืองเสียอีก[1] ดังนั้นเมื่อสงครามเกิดขึ้นนายกำจัด พลางกูร จึงได้รวบรวมพวกพ้องเช่นนายเตียง ศิริขันธ์ นายถวิล อุดล นายจำลอง ดาวเรือง นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ เป็นต้น ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ล้วนเป็นสมาชิกพวกที่ 1 ซึ่งหมายถึงสมาชิกที่รู้แผนการต่าง ๆ ของนายกำจัด พลางกูรได้ และแผนการครั้งนั้นคือ พยายามโค่นล้มอำนาจจอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือพากันหนีไปจัดตั้งรัฐบาลใหม่อยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศ บางทีจะหนีไปตั้งรัฐบาลใหม่อยู่ทางภาคอีสาน[2] แต่ไม่สามารถทำได้เพราะญี่ปุ่นได้ยึดเส้นทางที่คณะกู้ชาติจะใช้หลบหนีก่อนแล้ว[3] กอปรกับกำลังคน กำลังทรัพย์และกำลังอาวุธไม่พอที่จะต่อสู้กับกองกำลังของญี่ปุ่นได้ อีกทั้งขาดผู้นำที่มีอำนาจพอจะเป็นกำลังสำคัญได้ 

นายจำกัด พลางกูร นายถวิล อุดล นายเตียง ศิริขันธ์ นายจำลอง ดาวเรือง นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ พร้อมสมาชิกคนอื่น ๆ จึงเข้าพบนายปรีดี พนมยงค์ ที่บ้านถนนสีลม ในการเข้าพบครั้งนี้ที่ประชุมได้สรุปสาระสำคัญดังปรากฏในบันทึกของนายปรีดี พนมยงค์ ว่า


ผู้ที่มาประชุมในวันนี้ได้ตกลงพลีชีพเพื่อชาติ เพื่อกอบกู้เอกราชอธิปไตยโดยสมบูรณ์ของชาติไทย เพื่อการนั้นจึงตกลงจัดตั้งองค์การต่อด้านญี่ปุ่นประกอบด้วยคนไทยที่รักชาติทุกชั้นวรรณะ ทั้งอยู่ในประเทศและอยู่ในต่างประเทศ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ข้าพเจ้าเป็นหัวหน้า และกำหนดแผนการปฏิบัติต่อไป[4]

เตียง ศิริขันธ์ “ขุนพลภูพาน” (พ.ศ. 2452–2495) ผู้นำและกำลังสำคัญของขบวนการเสรีไทยสกลนคร

การจัดตั้งขบวนการเสรีไทยดังกล่าว จะเห็นได้ว่า นายถวิล อุดล และนายเตียง ศิริขันธ์เป็นตัวเชื่อมสำคัญ จะเห็นได้จากเมื่อเริ่มจัดตั้งองค์การ ได้ปรากฏบุคคลทั้งสองในที่ประชุม และที่สำคัญแกนนำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสายอีสาน ล้วนเป็นผู้มีบทบาทในการจัดตั้งในครั้งนี้ด้วย ภายหลังการตกลงและเสนอแผนปฏิบัติการร่วมกัน นายปรีดี พนมยงค์ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย ได้มอบหมายภารกิจอีสานให้หัวหน้าพลพรรคเสรีไทยสายอีสานในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ นายถวิล อุดล รับผิดชอบหน่วยจังหวัดร้อยเอ็ด นายเตียง ศิริขันธ์ รับผิดชอบหน่วยจังหวัดสกลนคร นายจำลอง ดาวเรือง รับผิดชอบหน่วยจังหวัดมหาสารคาม และนายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ รับผิดชอบหน่วยจังหวัดอุบลราชธานี นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นขบวนการเสรีไทยสายอีสาน 

หน่วยพลพรรคดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตรต่อต้านญี่ปุ่นในภาคอีสาน ด้วยการจัดตั้งค่ายฝึกอาวุธให้กองกำลังเสรีไทย จะเห็นได้ว่าการมอบหมายภาระหน้าที่ให้รับผิดชอบในจังหวัดต่าง ๆ จะแต่งตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งอย่างน้อยก็มีความใกล้ชิดกับประชาชนและสะดวกในการหาสมาชิกเข้าร่วมขบวนการ

 

