ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
ศิลปะ-วัฒนธรรม

บทกวี สงครามและสันติภาพ

16
มีนาคม
2565

สงครามโลกครั้งก่อนรอนชีวิต
มนุษย์ปลิดสิบกว่าล้านประมาณหมาย
คนเข็ดขามสงครามกันมากมาย
จึงตั้งค่ายสันนิบาตชาติประเทือง

เพื่อระงับดับทุกข์สิ้นยุคเข็ญ
ให้ร่มเย็นสวัสดีไม่มีเรื่อง
อยู่ร่วมกันสันติสุขทุกบ้านเมือง
คอยปลดเปลื้องข้อพิพาทบาดทะลุง

สันนิบาตปรารถนาโดยนัยนี้
แต่ก็หนีไม่พ้นจากคนยุ่ง
พวกฟาสซิสต์ประดังขึ้นนังนุง
ต้องรบพุ่งกันอีกหลีกไม่พ้น

อันเคหะสถานต้องลานแหลก
ยิ่งกว่ารบครั้งแรกอย่างปี้ป่น
ทั้งเรือฟ้าเรือน้ำร่ำผจญ
ชีวิตคนเหมือนปลวกถูกลวกน้ำ

ซ้ำยังมีลูกระเบิดที่เลิศฤทธิ์
ปรมาณูแรงพิษโปรยกระหน่ำ
สงครามโลกลบหายคลายระกำ
สหชาติเริ่มนำเปนองค์การณ์

เพื่อระงับดับสงครามครั้งสามสี่
ปรารถนาอย่างดีมีแก่นสาร
ใช้ชาวชนพ้นทุกข์เรื่องรุกราน
แต่จะนานเพียงไหนก็ไม่รู้

ด้วยบัดนี้ยังมีการสู้รบ
ไม่รู้จบในอินโดนีเซียอยู่
ทั้งญวนลาวกราวเกรียวลองเหลียวดู
ใครจะกู้สุขสันต์ให้หันคืน

ไม่ว่าใครอยากได้อิสสรภาพ
มันซ่านซาบรื่นรมย์ไม่ขมขื่น
เปนเมืองออกของเขาเฝ้าแต่กลืน
น้ำตาตื้นเต็มอยู่ไม่รู้วาย

เมื่อมีแอกแบกบ่าระอาอก
ย่อมต้องเพียรเวียนยกให้ห่างหาย
เรืองรังแต่ชุลมุนเกิดวุ่นวาย
พอคาดหมายเปนชนวนชวนสงคราม

อันตราบใดยังมีเรื่องของเมืองขึ้น
ความขมขื่นจะไม่ก่อให้ท้อขาม
ปรมาณูแค่ไหนอะไรก็ตาม
กันสงครามเกิดได้ไฉนเอยฯ

 

หมายเหตุ:

  • บทกวีนี้ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ประชามิตร รายสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 มีนาคม 2489
  • ตัวสะกดคงไว้ตามเอกสารชั้นต้น