ในห้วงยามที่ยากลำบากขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 หนึ่งชีวิตของ "จำกัด พลางกูร" ต้องจบลงเนื่องจากความป่วยไข้ทางร่างกายในระหว่างปฏิบัติภารกิจสำคัญเพื่อกอบกู้ชาติและอธิปไตยของชาติ ณ ประเทศจีนนั้น แม้หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากนายปรีดี พนมยงค์ จะยังมิได้เสร็จสิ้นในเวลานั้น แต่ทว่า ความพยายามของจำกัดหาได้สูญเปล่า เพราะในเวลาต่อมาขบวนการเสรีไทยก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ
จำกัด พลางกูร ถือเป็นฟันเฟืองซึ่งหากขาดชายผู้นี้ อนุชนรุ่นหลังก็มิอาจจินตนาการได้ว่าผลจากสงครามโลกในครั้งนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อประเทศชาติบ้าง จริงที่ว่า การสูญเสียจำกัดได้นำมาซึ่งความเศร้าโศก แต่คุณงามความดีที่จำกัดได้ก่อไว้ยังคงเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำให้ได้ระลึกถึงอยู่ตลอดไป ดังจดหมายและคำไว้อาลัยที่ส่งถึง "ฉลบชลัยย์ พลางกูร" ผู้เป็นภรรยาได้รับ ภายหลังข่าวคราวดังกล่าวแพร่ไปยังมิตรสหายต่างๆ
เฉลียว ปทุมรส
(ตราครุฑ)
ที่ จ. ๑๑๒๔/๒๔๘๘ สำนักราชเลขานุการในพระองค์
๒๗ พฤศจิกายน ๒๔๘๘
เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์
จาก ราชเลขานุการในพระองค์
ถึง นางฉลบชลัยย์ พลางกูร
ด้วยผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้พิจารณาเห็นว่า ตามที่นายจำกัด พลางกูร สามีของท่าน ได้อาสาไปราชการพิเศษ ณ ต่างประเทศ เพื่อประโยชน์แห่งความเป็นเอกราชและอธิปไตยของชาติบ้านเมือง และได้ป่วยเป็นโรคเนื้อร้ายในลำไส้ถึงแก่กรรมในระหว่างที่ปฏิบัติราชการในหน้าที่อยู่นั้น นับว่าเป็นความตายที่เสียสละเพื่อประโยชน์แห่งประเทศชาติ และแสดงถึงความรักชาติอย่างแรงกล้า สมควรจะพระราชทานพระมหากรุณาแก่ครอบครัว เพื่อให้สมแก่คุณงามความดีของผู้ที่ได้ล่วงลับ และเป็นตัวอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป ฉะนั้น ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จ่ายเงินพระราชทานเลี้ยงชีพแก่ท่าน เดือนละ ๓๐๐ (สามร้อย) บาท ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๔๘๘ เป็นต้นไป จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าท่านจะมีสามีใหม่ จึ่งเป็นอันงดจ่าย
จึ่งแจ้งมาเพื่อท่านจักได้ไปติดต่อขอรับเงินตามจำนวนดั่งกล่าวยังสำนักงานพระคลังข้างที่ต่อไป
นายเฉลียว ปทุมรส
พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา
บ้านพักบางปะอิน
๒๘ สิงหาาคม พ.ศ. ๒๔๘๘
คำนับคุณครูที่นับถืออย่างสูง
ด้วยได้ทราบว่า คุณจำกัด สามีของคุณครู ได้ทำคุณงามความดีไห้แก่ประเทศไทยที่รัก ภรรยาและผมขอแสดงความยินดีอย่างสูง
และต่อมาได้ทราบข่าวว่า สามีของคุณครูได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว ภรรยาและผมขอแสดงความเสร้าสลดอย่างสุดซึ้งไปยังคุณครูด้วย
