Focus
- ในข้อ 7. ของบันทึกประกอบคำประท้วงของปรีดี พนมยงค์ มีประเด็นที่นายปรีดี พนมยงค์ โต้แย้งข้อเท็จในหนังสือชีวิต 5 แผ่นดินของข้าพเจ้าฯ ใน 3 ประการ ได้แก่ ประเด็น 1 ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินซึ่งผู้แทนคณะราษฎรได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อขอพระราชทานนั้นยังคงมี “เสนาบดี” หรือไม่? ประเด็น 2 พระยาทรงสุรเดชได้กำชับปรีดีให้ร่างรัฐธรรมนูญตามแบบอังกฤษหรือไม่ ประเด็น 3 พล.ท.ประยูรฯ ปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นด้วยในการร่างรัฐธรรมนูญนั้นฟังว่าเอาเป็นจริงได้หรือ
- ประเด็นที่ 1 ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินซึ่งผู้แทนคณะราษฎรได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อขอพระราชทานนั้นยังคงมี “เสนาบดี” หรือไม่ เมื่ออ่านเอกสารหลักฐานจึงพบข้อเท็จจริงหลักคือ ธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน (ชั่วคราว) ฉบับ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ปรากฏชัดแจ้งแล้วว่า “เสนาบดี” ยังคงมีอยู่ มิใช่เปลี่ยนนามเสนาบดีว่า “กรรมการราษฎร” ดังปรากฏความตามรัฐธรรมนูญฉบับนั้นดังต่อไปนี้ มาตรา 31, มาตรา 32 และมาตรา 33
- ประเด็นที่ 2 ในบันทึกพระยาทรงสุรเดชระบุว่า “เป็นอันว่าการยึดอำนาจปกครองโดยคณะปฏิวัติได้สำเร็จโดยราบรื่นภายในเช้าวันที่ 24 มิถุนายน นั้นเอง ต่อไปนี้ก็รอคำตอบของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งถ้ามิทรงตอบรับก็จะได้ตั้งพระองค์อื่นขึ้นแทน แต่ก็เป็นโชคดี เมื่อในหลวงเสด็จถึงพระนครแล้ว ผู้อำนวยการฝ่ายทหารได้สั่งพระประศาสน์ฯ ไปเข้าเฝ้าร่วมกับคณะกราบทูลทางด้วยดี ยินยอมประนีประนอมมิได้ปฏิเสธ นับว่าได้รับรัฐธรรมนูญโดยราบรื่นในวันที่ 27 มิถุนายน” โดยไม่พบข้อความที่พล.ท.ประยูรฯ อ้างว่าพระยาทรงฯ ซักซ้อมเรื่องยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างอังกฤษ
- ประเด็นที่ 3 นายปรีดี โต้แย้งว่ามีหลักฐานอีกหลายประการพิสูจน์ได้ว่าพล.ท.ประยูรฯ ได้รู้เห็นด้วยในการร่างรัฐธรรมนูญที่ผู้แทนคณะราษฎร ได้ทูลเกล้าถวายเพื่อขอพระราชทานนั้น
ข้อ 7.
พล.ท.ประยูรฯ ปฏิเสธไม่ได้ว่าติดตามทดสอบกับหลวงประดิษฐ์ในการร่างรัฐธรรมนูญ
พล.ท.ประยูรฯ เขียนไว้ในประโยค 2 แห่งวรรค 5 ของสรุปการปฏิวัติว่า
- ไม่ได้รู้เห็นในเรื่องการขนานนามเสนาบดีผู้บริหารประเทศเป็นกรรมการราษฎรแบบประเทศโซเวียตรัสเซีย
ครั้นแล้วในวรรคที่ 6 พล.ท.ประยูรฯ เขียนไว้ว่า
- อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าจำต้องสารภาพความผิดที่ไม่ได้ติดตามทดลองกับหลวงประดิษฐ์ฯ ในการร่างรัฐธรรมนูญ ตามแนวที่ พล.อ.พระยาทรงสุรเดชได้ซักซ้อมไว้แล้วว่าให้ยกร่างตามแบบประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยเฉพาะอย่างอังกฤษ ซึ่งเป็นการชัดแจ้งอยู่แล้ว
ข้อสังเกต
ข้อความที่ พล.ท.ประยูรฯ เขียนว่า “ไม่ได้รู้เห็นในเรื่องในการขนานนามเสนาบดีผู้บริหารประเทศเป็นกรรมการราษฎรตามแบบโซเวียตรัสเซีย” นั้นสมานกับการแต่งเรื่องของพล.ท.ประยูรฯ ในหนังสือ หน้า 173-176 ภายใต้หัวเรื่อง “การนำรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ” และสมานกับการปฏิเสธหลัก 6 ประการของคณะราษฎร ฯลฯ ซึ่งข้าพเจ้า(ปรีดี) จะเสนอให้ท่านผู้อ่านที่มีใจเป็นธรรมพิจารณาเพิ่มเติมไว้ในข้อ 8, ข้อ 9, ข้อ 10, และข้ออื่น ๆ ต่อไป
โดยเฉพาะในข้อ 7 นี้ข้าพเจ้าขอให้ท่านผู้มีใจเป็นธรรมพิจารณาประเด็น 3 ประการ คือ
ประเด็น 1 ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินซึ่งผู้แทนคณะราษฎรได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อขอพระราชทานนั้นยังคงมี “เสนาบดี” หรือไม่?
