ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
แนวคิด-ปรัชญา

มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ: ทางไปสู่โลกที่คลุมไว้ด้วยท้องฟ้าแห่งสันติ (ตอนที่ 50)

8
มิถุนายน
2568

กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา

 

เด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่งในนครซานฟรานซีสได้เอ่ยถามแม่ของเขาขึ้นว่า “แม่จ๋า, เราจะอพยพไปอยู่ที่อื่นที่ไม่มีท้องฟ้า ไม่ได้หรือจ๊ะ, แม่?

เด็กหญิงเล็กๆ คนนั้นได้ตั้งข้อถามขึ้นภายหลังที่ได้ฟังพี่ชายของเขากล่าวถึงความสยดสยองของลูกระเบิดปรมาณู

Dr. Willard Uphaus ผู้แทนคนหนึ่งในคณะผู้แทนสันติชนของอเมริกาได้บรรยายให้ที่ประชุมสมัชชาสันติภาพสากลครั้งที่สองในกรุงวอร์ซอว์ว่า ฝ่ายที่นิยมสงครามในอเมริกาได้ใช้กำลังที่มีอยู่อย่างเต็มเหนี่ยวโดยทางหนังสือพิมพ์ ทางวิทยุกระจายเสียง และโดยทางแสดงกถาต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดความคิดอันสบสน และย้อมความรู้สึกของประชาชนอเมริกันให้โชกชุ่มด้วยความหวาดกลัว การก่อให้เกิดความกลัวและการขู่ให้กลัวนั้นได้นำออกปฏิบัติทั้งแก่ ประชาชนและแก่วงการศึกษาขั้นสูง จนกระทั่งพวกครูบาอาจารย์เอง หากว่าได้กล่าวความจริงอะไรออกมา และหากว่าไม่ยอมลงนามในคำปฏิญญาซึ่งหมายถึงการยอมรับการถูกควบคุมในทางความคิดแล้วก็จะต้องถูกปลด การปฏิบัติเช่นนี้เปนเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในรัฐใหญ่ๆ เช่นนิวยอร์คและแคลิฟอเนีย เด็กนักเรียนของรัฐเหล่านั้นได้รับการสั่งสอนถึงวิธีป้องกันอันตรายจากลูกระเบิด แทนที่จะได้รับการสั่งสอนให้สร้างโลกสันติที่ลูกระเบิดไม่อาจตกลงมาจากฟ้าได้ ด้วยการโฆษณาปลุกปั่นเช่นนั้นแหละ ใครๆ ก็พากันพูดถึงแต่เรื่องสงครามและความสยดสยองของสงครามแม้แต่เด็กนักเรียน Dr. Willard Uphaus บรรยายว่า เมื่อผู้แทนคนหนึ่งในคณะผู้แทนสันติชนของเขาถูกจับ เนื่องด้วยนำคำเรียกร้องสันติภาพออกแจกจ่ายนั้น ฝ่ายโจทย์ได้สรุปคำแถลงของเขาแก่คณะลูกขุนว่า “นายคนนี้แหละที่ในระหว่างที่อเมริกากำลังทำสงคราม เขาเรียกหาสันติภาพ การกระทำเช่นนี้จะไปเรียกว่าเปนการท้าทายระบบกฎหมายและความสงบเรียบร้อยของเราทั้งหมดหรือ? จะไม่เรียกว่าเปนการท้าทายระบบการปกครองของเราทั้งหมดหรือ?

การก่อให้เกิดความกลัวและการขู่ให้กลัว ดังที่ชนชั้นที่กุมอำนาจปกครองและลูกมือของเขา ได้ปฏิบัติอย่างเข้มงวดอยู่ในอเมริกานี้แหละ ที่ทำให้เด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่งอยากจะไปเสียให้พ้นโลกที่คลุมไว้ด้วยท้องฟ้า

