ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
บทบาท-ผลงาน

1 ปี หลังกรณีสมุดปกเหลือง : ข้อมูลใหม่ 'เรื่องสภาเศรษฐกิจ' (ตอนที่ 4)

21
มีนาคม
2568

Focus

  • ภายหลังที่นายปรีดี พนมยงค์ เสนอเค้าโครงการเศรษฐกิจได้เกิดกรณีขัดแย้งขึ้นจึงมีการผ่อนปรนนโยบายตามที่รัชกาลที่ 7 ทรงวิจารณ์ กระทั่งหลังการยึดอำนาจของรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนาได้มีการเสนอเรื่องสภาเศรษฐกิจเพื่อประนีประนอมเรื่องนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลและแนวคิดเศรษฐกิจของนายปรีดีโดยบทความนี้ แสดงให้เห็นถึงหลักฐานประวัติศาสตร์ที่นายปรีดีเสนอการแก้ไขเค้าโครงการเศรษฐกิจ และการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจของรัฐบาลสมัยพระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรี

 

“...โครงการณ์เศรษฐกิจที่นายมังกร สามเสน นำมาเสนอจึ่งขอตรวจดูก่อนอีกอย่างหนึ่งการที่จะตั้งสภาเศรษฐกิจแห่งชาตินี้ เป็นความประสงค์ที่ทางคณะกรรมการราษฎรคิดอยู่แล้ว แต่การที่จะตั้งขึ้นทันทีโดยวางทางการยังไม่สำเร็จก็จะดำเนิรไปไม่สะดวก เพราะฉะนั้นเมื่อถึงโอกาสสมควรที่ทางฝ่ายคณะกรรมการราษฎร และผู้ที่เริ่มก่อการในชั้นต้นมอบหมายให้เรื่องนี้ได้จัดการไปแล้ว ก็จะได้จัดตั้งสภาเศรษฐกิจขึ้นภายหลัง

อีกข้อหนึ่งที่สมาชิกบางท่านได้เรียนถามประธานคณะกรรมการราษฎรถึงเรื่องที่ว่ามิได้คิดจะบำรุงการเศรษฐกิจนั้น ถ้าระลึกดูในชั้นต้นแล้วเราได้แบ่งระยะเวลาของเราเป็น 3 ระยะคือ สมมติว่า เราได้อำนาจแล้วเราจะพยายามวางหลักของเราก่อน…เราเพิ่งดำเนิรการมาได้เพียง 2 เดือนแต่เราก็ได้ทำกิจการไปแล้วหลายอย่างที่มองไม่เห็นก็มี ที่มองเห็นก็มีหากแต่สิ่งที่มองเห็นนั้นเกี่ยวกับกฎหมายจึ่งได้ทำไปก่อนส่วนที่มองไม่เห็นและคิดทำอยู่เราก็ได้ปรึกษาสำหรับผู้ที่เริ่มก่อการและเป็นผู้ที่ได้เล่าเรียนการเศรษฐกิจด้วย…”

ปรีดี พนมยงค์,
รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พุทธศักราช 2475

 


หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) กล่าวถึงการตั้งสภาเศรษฐกิจแห่งชาติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พุทธศักราช 2475 ก่อนการเสนอเค้าโครงการเศรษฐกิจราว 6 เดือน

 


เค้าโครงการเศรษฐกิจ หรือสมุดปกเหลือง และพระบรมราชวินิจฉัย หรือสมุดปกขาว
จัดพิมพ์ในทศวรรษ 2490

 

จดหมายของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม(ปรีดี พนมยงค์) ถึงพระยาทรงสุรเดช เรื่องการยอมผ่อนปรน 3 ประการในเค้าโครงการเศรษฐกิจ

 


จดหมายของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม ถึงพระยาทรงสุรเดช

 

(สำเนา) บ้านป้อมเพ็ชร์ ถนนสีลม พระนคร

วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๕

เรียน เจ้าคุณทรงสุรเดช ที่นับถือ

หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ได้มาแจ้งว่าใต้เท้ามีข้อตำหนิในโครงการเศรษฐกิจของผมอยู่ ๓ ประการ คือ

๑. ไม่ประสงค์ให้มีการบังคับชื้อที่ดิน คือประสงค์ให้ซื้อโดยสมัครหรือโดยขึ้นภาษีทางอ้อม