ทองอินทร์ ภูริพัฒน์, ถวิล อุดล, และจำลอง ดาวเรือง

การจัดหาสมาชิกเข้าอบรมร่วมกับพลพรรคเสรีไทยของนายถวิล อุดล ได้เริ่มจัดหาจากผู้ใกล้ชิดที่เป็นญาติหรือเพื่อนสนิท ด้วยการชักชวนพร้อมทั้งแจ้งวัตถุประสงค์ให้ทราบ และที่สำคัญ สมาชิกที่ได้รับการติดต่อดังกล่าวจะต้องปกปิดเป็นความลับ ซึ่งสมาชิกแต่ละคนจะรู้จักเพียงผู้มาติดต่อเพียงคนเดียว ส่วนคนร่วมขบวนการอื่น ๆ จะถูกปกปิดชื่อจนกว่าจะได้เข้าไปร่วมฝึกเป็นพลพรรคร่วมกันแล้ว[5] จังหวัดร้อยเอ็ดไม่มีค่ายฝึกอาวุธ สมาชิกพลพรรคจากจังหวัดร้อยเอ็ดจึงขึ้นกับหน่วยฝึกจังหวัดมหาสารคาม โดยฝึกที่ค่ายนาคู (ปัจจุบัน คืออำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์) 

นอกจากการหาสมาชิกเข้าร่วมขบวนการแล้ว นายถวิล อุดลยังมีหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดทางการเมือง แนวคิดเรื่องเอกราชและแนวคิดเกี่ยวกับการต่อต้านญี่ปุ่นแก่ผู้เข้าร่วมเป็นพลพรรคเสรีไทย การรวบรวมสมาชิกดังกล่าวส่วนหนึ่งอาศัยอำนาจทางราชกการในการสั่งการ โดยความรวมมือจากข้าหลวงประจำจังหวัดและศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งในขณะนั้นหน่วยเสรีไทยในประเทศมีประมาณ 24 หน่วย ในส่วนภาคอีสาน ประกอบด้วย ขอนแก่น สกลนคร อุดรธานี มหาสารคามและอุบลราชธานี[6]

ในส่วนการกิจอื่น ๆ นายถวิล อุดลได้รับมอบหมายให้เดินทางไปจุงกิง ประเทศจีน ออกเดินทางวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 เดินทางร่วมกับนายมาโนช วุธรทิตย์ นายประยูร อินทรรัมพรรณ และพลโทอภัย พลรบ โดยนายถวิล อุดลได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะทูตพิเศษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดต่อกับรัฐบาลจีน และมาประจำอยู่ประเทศจีนเพื่อให้ความสะดวกแก่ฝ่ายสัมพันธมิตรที่อยู่ในจีนด้วย[7] รวมทั้งเพื่อขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการดำเนินงานใต้ดินต่อต้านญี่ปุ่น 

การเดินทางมาในครั้งนี้นายถวิล อุดลได้นำสาส์นจากนายปรีดี พนมยงค์ถึงจอมพล เจียงไคเช็ค ซึ่งมีข้อความว่า "ข้าพเจ้าขอส่งผู้แทนมาพบท่านเพื่อขอให้ท่านรับรองรัฐบาลพลัดถิ่นที่เราจะตั้งขึ้นในดินแดนกลุ่มประเทศสัมพันธมิตร เพราะมาตรการนี้จะเป็นหนทางเดียวที่จะกระตุ้นคนไทยให้หลุดพ้นจากการรุกราน

ของญี่ปุ่น”[8] การขอคำรับรองจากประเทศจีนดังกล่าวจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะประกาศให้ฝ่ายสัมพันธมิตรรู้ว่า ประเทศไทยไม่ได้สนับสนุนญี่ปุ่นทำสงครามกับสัมพันธมิตรเพราะขณะนั้นอเมริกามีกองบัญชาการกองทัพอากาศอยู่ที่คุณมิง[9]

นอกจากนี้ ขณะปฏิบัติภารกิจในจีน นายถวิล อุดลได้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือเชลยศึกห้าคน โดยการติดต่อของนายไพศาล ตระกูลลี้ เชลยดังกล่าวถูกส่งผ่านทางคุณมิงเพื่อไปพบนายถวิล อุดลที่จุงกิง ซึ่งคนไทยในจุงกิขณะนั้นถูกบีบบังคับทางจิตใจจนจะทำให้คนไทยกับคนไทยทะเลาะกันหรือทำให้คนไทยกับคนจีนทะเลาะกัน แม้แต่นายถวิลเองยังถูกตำรวจจีน "เป่าหู" อยู่ทุกวันให้เกลียดนายสงวน ตุลารักษ์ โดยกล่าวว่าเป็นผู้ไม่รักชาติบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง[10] จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศจีนของนายถวิล อุดล ต้องพบกับอุปสรรคนานาประการ ซึ่งต้องใช้ความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างสูงยิ่ง

ภารกิจอีกส่วนหนึ่งของนายถวิล อุดล ที่จะต้องปฏิบัติในจีนคือการเจรจาเรื่องสถานะของกองทัพไทยในเชียงตุงและภาคพายัพ สำหรับจะทาบทามเอาเป็นกำลังขององค์การต่อไป[11] การเจรจาดังกล่าวมีผลให้ขบวนการเสรีไทยได้รับการ