ภัยของสงครามนั้นมิได้ตั้งต้นเอาต่อเมื่อสงครามได้ระเบิดตูมตามออกมา ภัยของสงครามได้ตั้งต้นตั้งแต่ในขั้นเตรียมการสงคราม รัฐบาลของประเทศที่เตรียมการทำสงครามนั้น ในขั้นต้นก็จะระดมเครื่องมือโฆษณา การปั่นหัวประชาชนให้หมกมุ่นอยู่แต่ในเรื่องการทำสงคราม เพื่อที่จะบรรลุความมุ่งหมายข้อนั้น รัฐบาลก็จะต้องปกปิด อำพรางความจริง และควบคุมความคิดที่จะชักจูงประชาชนให้หันเหไปจากเรื่องสงคราม เหตุฉะนั้น ในอเมริกาการสอบสวนจับกุมลงโทษบุคคลผู้ที่คัดค้านสงครามและส่งเสริมสันติจึงมีอยู่ดกดื่น และเปนเรื่องเกรียวกราวอยู่เสมอ พวกศาสตราจารย์, นักเขียนและนักแสดงภาพยนตร์ผู้ใฝ่สันติที่ต้องตกเปนเหยื่อแก่การถูกกล่าวหาจับกุมลงโทษมากราย พวกนิโกรอเมริกันผู้ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่ต้องการจะถูกเกณฑ์ไปทำสงครามประหัตประหารเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เปนพวกที่ถูกทางการบ้านเมืองขนาบปราบปรามอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี ข่าวที่น่าสนเท่ห์และน่าสังเวชเช่นนี้ไม่ใคร่จะมีปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ในเมืองไทย แต่ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ข่าวเหตุการณ์ในอเมริกาที่เปนข่าวประหลาดเช่นนี้มีอยู่ชุกชุม ดังนั้นผู้คนพลเมืองในยุโรปจึงมองดูพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในอเมริกาด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรกันที่นั่น และสิ่งที่ติดตามมากับความประหลาดใจก็คือความไม่ไว้วางใจว่า พวกที่กุมอำนาจในอเมริกาจะลากประเทศใหญ่น้อยในโลกเข้าไปในสงครามมหาประลัย โดยที่เขาเหล่านั้นไม่ต้องการเลย เพราะฉะนั้นเราจึงได้เห็นว่า ความร่วมมือของนานาประเทศพันธมิตรของอเมริกาได้คลายความหนักแน่นและปรากฏอาการขัดแย้งเพิ่มพูนขึ้นเปนลำดับ นี้เปนความเปนจริงที่ปรากฏอยู่แล้ว นี้เปนสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า นานาประเทศต้องการสันติภาพและหลีกเลี่ยงการถูกผลักดันชักจูงให้เข้าสู่สงครามโดยเปนเครื่องมือของคนอื่น นี้เปนความจริงที่เมืองไทยไม่พึงมองข้ามไป

การเตรียมการทำสงครามนั้นย่อมมาพร้อมกับการทำให้ประชาชนเกิดความกลัว และการขู่ให้กลัว ซึ่งเปนการนำความเสื่อมมาสู่จิตใจของประชาชน การเตรียมการย่อมมาพร้อมกับการบังคับข่มขี่ประชาชนให้หมอบราบต่ออำนาจของรัฐ ซึ่งก็เปนแต่อำนาจของชนชั้นหนึ่งหรือส่วนหนึ่งที่จะใช้บังคับแก่ชนชั้นอื่นหรือชนส่วนใหญ่เท่านั้น การเตรียมการทำสงคราม ย่อมมาพร้อมกับการกวาดรวมเอารายได้ของประชาชนไปใช้ในการสร้างหรือซื้อเครื่องอาวุธ เมื่อแรงงานและรายได้จำนวนมากรายของประชาชนต้องถูกใช้ไปเพื่อเครื่องประหารเสียแล้ว ประชาชนก็ย่อมจะขาดแคลนเครื่องบำรุงชีวิตเปนธรรมดา หากว่าประชาชนไม่ต้องการมีชีวิตเพื่อความทุกข์ทรมานและเพื่อความขาดแคลน เขาก็จะต้องเรียกร้องให้รัฐบาลเลิกการเตรียมการเพื่อสงคราม หรืองดการกระทำทุกชนิดที่เปนการก่อศัตรู หรือชักนำประเทศให้ดำเนินใกล้สงครามเข้าไปทุกที