๒. ไม่ประสงค์บังคับให้คนมาเปนลูกจ้างของสหกรณ์ทั้งหมด คือประสงค์ให้เป็นโดยสมัคร

๓. ประสงค์ให้ทำเป็นส่วน ๆ ตามกำลังของเราที่มีซึ่งจะทำได้

ข้อความเหล่านี้เป็นข้อความที่ผมได้ยอมผ่อนและได้ชี้แจงไว้แล้ว ฉะนั้นเมื่อประสงค์จะใช้โครงการเศรษฐกิจที่ผมได้เสนอไว้ และแก้ข้อความ ๓ ประการนี้ผมก็ยอมรับและขอให้ได้ประกาศตามที่แก้ได้อยู่ในเค้านี้ เมื่อแก้แล้วเราจะได้ให้หลักการแก่สภาเศรษฐกิจแห่งชาติถูก เพื่อสภาจะได้จัดยกร่างโครงการพิสดารขึ้น และตั้งหน้าทำงานไปในหลักอันเดียวกัน มิฉะนั้นจะต้องโต้เถียงหลักการกันเรื่อยไปทำให้การงานเดินไปไม่เรียบร้อย

ขอใต้เท้าได้โปรดตอบให้ทราบด้วย

โดยนับถือ

หลวงประดิษฐมนูธรรม

เมื่อหลวงประดิษฐยอมผ่อนดังนี้ก็เรียกว่าหลวงประดิษฐเป็นคอมมิวนิสต์ไม่ได้ ชั้นแรกเมื่อเห็นแต่เค้าโครงการก็นึกสงสัยอยู่บ้าง แต่พอเห็น

 

ร่างหนังสือการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจสมัยรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา

 


ร่างหนังสือการจัดตั้งสภาเศรษฐกิจ

 

ประธานกรรมการสภาเศรษฐกิจ

หนังสือที่…ลงวันที่ ๑๗ เดือนนี้ ขอให้รัฐบาลวินิจฉัยว่าสภาเศรษฐกิจมีหน้าที่ราชการเพียงใด ฉะเพาะอย่างยิ่งว่าสภานั้นมีหน้าที่แต่เพียงศึกษาและรายงานในปัญหาซึ่งรัฐบาลส่งให้พิจารณาเท่านั้นหรืออย่างใดนั้น

ข้อ ๑ ขอเรียนตอบว่าสภาเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล และขึ้นตรงต่อคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่ปรึกษาแลเสนอความเห็นต่อรัฐบาลในเรื่องเศรษฐกิจได้ไม่ว่าในปัญหาใด ๆ ทั้งที่ไปจากรัฐบาลและที่สมาชิกสภาเสนอต่อประธานกรรมการขอให้นำเข้าสู่ระเบียบวาระ

ข้อ ๒ ในโอกาสเดียวกันนี้ ขอเรียนมาว่าในชั้นนี้ให้รีบพิจารณาและเสนอความเห็นก่อน ว่านโยบายของรัฐบาลเท่านั้น รัฐบาลนี้ควรรับเพียงใด ควรแก้ไขเพิ่มเติมอย่างไร หรือว่าไม่ควรรับเลยทั้งหมด ควรวางนโยบายขึ้นใหม่เสียทีเดียว

ข้อ ๓ เพื่อประกอบความดำริของสภาในข้อ ๒ จุดความมุ่งหมายของรัฐบาลที่นั้นเป็นดั่่งนี้

(๑) รักษาประโยชน์ของชนทุกชั้นทุกเหล่า และสมานประโยชน์นั้นให้กลมกลืนกัน โดยให้ชนทุกชั้นทุกเหล่าช่วยกันบำรุงเศรษฐกิจของชาติ

(๒) ให้ที่ดินประเทศที่ยังว่างเปล่าอยู่มากเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจขึ้น

(๓) ให้ราษฎรมีช่องทางประกอบการเลี้ยงชีพโดยชอบทั่วหน้ากัน

(๔) ให้คนไทยเลื่อมใสในการกสิกรรม อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม โดยวิธีที่รัฐบาลให้ความสะดวก ความช่วยเหลือ การฝึกฝน การร่วมมือ และการควบคุม เท่าที่จำเป็นให้ผู้ประกอบการนั้น ๆ ได้รับผลเต็มที่ ๆ ตนควรได้ และมีลู่ทางผ่อนความหนักในหนี้สินที่มีอยู่ให้เบาบางลง

(๕) ให้สินค้าขาออกของประเทศมีมากอย่าง และมีปริมาณยิ่งขึ้น

(๖) ให้ฐานะการเป็นอยู่ของคนไทยเขยิบดีขึ้นเป็นชั้น ๆ เป็นลำดับไป

ข้อ ๔ ให้สภาเศรษฐกิจแนะนำรัฐบาลว่ากิจใดบ้างที่รัฐบาลควรทำทันที ที่จะแก้ความฝืดเคืองในบ้านเมืองของเราในเวลานี้ให้เบาบางลงได้.