สนับสนุนจากฝ่ายสัมพันธมิตรและกลุ่มเสรีไทยจากนอกประเทศในด้านกำลังคนและอาวุธยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือการดำเนินงานของเสรีไทยสายอีสาน ส่วน จีนนั้นให้ความช่วยเหลือด้านวัสดุอุปกรณ์สื่อสาร การเดินทางไปประเทศจีนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะประสบผลสำเร็จอยู่บ้าง แต่การให้ความช่วยเหลือนั้นนับว่าช้ามากเพราะใช้เวลาเกือบปีหลังจากการขอความช่วยเหลือจึงได้รับการตอบรับซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานของเสรีไทยเท่าใดนัก

ภายหลังเดินทางกลับจากจีน นายถวิล อุดลได้เคลื่อนไหวกับผู้นำสายอีสานในการรวบรวมสมาชิกเสรีไทย เพื่อที่จะสร้างสนามบินลับขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อปฏิบัติการรับเครื่องบินดาโกด้า (C-47) ในการสนับสนุนขบวนการใต้ดิน ส่งคนเข้าออกและการลำเลียงอาวุธซึ่งติดต่อระหว่างขบวนการเสรีไทยกับฝ่ายสัมพันธมิตร โดยเริ่มสร้างเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2488 ระยะแรกสร้างเพียง 2 แห่ง คืออำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และอำเภอโนนทัน จังหวัดเลย[12] ต่อมา ได้ขยายการก่อสร้างสนามบินลับอีก 14 แห่ง[13]

C-47 Skytrain หรือ Dakota เป็นเครื่องบินลำเลียงพลและสัมภาระแบบสองเครื่องยนต์ที่ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางโดยฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ที่มา : warfarehistorynetwork

ถึงแม้ว่าภารกิจของนายถวิล อุดล และกลุ่มอื่น ๆ จะปฏิบัติงานไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏคือการแสดงออกถึงความจริงใจในการต่อสู้เพื่อเอกราชของชาติ และที่สำคัญ บทบาทดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มแกนนำสายอีสานได้รับการยอมรับและถูกกล่าวถึงในเวลาต่อมา

หมายเหตุ :

  • คัดลอกจากส่วนหนึ่งของบทความ “แนวคิดและบทบาททางการเมืองของถวิล อุดล” โดย สุวัฒน์ชัย แสนราช จากหนังสือ “ปรีดี พนมยงค์ และ 4 รัฐมนตรีอีสาน +1”
  • อักขรวิธีสะกดคงไว้ตามเอกสารต้นฉบับ
  • เปลี่ยนชื่อบทความใหม่โดยกองบรรณาธิการ

บรรณานุกรม :

  • สุวัฒน์ชัย แสนราช. “บทบาทและความเคลื่อนไหวในขบวนการเสรีไทย” ใน ปรีดี พนมยงค์ และ 4 รัฐมนตรีอีสาน +1. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ (บรรณาธิการ). กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2544. น. 126 - 129

เชิงอรรถ :

[1] นายฉันทนา (นามแฝง). XO Group เรื่องภายในขบวนการเสรีไทย. 2522. หน้า 62

[2] แหล่งเดิม. หน้า 64

[3] อัญชลี สุขดี. ขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นของไทยในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2484 - 2488. 2525. หน้า 47

[4] สรศักดิ์ งามขจรกุลกิจ. ขบวนการเสรีไทยกับความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศระหว่าง พ.ศ. 2481 - 2492. 2532. หน้า 120

[5] ปั่น พลพิมพ์ อายุ 76 ปี (อดีตสมาชิกเสรีไทย) เป็นผู้ให้สัมภาษณ์, สุวัฒน์ชัย แสนราช เป็นผู้สัมภาษณ์, ที่บ้านเลขที่ 105/6 ถนนธรรมรงค์สวัสดิ์ ค้มบ้านโนนศสรีสวัสดิ์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2540

[6] ทวี บุณยเกตุ. "ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ในประเทศไทยระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2," ใน เบื้องแรกประชาธิปไตย. 2516. หน้า 207

[7] ไพศาล ตระกูลลี้, วีระบุรุษนิรนาม. 2521. หน้า 79-81

[8] แถมสุข นุ่มนนท์, เมืองไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2. 2521. หน้า 123-124

[9] อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พลเอกเนตร เขมะโยธิน. 2528. หน้า 173

[10] ไพศาล ตระกูลลี้. วีระบุรุษนิรนาม. 2521. หน้า 44-49

[11] นายฉันทนา (นามแฝง). XO Group เรื่องภายในขบวนการเสรีไทย. 2522. หน้า 231.

[12] อัญชลี สุขดี. ขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นของไทยในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2484-2488. 2525. หน้า 122-123

[13] นายฉันทนา (นามแฝง). XO Group เรื่องภายในขบวนการเสรีไทย. 2522

หน้า 289