ข่าวสารและบทความ

ภายหลังการเข้ามาของกองทัพญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ประเทศไทยต้องเข้าเป็นสัมพันธมิตรและเข้าเป็นพันธมิตรทางการทูต

สุโข สุวรรณศิริ เสนอว่า นายปรีดี พนมยงค์ เป็นบุคคลต้นแบบที่ควรยึดถือ ด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความรู้ความสามารถ และวิสัยทัศน์กว้างไกล ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง

ผลการประกวดบทความชิงรางวัล “ทุนปาล พนมยงค์” หัวข้อ ประชาธิปไตยที่ไร้สันติภาพ : เมื่อความรุนแรงไม่ได้อยู่แค่ในสงคราม ประจำปี2568

รวมคำถาม ข้อเสนอ และมุมมอง เพื่อถอดบทเรียน ปัญหาสันติภาพและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในอนาคต

บันทึกที่มาและรายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่าง นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส และ โฮจิมินห์ ผู้นำการต่อสู้เพื่อเอกราชแห่งเวียดนาม รวมไปถึงมิตรภาพอันดีกับผู้นำระดับสูงของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

โฮจิมินห์เป็นผู้นำเวียดนามที่เปี่ยมด้วยอุดมการณ์ เสียสละเพื่อชาติ ไม่ยึดติดอำนาจ ยศศักดิ์ ทำให้ชาวเวียดนามยกย่องสูงสุด โดยเขาเดินทางทั่วโลก เพื่อเรียนรู้แนวคิดเพื่อการปลดปล่อยอินโดจีน ใช้ชีวิตสมถะ ทั้งยังไม่สนับสนุนลัทธิบูชาตัวบุคคล

มูลนิธิ - สถาบันปรีดี พนมยงค์ ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในงานสวดพระอภิธรรมคุณจอน อึ๊งภากรณ์ บุตรชายคนโตของศาสตราจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ณ วัดบางเพ็ญใต้

อังคณา นีละไพจิตร เน้นว่าการสร้างสันติภาพต้องเริ่มจากการรับฟังเสียงของผู้ถูกกระทำ และยอมรับความหลากหลายทางชาติพันธุ์ โดยเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญและยุติวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมไทย

เอกสารยืนยันความบริสุทธิ์ของนายปรีดี พนมยงค์ จากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกรณีสวรรคต ร.8 โดยมีการดำเนินคดีหลายครั้ง และคู่ความต่างยอมรับผิด โดยขอขมาอย่างเป็นทางการ

นายวิชา กันตามระ เป็นนักกฎหมายผู้ภักดีต่อนายปรีดี พนมยงค์และยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมผ่านการว่าความในคดีสำคัญทางการเมือง โดยได้รับมอบอำนาจในคดีสำคัญ ๆ เพื่อยื่นเรื่องคดีหมิ่นประมาท