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

นายกรัฐมนตรี .

 

บันทึกเรื่องหลวงประดิษฐมนูธรรม[1]

 

 

 


เอกสารเรื่องหลวงประดิษฐมนูธรรม

 

บันทึกเรื่องหลวงประดิษฐมนูธรรม

ด้วยหลวงประดิษฐมนูธรรม โทรเลขมาว่า ภรรยาป่วย เพราะไม่สามารถทนอากาศหนาวต่อไปได้ จะขอเดินทางมาส่งภรรยาที่สิงคโปร์รัฐบาลจะขัดข้องหรือไม่

คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ว่าถ้าหลวงประดิษฐมนูธรรมยอมรับรองว่าจะเดินตามนโยบายของรัฐบาลนี้ ซึ่งสภาเศรษฐกิจจะวางมาแล้ว ก็ควรยอมให้กลับเข้ามาในประเทศสยามได้ทีเดียว ถ้าไม่รับรองว่าจะเดินนโยบายร่วมกับรัฐบาลนี้ รัฐบาลก็จะไม่ดำริในเรื่องของหลวงประดิษฐ์ ถ้ายอมรับรองก็ให้ตอบรับมา และเมื่อตอบรับมาแล้ว จึงค่อยนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระมหากรุณาให้เรียกกับทางคณะรัฐมนตรี

ต่อมาเสื้อผ้าเศรษฐกิจขอให้วินิจฉัยว่าสภาเศรษฐกิจมีหน้าที่ราชการเพียงใด ฉะเพาะอย่างยิ่งว่าสภานั้นมีหน้าที่แต่เพียงศึกษาและรายงานในปัญหาซึ่งรัฐบาลสั่งให้พิจารณาเท่านั้นหรืออย่างใด

คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติเมื่อวันที่ ๑๘ เดือนนี้ ว่า

ข้อ ๑ สภาเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล และขึ้นตรงต่อคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่ปรึกษาและเสนอความเห็นต่อรัฐบาลในเรื่องเศรษฐกิจได้ไม่ว่าปัญหาใด ๆ ทั้งที่ไปจากรัฐบาลและที่สมาชิกของสภาเสนอต่อประธานกรรมการและประธานกรรมการให้นำเข้าสู่ระเบียบวาระ

ข้อ ๒ ในขั้นนี้ให้รีบพิจารณาและเสนอความเห็นก่อนว่านโยบายของรัฐบาลเก่านั้น รัฐบาลนี้ควรรับเพียงใด ควรแก้ไขเพิ่มเติมอย่างไรหรือว่าไม่ควรรับเลยทั้งหมด หรือว่าควรวางนโยบายขึ้นใหม่เสียทีเดียว

ข้อ ๓ เพื่อประกอบความดำริของสภาในข้อ ๒ จุดความมุ่งหมายของรัฐบาลนี้นั้นเป็นดั่งนี้

(๑) รักษาประโยชน์ของประชาชนทุกชั้นทุกเหล่า และสมานประโยชน์นั้นให้กลมกลืนกัน โดยให้ชนทุกชั้นทุกเหล่าช่วยกันบำรุงเศรษฐกิจของชาติ

(๒) ให้ที่ดินของประเทศที่ยังว่างเปล่าอยู่มากเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจขึ้น

(๓) ให้ราษฎรมีช่องทางประกอบการเลี้ยงชีพโดยทั่วหน้ากัน

(๔) ให้คนไทยเลื่อมใสในการกสิกรรม อุตสาหกรรม และพาณิชย์กรรม โดยวิธีที่รัฐบาลให้ความสะดวก ความช่วยเหลือ การฝึกฝน การควบคุม และการร่วมมือ ให้ผู้ประกอบการนั้น ๆ ได้รับผลเต็มที่ ๆ ตนควรได้ และมีลู่ทางผ่อนความหนักในหนี้สินที่มีอยู่ให้เบาบางลง

(๕) ให้สินค้าขาออกของประเทศมีมากขึ้นและปริมาณยิ่งขึ้น

(๖) ให้ฐานะการเป็นอยู่ของคนไทยเขยิบดีขึ้นเป็นชั้น ๆ เป็นลำดับไป

ข้อ ๔ ให้สภาเศรษฐกิจแนะนำรัฐบาลว่ากิจการใดบ้างที่รัฐบาลควรทำทันทีเพื่อจะแก้ความฝืดเคืองในบ้านเมืองของเราในเวลานี้ให้เบาบางลงได้

(และมีคำแปลเป็นภาษาอังกฤษดั่งสำเนาหมายอักษร ก.)