ด้วยความนับถืออย่างสูง
พระยาพหลพลพยุหเสนา
สัญญา ธรรมศักดิ์
ศาลฎีกา
วันที่ ๑๑ กันยายน ๒๔๘๘
เรียน คุณฉลบชลัยย์ พลางกูร ที่นับถือ
ผมได้ทราบข่าวมรณกรรมของคุณจำกัดด้วยความเศร้าเสียดายเปนอย่างยิ่ง ผมได้รู้จักคุ้นเคยกับเธอมาตั้งแต่อยู่อังกฤษ รู้สึกรักและนับถืออยู่เสมอ และได้มีความหวังอันยิ่งใหญ่ว่าคุณจำกัดย่อมจะต้องเปนนักปราชญ์ของไทยคนหนึ่งแน่นอน ฉะนั้นเมื่อเธอมาด่วนมรณะเสียในระหว่างชีวิตบั้นกลางเช่นนี้ จึ่งเปนที่น่าเศร้าเสียดาย
แต่อย่างไรก็ดี ขอคุณฉลบฯ พึงระลึกว่า คุณจำกัดได้ตายอย่างกล้าหาญ และได้บำเพ็ญประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ชาติ มิเสียทีที่เกิดมา อีกทั้งตามพระธรรมของพระพุทธองค์ก็ปรากฏชัดว่า 'สิ่งใดเกิดมา สิ่งนั้นย่อมดับเปนธรรมดาของสังขารทั้งหลาย' ดั่งนี้
เคารพและนับถือ
สัญญา ธรรมศักดิ์
ม.ล.บุญเหลือ กุญชร
เขียนที่บ้านหม้อ
วันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๘
ฉลบ น้องรัก
ตั้งแต่ทราบว่าฉลบกลับจากบางปะอินแล้ว พี่อยากมาหาฉลบเหลือเกิน แต่ไม่รู้แน่ว่าอยู่ที่ไหน ได้แต่เดาว่าคงอยู่กับคุณพูนศุข แต่พี่จะเข้าไปในทำเนียบนั้นก็ไม่เคย และไม่รู้ว่าจะเปนการควรไม่ควรแค่ไหน แต่พี่คิดถึงฉลบทุกวัน นึกเปนห่วงเหลือเกิน คิดว่าได้พบเพื่อนฝูงเสียบ้างจะดีเผื่อจะชื่นบานได้บ้าง แต่ใจหนึ่งก็ไม่ห่วงนัก เพราะคเนว่าฉลบคงใช้สติปัญญาหักใจได้แล้ว ชีวิตของคนเราวาดรูปมาผิดๆ กัน รูปของเราเปนอย่างนี้จะทำอย่างไรได้ เรายังดีกว่าคนอื่นที่ไม่มีแม้แต่ memory ของสิ่งที่ดีงามเลย พี่พูดได้แต่เพียงนี้เพราะในเวลานี้รู้สึกว่าไม่ใช่เวลาพูด แต่พี่คิดถึงฉลบทุกวันจริงๆ หวังว่าในทางร่างกายของฉลบคงสมบูรณ์สบายดีจะได้มีแรงไว้ทำคุณประโยชน์ต่อไป
พี่ตั้งแต่กลับมาบ้านไม่สบายเลย ไปไหนมาไหนได้บ้าง แต่ทำอะไรไม่ได้เลย ได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่ ร.ร.เตรียม หนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พบมาลี จะไปอีกก็ไม่ไหว เพราะการเดินทางโดยรถราง ฯลฯ ทำให้เหนื่อยมาก และต้องทำธุระเรื่องโรงเรียน ฯลฯ ให้หลานๆ ทำธุระอะไรเล็กน้อยแล้วก็มักเพลียไม่ค่อยชอบเขียน จ.ม. ถึงใครเพราะมือสั่น ลายมือยุ่งแล้วอ่านไม่ออก หวังว่าไม่ทำให้ฉลบเวียนหัวเกินไป พี่คิดถึงจริงๆ ทำไมจะได้พบกัน หวังว่าฉลบจะค่อยๆ สบายใจขึ้นทีละน้อยๆ ไม่ทราบว่าเพื่อนอื่นๆ ได้พบกันฉลบบ้างหรือเปล่า พี่เชื่อว่าเขาคงฝากใจมาถึงฉลบทุกคน
โดยความรักอย่างยิ่ง
จากพี่
บุญเหลือ กุญชร
กุหลาบ สายประดิษฐ์
บ้านสนามเป้า
๘ กันย์ ๘๘
คุณฉลบที่รัก
ผมทราบว่าคุณกำลังอยู่ในความโศกหนัก ในการที่ต้องเสียคุณจำกัดไป ผมร่วมความโศกกับคุณด้วยความเห็นใจอันซาบซึ้ง ผมอยากจะไปเยี่ยมและเปนประโยชน์ต่อคุณ ตามที่จะเปนให้ได้ ผมได้ข่าวเสียชีวิตของคุณจำกัดมานานแล้ว แต่ไม่อยากจะเชื่อ เพราะไม่อยากจะเสียคนที่เรารักไป แต่เมื่อได้อ่านคำสัมภาษณ์ของคุณถวิล อุดล แล้ว ก็ใจหาย เพราะรู้แน่ว่าแกจะไม่กลับคืนมา