ประเด็น 2 พระยาทรงสุรเดชได้กำชับปรีดีให้ร่างรัฐธรรมนูญตามแบบอังกฤษหรือไม่
ประเด็น 3 พล.ท.ประยูรฯ ปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นด้วยในการร่างรัฐธรรมนูญนั้นฟังว่าเอาเป็นจริงได้หรือไม่
7.1
ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินซึ่งผู้แทนคณะราษฎรได้ทูลเกล้าฯถวายเพื่อขอพระราชทานนั้นยังคงมีเสนาบดีหรือไม่?
นักศึกษาหลายคนที่เดิมยังคงหลงเชื่อหนังสือของพล.ท.ประยูรฯ ว่าเป็นสารคดีนั้น แต่ต่อมาได้อ่านเอกสารหลักฐานจึงพบความจริงดังต่อไปนี้
(1) ธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน (ชั่วคราว) ฉบับ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ปรากฏชัดแจ้งแล้วว่า “เสนาบดี” ยังคงมีอยู่ มิใช่เปลี่ยนนามเสนาบดีว่า “กรรมการราษฎร” ดังปรากฏความตามรัฐธรรมนูญฉบับนั้นดังต่อไปนี้
มาตรา 31 ให้เสนาบดีกระทรวงต่างๆ เป็นผู้รับผิดชอบต่อคณะกรรมการราษฎรในกิจการทั้งปวง สิ่งใดซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหรือระเบียบการ คณะกรรมการราษฎรหรือกระทำไปโดยธรรมนูญไม่อนุญาตให้ทำได้ ให้ถือว่าการนั้นเป็นโมฆะ
มาตรา 32 คณะกรรมการราษฎรประกอบด้วยประธานคณะกรรมการราษฎร 1 นาย และกรรมการราษฎร 15 นายรวมเป็น 16 นาย
มาตรา 33 การตั้งการถอดตำแหน่งเสนาบดีย่อมเป็นพระราชอำนาจของกษัตริย์ พระราชอำนาจนี้จะทรงใช้แต่โดยคำแนะนำของคณะกรรมการราษฎร
(2) นักศึกษาหลายคนเห็น-หลักฐานของทางราชการที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ซึ่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารมากมายได้นำไปเผยแพร่นั้นแล้ว ปรากฏความจริงดังต่อไปนี้
(ก)
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2475 ตามธรรมนูญฉบับ 27 มิถุนายน 2475 นั้น ครับ สภาผู้แทนราษฎรได้เลือกตั้งพระมโนปกรณ์เป็นประธานคณะกรรมการราษฎร และแต่งตั้งกรรมการราษฎรอีก 14 คนคือ
- พล.ร.ต. พระยาปรีชาชลยุทธ
- มหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีวิสารวาจา
- พระยาพหลพลพยุหเสนา
- พ.อ.พระยาทรงสุรเดช
- พ.อ.พระยาฤทธิอัคเนย์
- อำมาตย์เอกพระยาประมวลวิชาพูล
- พ.ท. พระยาประศาสน์พิทยยุทธ
- พ.ต. หลวงพิบูลสงคราม
- น.ต. หลวงสินธุสงครามชัย
- หลวงประดิษฐ์มนูธรรม
- หลวงเดชสหกรณ์
- รองอำมาตย์เอกตั้ว ลพานุกรม
- รองอำมาตย์เอกประยูร ภมรมนตรี
- นายแนบ พหลโยธิน
(ข)
ในวันที่ 29 มิถุนายน 2475 คณะกรรมการราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลขอให้ทรงพระกรุณาแต่งตั้งเสนาบดีตามธรรมนูญมาตรา 35 คือ
- พระยามโนปกรณ์ฯ เป็นเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ
- พระยาจ่าแสนยบดี เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย
- เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ เสนาบดีกระทรวงเกษตรพาณิชยการ
- พระยาเทพวิทุร เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม
- พระยาศรีวิสารวาจา เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ
