ในระยะหลัง ๆ นี้ เมื่อนึกถึงวัดญาณเวศกวัน ภาพหนึ่งซึ่งมักปรากฏในใจ คือ วันหนึ่ง เมื่อไปสังฆกิจที่วัดนั้น ได้พบกับคุณวาณี พนมยงค์ สายประดิษฐ์ ซึ่งมากับพี่และญาติใกล้ชิด ที่หน้าประตูเขตสงฆ์ ที่จะออกไปสู่อุโบสถ เวลานั้น คุณวาณีมีโรคาพาธมากหลายอยู่กับตัว แต่ก็มีน้ำใจไปเยี่ยมวัดเยี่ยมพระ นอกจากน้ำใจแล้ว ก็เห็นว่าเป็นความเข้มแข็งของท่านด้วย และนั่นเป็นวันที่ได้พบครั้งสุดท้าย
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ได้ทราบข่าวว่า คุณวาณีเสียชีวิตแล้วในวันก่อนหน้านั้น คือในวันสิ้นเดือนตุลาคม 2561 และก็นึกเห็นภาพคุณวาณีเมื่อพบที่หน้าประตูเขตสงฆ์ ที่จะออกไปสู่อุโบสถอย่างที่ได้เล่า แล้วก็ตั้งใจว่า ถึงจะอยู่ไกล ก็จะไปเยี่ยมศพที่วัดเทพศิรินทร์ แต่ประจวบว่า เวลานั้นมีเหตุการณ์ใหญ่ใกล้ที่นั้น ซึ่งผู้อยู่ใกล้เกรงจะเป็นความจอแจและได้ขอให้ยับยั้ง
เป็นธรรมดาว่า เมื่อนึกถึงคุณวาณี ก็นึกเห็นโยมท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ เพราะในครั้งก่อนโน้น ตั้งแต่แรกที่จะได้พบ ก็คือ ลูกหลานติดตามไปที่วัดกับโยมท่านผู้หญิง ผู้เป็นประธานของครอบครัว แล้วก็ไปด้วยกันต่อ ๆ มา นึกถึงเมตตาของโยมท่านผู้หญิง พร้อมกับบรรยากาศแบบในครอบครัวที่มีความสุขอย่างเบาสบายปลอดโปร่งใจ ครั้นถึงวาระนี้ ก็ให้นึกว่า คุณวาณี พนมยงค์ มีความเข้มแข็ง และได้ดำรงตนเข้มแข็งมั่นคงในความดี ตามแบบอย่างของโยมท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์
เมื่อยังมีผู้เข้มแข็งมั่นคงดำรงตนอยู่ในความดีสืบทอดต่อกันไว้ ความดีก็จะยังดำรงมั่นคงปรากฏอยู่ได้ในสังคมสืบต่อไป
คุณวาณี พนมยงค์ สายประดิษฐ์ ได้จากไปตามกฎแห่งธรรมดาของชีวิต ในวาระที่ระลึกถึงความดีของท่านที่จากไป การอนุสรณ์ถึงท่าน ก็เป็นการฝากคติธรรมไว้แก่ผู้อยู่ข้างหลังด้วยว่า
ตสฺมา อิธ ชีวิตเสเส
กิจฺจกโร สิยา นโร น จ มชฺเช
…ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ทุกคนควรทำกิจหน้าที่ และไม่พึงประมาท
หมายเหตุ: เขียนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 สำหรับลงพิมพ์ในหนังสืออนุสรณ์งานปลงศพ นางวาณี พนมยงค์ สายประดิษฐ์