ผมได้รู้จักและคบหาสมาคมกับคุณจำกัดในชั่วเวลาไม่สู้นานก็จริง แต่มีน้อยคนในชีวิตของผม ที่ผมรักใครน้ำใจเสมอแก อายุเยาว์ แต่มีความคิดและการดำเนินชีวิตอย่างผู้ใหญ่เต็มที่ พูดเล่นหัวก็ได้ พูดขันอย่างเด็กๆ หรือบางทีถึงเอาแก่ใจอย่างเด็กๆ ก็มี ข้อนี้ทำให้ดูน่ารักอย่างเปนเด็กหนุ่ม แต่ความซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ การดำเนินการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์อย่างสม่ำเสมอ และน้ำใจอาจหาญเด็ดเดี่ยวนั้น ทำให้คุณจำกัดดูเปนผู้ใหญ่มาก และน้อยคนในเมืองไทยจะมีเสมอเหมือน ผมเรียกคุณจำกัดเวลาคุยกับพวกเราบางคนถึงแก ผมมักเรียกเขาเปนมาสซินี[1] และผมเคยบอกว่าเขาจะเปนทายาทของท่านผู้ประศาสน์การในการสืบสร้างประชาธิปไตยในประเทศไทย
การเสียคุณจำกัดนั้น ไม่ใช่แต่ว่าเราได้เสียคนที่รักที่สุดไปคนหนึ่งเท่านั้น แต่ผมรู้สึกว่า ประเทศและระบอบประชาธิปไตยได้เสียบุตรและทายาทที่ดีที่สุดไปคนหนึ่ง ในข้อหลังนี้เองที่ข่าวตายของคุณจำกัดได้เปนความโศกและความอาลัยแก่ผมเปนอันมาก เพราะผมเองเปนคนหนึ่งที่มีความจริงจังต่อการที่จะได้เห็นประเทศของเรามีระบอบประชาธิปไตยอันมั่นคงต่อไป
คนภายนอกมีโอกาสรู้จักคุณจำกัดน้อยมาก และเพื่อที่จะให้ความเปนธรรมแก่คนดีของประเทศ และเพื่อเป็นแบบแก่คนไทยอื่นๆ และเพื่อกระตุ้นเตือนให้คนไทยฝักใฝ่การทำดี และมีน้ำใจเสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ผมจึงขอให้คุณนงเยาว์[2] เรียบเรียงประวัติของคุณจำกัดออกเผยแพร่แก่คนทั้งหลาย และผมเองจะร่วมมือช่วยเหลือด้วย
ผมกับนิด[3] ได้ข่าวถึงและอยากทราบข่าวคราวของคุณจำกัดอยู่เสมอ ด้วยมีใจเปนห่วงถึง แต่ที่ไม่ใคร่ติดต่อถามข่าวจากคุณก็ด้วยรู้อยู่ว่า คุณจำกัดออกไปทำการให้ประเทศเปนการลับ จะทำให้คุณลำบากใจในการตอบคำถาม จึงมิใคร่ได้ติดต่อถามข่าว เราทั้งสองต่างคอยคุณจำกัดด้วยความปรารถนาอยู่เสมอว่า แกจะกลับมาพร้อมด้วยความสำเร็จ แต่ครั้นได้ทราบข่าวแน่นอน ก็เป็นข่าวร้ายเหลือเกิน ประเทศได้รับความสำเร็จ แต่เราก็เสียคนที่รักไป
แต่ถึงเราจะเสียดายเท่าใด เราก็ได้แต่จะทนรับเอาความจริง ในข้อที่ว่าแกจะไม่กลับคืนมา ถ้าผู้ตายมีญาณวิถีที่จะทราบการณ์ในโลก วิญญาณของคุณจำกัดคงจะเปนสุข เมื่อทราบว่าผลจากงานที่ริเริ่มไว้ได้สำเร็จลงสมมุ่งหมาย และเมื่อทราบว่าเราจะพากันอาลัยนัก ก็คงจะดีใจว่า ชีวิตของแกมีค่าควรเปนที่ภูมิใจ
ขอให้คลายโศก แล้วผมกับนิดจะไปเยี่ยม บัดนี้ ขอส่งความรักและความเห็นใจยิ่งมาก่อน
กุหลาบ
ที่มา : จดหมายอาลัย จำกัด พลางกูร, ใน 73 ปี วันสันติภาพไทย ผู้ปิดทองใต้ฐานพระ, (กรุงเทพฯ: สยามปริทัศน์, 2561), หน้า 142-158.