- พระยาประเสริฐสงคราม ปลัดทูลฉลองรักษาการแทนเสนาบดีกระทรวงกลาโหม
- พระยาประมวญวิชาพูล ปลัดทูลฉลองรักษาการแทนเสนาบดีกระทรวงธรรมการ
ต่อมาได้ทรงพระกรุณาแต่งตั้ง พล.ร.ท.พระยาราชวังสัน เป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม และเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ
(3) นักศึกษาได้อ่านหนังสือสัมภาษณ์พระยาฤทธิ์ฯ เล่มที่อ้างแล้วนั้นพบว่าพระยาฤทธิ์ฯ ได้อธิบายหน้าที่ของคณะกรรมการราษฎรกับเสนาบดีไว้ดังต่อไปนี้
ดูเหมือนคณะกรรมการราษฎรนี้จะมิได้บริหารราชการโดยตรง นอกจากคอยควบคุมการบริหารให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาเท่านั้น เพราะมีเสนาบดีว่าการกระทรวงประจำอยู่แล้ว และในการนี้เสนาบดีกระทรวงต่าง ๆ เป็นผู้รับผิดชอบต่อคณะกรรมการราษฎรในกิจการทั้งปวง เสนาบดีจะทำการสิ่งใด ฝ่าฝืนคำสั่งหรือระเบียบของคณะกรรมการราษฎรไม่ได้ ถือว่าเป็นโมฆะ
(4) นักศึกษาเห็นว่าหลายท่านที่เป็นกรรมการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ และผู้ตัดสินให้รางวัลชมเชยหนังสือของพล.ท.ประยูรฯ เล่มนั้น ก็เป็นข้าราชการหรืออดีตข้าราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการหลายท่านดังกล่าวจึงทราบอยู่แล้วว่าจากรูปภาพเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงนั้นว่าเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีเป็นเสนาบดีกระทรวงการครั้งแรกสมบูรณาฯ และครั้งที่ 2 ตามระบบที่สถาปนาขึ้นโดยธรรมนูญการปกครองแผ่นดินฉบับ 27 มิถุนายน 2475
7.2
พระยาทรงสุรเดชได้กำชับปรีดีให้ร่างรัฐธรรมนูญแบบอังกฤษหรือมิใช่?
(1) นักศึกษาได้อ่านหนังสือบันทึกพระยาทรงฯ เล่มที่อ้างถึงแล้ว เพื่อทดสอบข้อเขียนของพล.ท.ประยูรฯ ที่ว่า “แนวทางที่ พ.อ. พระยาทรงสุรเดชได้ซักซ้อมไว้แล้วว่าให้ยกร่างตามแบบประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งอังกฤษ ซึ่งเป็นการชัดแจ้งอยู่แล้ว” นั้นว่าคำอ้างของพล.ท.ประยูรฯ เป็นความจริงหรือไม่
นักศึกษาพบว่าพระยาทรงฯ ได้บันทึกไว้ที่โรงพิมพ์ไว้ในหนังสือเล่มที่อ้างถึงแล้วหน้า 61-62 มีความดังต่อไปนี้
เป็นอันว่าการยึดอำนาจปกครองโดยคณะปฏิวัติได้สำเร็จโดยราบรื่นภายในเช้าวันที่ 24 มิถุนายน นั้นเอง ต่อไปนี้ก็รอคำตอบของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งถ้ามิทรงตอบรับก็จะได้ตั้งพระองค์อื่นขึ้นแทน แต่ก็เป็นโชคดี เมื่อในหลวงเสด็จถึงพระนครแล้ว ผู้อำนวยการฝ่ายทหารได้สั่งพระประศาสน์ฯ ไปเข้าเฝ้าร่วมกับคณะกราบทูลทางด้วยดี ยินยอมประนีประนอมมิได้ปฏิเสธ นับว่าได้รับรัฐธรรมนูญโดยราบรื่นในวันที่ 27 มิถุนายน
นักศึกษาไม่พบข้อความที่พล.ท.ประยูรฯ อ้างว่าพระยาทรงฯ ซักซ้อมเรื่องยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างอังกฤษซึ่งรัฐสภาประกอบด้วยสภาเจ้าศักดินา (House of Lords) และสภาสามัญ (House of Common) นักศึกษาเพียงว่าบันทึกของพระยาทรงฯ นั้น แสดงว่าท่านพอใจร่างรัฐธรรมนูญที่ผู้แทนคณะราษฎรทูลเกล้าถวายฯ และทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทาน
(2) นักศึกษาเห็นว่าพระยาพหลฯ เป็นหัวหน้าคณะราษฎร ส่วนพระยาทรงฯเป็นเพียงหัวหน้ารองจากพระยาพหลฯ อนึ่ง ผู้รักษาพระนครฝ่ายทหารก็เป็นคณะประกอบด้วยพระยาพหลฯ, พระยาทรง, พระยาฤทธิ์ฯ, ฉนั้นพระยาทรงฯ คนเดียวไม่มีอำนาจเป็น “ผู้กำชับ” ปรีดีการที่พล.ท.ประยูรฯ แต่งตั้งให้พระยาทรงฯเป็นผู้กำชับปรีดีนั้นจึงเท่ากับ พล.ท.ประยูรเจาะจงให้ปรีดีเป็นข้ารับใช้พระยาทรงฯ จึงไม่สมเหตุสมผลในสารคดี
อนึ่ง ตามบันทึกของพระยาทรงฯ ที่อ้างแล้วใน (1) นั้นแสดงว่าพระยาทรงฯ ได้พอใจธรรมนูญการปกครองแผ่นดินซึ่งผู้แทนคณะราษฎรได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อขอรับพระราชทานนั้น
หมายเหตุ
ข้าพเจ้า(ปรีดี) จะพิสูจน์ไว้ในข้อ 8, ข้อ 9, ข้อ 10, ข้อ 11, ว่ารัฐธรรมนูญอย่างอังกฤษที่มีสภาเจ้าศักดินา(Lords) นั้นเป็นความคิดเห็นของพล.ท.ประยูรฯ เองที่มีขึ้นภายหลัง พ.ศ. 2475
7.3
พล.ท.ประยูรฯ ปฏิเสธว่าไม่ได้รู้เห็นด้วยในการร่างธรรมนูญนั้น จะฟังเอาเป็นจริงได้หรือไม่?
(1) นักศึกษาวิเคราะห์วิจารณ์ว่า ตามธรรมดาของคนที่จะไปเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินหรือขอพระราชทานธรรมนูญนั้นก็จะต้องได้อ่านรัฐธรรมนูญนั้นมาก่อนเข้าเฝ้า ฉนั้นการที่ ร.อ.อ.ประยูรฯ ได้ร่วมกับคณะฯ ไปเข้าเฝ้าขอพระราชทานรัฐธรรมนูญนั้นก็ต้องได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน เพราะร.อ.อ.ประยูรฯ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง(ตามข้อเขียนของพล.ท. ประยูรดังกล่าวในข้อสรุปการปฏิวัติของท่าน)
(2) หลักฐานอีกหลายประการพิสูจน์ได้ว่าพล.ท.ประยูรฯ ได้รู้เห็นด้วยในการร่างรัฐธรรมนูญที่ผู้แทนคณะราษฎร ได้ทูลเกล้าถวายเพื่อขอพระราชทานนั้น ซึ่งข้าพเจ้า(ปรีดี)จะได้กล่าวไว้ในข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น
หมายเหตุ:
- คงอักขรและวิธีสะกดตามหลักฐานชั้นต้น
ภาคผนวก:
คำขอขมาของห้างหุ้นส่วนจำกัดบรรณกิจเทรดดิ้งและประกาศกระทรวงศึกษาธิการเพิกถอนคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาหนังสือแห่งชาติ หนังสือชื่อ “ชีวิต 5 แผ่นดินของข้าพเจ้า” โดย พล.ท. ประยูร ภมรมนตรี
ประกาศกระทรวงศีกษาธิการ
บรรณานุกรม
หลักฐานชั้นต้น :
- ปรีดี พนมยงค์, บันทึกประกอบคำประท้วงของปรีดี พนมยงค์, (มปท., มปป.)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง :
- บันทึกประกอบคำประท้วง กรณีหนังสือชีวิต 5 แผ่นดิน เรื่องข้อเท็จจริงของการอภิวัฒน์ 2475 (ตอนที่ 1)
- บันทึกประกอบคำประท้วง กรณีหนังสือชีวิต 5 แผ่นดิน เรื่องข้อเท็จจริงของการอภิวัฒน์ 2475 (ตอนที่ 2)
- บันทึกประกอบคำประท้วง กรณีหนังสือชีวิต 5 แผ่นดิน เรื่องข้อเท็จจริงของการอภิวัฒน์ 2475 (ตอนที่ 3)
- บันทึกประกอบคำประท้วง กรณีหนังสือชีวิต 5 แผ่นดิน เรื่องข้อเท็จจริงของการอภิวัฒน์ 2475 (ตอนที่ 4)
- บันทึกประกอบคำประท้วง กรณีหนังสือชีวิต 5 แผ่นดิน เรื่องข้อเท็จจริงของการอภิวัฒน์ 2475 (ตอนที่ 5)