เมื่อไม่นานมานี้ นักหนังสือพิมพ์อเมริกันนายหนึ่งได้ถามนายพลฝรั่งเศสว่า เขามีความเห็นอย่างไรในเรื่องสงครามโลกครั้งที่สาม นายพลฝรั่งเศสตอบว่า เพราะว่าอเมริกายังไม่เคยเปนสนามยุทธของสงคราม เพราะว่าอเมริกาอยู่ไกลสนามยุทธเกินไป ชาวอเมริกันจึงพูดจาถึงเรื่องสงครามอย่างเอิกเกริก แต่ชาวฝรั่งเศสซึ่งปิตุภูมิของเขาได้ตกเปนสนามยุทธมาแล้วในสงครามโลกสองครั้ง ย่อมรู้รสชาติความทุกข์ทรมานของสงครามมาแล้วอย่างตรึงใจ ย่อมจะพูดถึงสงครามอย่างที่ชอบพูดกันอยู่ในอเมริกาขณะนี้ไม่ได้อยู่เอง สำหรับสงครามโลกครั้งที่สามนั้น นายพลฝรั่งเศสตอบว่า ผู้แพ้ผู้ชนะจะไม่มี จะมีก็แต่การแปลงโลกทั้งโลกให้เปนนรกไปเท่านั้น และสรรพสิ่งที่มนุษย์ได้ออกแรงออกปัญญาสร้างสรรค์มานับเปนเวลาตั้งพันปี ก็จะละลายหายศูนย์ไปในขุมนรกนั้น

นั่นแหละคือสิ่งที่โฆษณากันอย่างอื้ออึงในอเมริกาว่าเปนสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้! นั่นแหละคือสิ่งที่ได้มีการเร่งเร้ามาจากทวีปโน้นว่า ชาวโลกเสรีจะต้องควบตะบึงไปให้ถึง! นั่นแหละคือสิ่งที่จะไปถึงได้โดยไม่ชักช้าด้วยการระดมสร้างอาวุธประหารอันร้ายกาจและแจกจ่ายอาวุธประหารอันร้ายกาจนั้นไปทั่วโลก!

แต่ในปัจจุบันนี้ประชาชาวโลกได้ตื่นตัวขึ้นแล้ว เขาได้ร้องคัดค้านขึ้นเซ็งแซ่แล้วว่าเขาจะไม่เดินทางเข้าหาขุมนรกอันแสนสยดสยองนั้น ทางของประชาชนทั่วโลกคือทางไปสู่สันติภาพ เขาได้ผสานกำลังของเขาเปนปึกแผ่นแข็งแรงแล้ว การร่วมแสดงมติเรียกร้องสันติภาพ เขากำลังก้าวหน้าไปอีกก้าวหนึ่งในการเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจทั้งห้าทำกติกาสัญญาสันติภาพขึ้นไว้

บัดนี้ความสำเร็จของการพิทักษ์สันติภาพของโลกจึงอยู่ที่กำลังความร่วมมือของสามัญชนทั่วโลกนั่นเอง และก็มีนิมิตรแล้วว่ากำลังความร่วมมือของประชาชนจะสามารถพิทักษ์สันติภาพไว้ได้

ความร่วมมือของประชาชนจะช่วยให้เด็กหญิงเล็กๆ ในอเมริกา ในเมืองไทย และทั่วโลกไม่ต้องร้องขอแก่แม่ของเขาให้พาไปอยู่ในที่ๆ ไม่มีท้องฟ้า

ด้วยความร่วมมือของประชาชน เด็กหญิงเล็กๆ ทั่วโลกจะอยู่ด้วยความสงบผาสุกในอ้อมอกแม่ ในโลกที่คลุมไว้ด้วยท้องฟ้าแห่งสันติ

ที่มา : ไม่ทราบแหล่งพิมพ์ครั้งแรก
เวลา : 31 พฤษภาคม พ.ศ.2494

 

หมายเหตุ :

  • กองบรรณาธิการสถาบันปรีดี พนมยงค์ ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ต้นฉบับจากคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการหนังสือมนุษย์ไม่ได้กินแกลบฯ และคุณปรีดา ข้าวบ่อ แห่งสำนักพิมพ์ชนนิยมแล้ว
  • อักขระและวิธีสะกดคงไว้ตามต้นฉบับ
  • โปรดดูเพิ่มเติม หมายเหตุบรรณาธิการได้ที่ สุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการ, เรื่อง “ทางไปสู่โลกที่คลุมไว้ด้วยท้องฟ้าแห่งสันติ”, มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ ข้อเขียนการเมืองของกุหลาบ สายประดิษฐ์ (กรุงเทพฯ: แอล.ที.เพลส, 2548),  น. 493-497.
  • ตัวเน้นโดยผู้เขียน

บรรณานุกรม :

  • กุหลาบ สายประดิษฐ์, เรื่อง “ทางไปสู่โลกที่คลุมไว้ด้วยท้องฟ้าแห่งสันติ”, มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ ข้อเขียนการเมืองของกุหลาบ สายประดิษฐ์ (กรุงเทพฯ: แอล.ที.เพลส, 2548),  น. 493-497.

บทความที่เกี่ยวข้อง :