ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
วันนี้ในอดีต

รำลึกครูแก้ว อัจฉริยะกุล กับบทเพลง “หวนอาลัย” ถ้อยคำแห่งรัก ศรัทธา และอาลัยต่อยุคสมัย

15
พฤษภาคม
2568
 

 

ในวาระวันคล้ายวันเกิดของ ครูแก้ว อัจฉริยะกุล 15 พฤษภาคมของทุกปี เราขอร่วมรำลึกถึงนักประพันธ์คำร้องผู้ยิ่งใหญ่ แห่งแวดวงเพลงไทยสากล ผู้ฝากผลงานอันเป็นอมตะไว้ในหัวใจของผู้คนหลายยุคสมัย ด้วยภาษาที่วิจิตร อารมณ์ที่ลึกซึ้ง และความซื่อตรงต่อสัจจะ ครูแก้วมิใช่เพียงนักแต่งเพลง หากคือกวีผู้ถ่ายทอดร่องรอยของยุคสมัย ผ่านถ้อยคำที่เปี่ยมชีวิตและความหมาย

ครูแก้วเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2458 จบการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยรับราชการที่กรมไปรษณีย์โทรเลข ก่อนจะลาออกในปี พ.ศ. 2497 เพื่ออุทิศชีวิตให้แก่ศิลปะของถ้อยคำอย่างเต็มภาคภูมิ

ในบรรดาบทเพลงนับร้อยที่ครูแก้วสร้างสรรค์ “หวนอาลัย” คือหนึ่งในผลงานที่ลึกซึ้งและทรงพลังที่สุด แม้มิได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพราะถูก “ทำให้ลืม” ไปพร้อมกับประชาธิปไตยที่ถูกพราก

เพลงนี้แต่งขึ้นโดยมี ครูเวส สุนทรจามร เป็นผู้ประพันธ์ทำนอง เพื่อรำลึกถึง นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ผู้ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ หลังเหตุรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

บรรยากาศแห่งความเศร้าและความรู้สึกสูญเสียยังคงปกคลุมในช่วงหลังเหตุการณ์ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 เมื่อขบวนการประชาธิปไตยถูกปราบปรามอย่างรุนแรง คุณเฉลิมชัย วะสีนนท์ อดีตนักเรียนเตรียมปริญญามหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ต.ม.ธ.ก.) รุ่นที่ 6 เล่าว่า ในช่วงที่ธรรมศาสตร์หม่นหมองและเงียบเหงา นิพิศ วรรณสาร ได้ขับร้อง “หวนอาลัย” เป็นครั้งแรกในวงสนทนาของนักศึกษา เสียงเพลงวันนั้นเสมือนเสียงของธรรมศาสตร์ในวันที่ไร้เงาผู้ประศาสน์การฯ[1]

 

คุณเฉลิมชัยเล่าอีกว่า เพลงนี้เป็นบทเพลงที่เขารักมากที่สุดบทหนึ่ง และได้ขับร้องในงานชุมนุมคนไทยที่ประเทศฝรั่งเศสต่อหน้าคุณสุดา พนมยงค์ ลูกสาวของท่านปรีดี พร้อมบอกว่า “ครูแก้วแต่งเพลงนี้ให้ท่านผู้ประศาสน์การฯ” เมื่อกลับเมืองไทย เขายังได้นำเพลงนี้ไปร้องให้คุณดุษฎี พนมยงค์ ฟัง แม้บางท่อนจะไม่แน่ใจในถ้อยคำ แต่หัวใจก็ไม่เคยลืมท่วงทำนองแห่งความอาลัยนั้น

“หวนอาลัย” กลายเป็นเสียงหัวใจของธรรมศาสตร์ในห้วงเวลาที่ประชาธิปไตยถูกพราก นักศึกษาธรรมศาสตร์จำนวนมากขับร้องเพลงนี้เพื่อระลึกถึงท่านผู้ประศาสน์การ เช่น ในการชุมนุมใหญ่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 บทเพลง “หวนอาลัย” และ “แห่งความหลัง” ดังก้องทั่วสนามมหาวิทยาลัย พร้อมน้ำตาแห่งความเคารพรักที่ยังคงอยู่

อีกฉากหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้คือการแสดงละครนักศึกษา ซึ่งมีตอนหนึ่งจำลองภาพนักศึกษาถูกพันธนาการ ขณะพ่อแม่ (เปรียบถึงผู้นำ) ถูกขับไล่ออกไป เมื่อเพลง “หวนอาลัย หัวใจคร่ำครวญ” ดังขึ้น น้ำตาก็หลั่งไหลพร้อมกับเสียงเพลง

สัมผัส พึ่งประดิษฐ์ อดีตนักเรียน ต.ม.ธ.ก. รุ่นที่ 7 เล่าถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า

“ในความรู้สึกของนักศึกษาสมัยนั้น มันเหมือนกับว่า สถานที่อันเป็นสัญลักษณ์ของอนาคตของประเทศถูกยึด ผู้บริหารอย่างอาจารย์ปรีดี ซึ่งเราเคารพเป็นปูชนีย์อยู่เหมือนกับเป็นพ่อเราคนหนึ่ง ถูกขับไล่ ... พวกเราเกิดความรู้สึกถูกข่มเหง รังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรม พูดแล้วมันน้ำตาไหล ตอนนั้นพวกเรายังแต่งละครให้พวกเรานักศึกษาเหมือนกับถูกจับมัด ล่ามโซ่ ถูกกุญแจมือ พ่อแม่ก็ถูกขับไล่ แล้วก็เล่นเพลงหวนอาลัย ที่ขึ้นว่า ‘หวนอาลัย หัวใจคร่ำครวญ’ พอเพลงนี้ขึ้นตอนนั้นทุกคนร้องไห้หมด น้ำตาไหล ‘หัวใจคร่ำครวญ’ เหมือนในเพลง”[2]

 

เพลง “หวนอาลัย” ผูกพันแน่นแฟ้นกับฉากหลังของรัฐประหาร พ.ศ. 2490 ซึ่งเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ไทยอย่างพลิกผัน นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ผู้เคยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องลี้ภัยทางการเมืองและไม่ได้กลับคืนบ้านเกิดอีกเลย

ต่อมา คุณดุษฎี พนมยงค์ ได้พยายามค้นหาต้นฉบับของเพลงนี้ แต่พบว่าแทบไม่มีใครรู้จัก จนกระทั่งได้พบ ครูเพ็ญศรี พุ่มชูศรี ผู้มีเมตตาร้องเพลงนี้ให้ฟัง พร้อมให้ผู้เขียนจดเนื้อร้องและให้อภิชาต อินทรวิศิษฎ์ เรียบเรียงเสียงประสาน โดยมี คุณอิสริยา คูประเสริฐ ขับร้อง และ คุณนบ ประทีปะเสน บรรเลงเปียโน เป็นการชุบชีวิตให้บทเพลงที่เกือบหล่นหายจากความทรงจำของชาติ

นับแต่นั้น “หวนอาลัย” จึงกลายเป็นเพลงแห่งประวัติศาสตร์ ถูกนำไปใช้ในวาระสำคัญ รวมถึงเป็นชื่อหนังสือไว้อาลัย ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ คู่ชีวิตของท่านปรีดี ผู้ยืนหยัดเคียงข้างอุดมการณ์แห่งเสรีภาพจวบจนวาระสุดท้าย

ในวาระครบรอบชาตกาลของครูแก้ว เราขอคารวะท่านด้วยหัวใจเปี่ยมศรัทธา ในผลงานที่ท่านได้มอบแก่สังคมไทยผ่านถ้อยคำที่งดงาม ตราตรึง และเปี่ยมด้วยคุณธรรม ท่านคือศิลปินผู้เข้าใจมนุษย์ และกล้ายืนอยู่เคียงข้างความถูกต้อง แม้ในยามที่ความเงียบคือทางรอด

ครูแก้วจากไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2524

แต่บทเพลงของท่านยังดำรงอยู่ ตราบใดที่ยังมีผู้ขับร้อง และหัวใจยังหวนอาลัย.

 

หวนอาลัย

เนื้อร้อง : แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง : เวส สุนทรจามร

หวนอาลัยหัวใจคร่ำครวญ
ทุกวันเหงาใจให้หวนคร่ำครวญจำคนึง
กรรมเอ๊ยกรรมต้องจำคิดรำพึง
ครวญถึงคนหนึ่งโศกซึ้งไม่คลายครา
บางเวลาน้ำตาหลั่งไหล
โถ ! กรรมชักนำจากไปเศร้าใจทรมา
คอยทุกวันตื้นตันทุกวันมา
บุญน้อยคอยท่ากลับร้างกลับราไป
หมองใจตรมระทมไร้ร่มโพธิ์ทอง
สุดปองหมองหม่นไหม้
ยามพร้อมบุญยังอุ่นใจ
ครั้นบุญมาขาดไปดั้งใจขาดพลัน
ยามแรมไกลเหงาใจเยือกเย็น
ฉันปองทุกข์ครองยากเข็ญเยือกเข็นในอุราไกลแสนไกลเมื่อไรถึงจะมา
ยังหลงคอยท่าอย่าร้างอย่าลาเลย

 

 

รับชมและฟังเพลงหวนอาลัยได้ที่นี่: https://youtu.be/PYsLViJvfws

 


[1] ดุษฎี พนมยงค์, 82 ปี 11 เดือน 21 วัน,สนพ. แสงดาว, หน้า 263.

[2] สัมผัส พึ่งประดิษฐ์, ประวัติศาสตร์บอกเล่าแผนกเตรียมปริญญามหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ต.ม.ธ.ก.) พ.ศ. 2481-2490 เล่ม 2 (พ.ศ. 2486-2490), หน้า 172.