เมื่อคณะรัฐมนตรีได้วางหลักนโยบายของสภาเศรษฐกิจดั่งกล่าวแล้ว จึ่งได้ส่งโทรเลขไปยังหลวงประดิษฐมนูธรรม (ดั่งสำเนาอักษร ข.)

หลวงประดิษฐมนูธรรม ได้มีโทรเลขตอบรับมาว่า จะร่วมนโยบายกับรัฐบาลนี้ดั่งที่แจ้งไป (ดั่งสำเนาหมายอักษร ค.)

อนึ่ง หลักนโยบายของสภาเศรษฐกิจนี้ได้นำไปหารือนายแบกซ์เตอร์ที่ปรึกษาคลัง ๆ เห็นชอบด้วยแล้ว แต่ทักคำถามว่า การควบคุม ( control )  ในข้อ ๓ (๔) ว่ายังไม่เหมาะ เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลจะเข้าไปควบคุมเสียทั้งหมด ควรเปลี่ยนเสีย

คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติให้แก้การควบคุม และการร่วมมือ เป็นการร่วมมือและการควบคุมเท่าที่จำเป็น และแก้คำแปลดั่งนี้

education, cooperation and control with a view to securing them the full benefits of their interprises เป็น education and cooperation and any necessary control so that their enterprises may be brought to full fruition (และนายแบกซ์เตอร์เห็นด้วยแล้ว) และให้กราบบังคมทูลพระกรุณาเรียนพระราชปฏิบัติ คือ (๑) ในเรื่องเรียกหลวงประดิษฐมนูธรรมกลับประเทศสยามโดยเหตุผลดั่งกล่าวแล้ว (๒) ขอให้พระราชทานพระบรมราชานุญาตตั้งหลวงประดิษฐมนูธรรมเป็นรัฐมนตรีต่อไปด้วย.

(ท้ายเอกสารปรากฏข้อความลายมือเป็นภาษาอังกฤษ จำนวน 4 บรรทัด-กองบรรณาธิการ)

 

เอกสารของกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีถึงราชเลขานุการในพระองค์ของรัชกาลที่ ๗

 


เอกสารของกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

 

ที่ ๔๙๑๖/๗๖ กรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

วันที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๖

เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทูล ราชเลขานุการในพระองค์

พร้อมกับหนังสือฉบับนี้ ได้ถวายสำเนาจดหมายของหลวงประดิษฐมนูธรรม ซึ่งมีไปถึงนายพันเอก พระยาทรงสุรเดช อันมีข้อความดังพระราชประสงค์ที่ทรงต้องการให้หลวงประดิษฐมนูธรรมรับรอง ดั่งที่ได้กราบบังคมทูลไว้เมื่อวันมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท.

ขอได้นำความกราบบังคมทูลเรียนพระราชปฏิบัติว่าเมื่อมีหลักฐานเช่นนี้ จากพระราชทานพระราชโทรเลขไปยังหลวงประดิษฐมนูธรรมอีกหรือไม่.

แล้วแต่จะโปรด

ธำรง (หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์-กองบรรณาธิการ)

เลขาธิการคณะรัฐมนตรี.

 

เอกสารของกรมราชเลขานุการในพระองค์ รัชกาลที่ ๗

 


เอกสารของกรมราชเลขานุการในพระองค์

 

ที่ ก.๑๔๔/๒๔๗๖ กรมราชเลขานุการในพระองค์

หัวหิน

วันที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๖.

คำนับ หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตามหนังสือที่ ก. ๒๙๐๖/๒๔๗๖ ลงวันที่ ๒๓ เดือนนี้ ทูลเกล้าฯ ถวายสำเนาจดหมายของหลวงประดิษฐมนูธรรม ฉบับลงวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ซึ่งมีข้อความที่ยอมผ่อนและยอมรับแก้โครงการเศรษฐกิจ กับเรียนพระราชปฏิบัติว่าเมื่อมีหลักถานเช่นนี้ จะพระราชทานพระราชโทรเลขไปยังหลวงประดิษฐมนูธรรมอีกหรือไม่นั้น ข้าพเจ้าได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว มีพระราชกระแสดังสำเนาที่ข้าพเจ้าได้ส่งมาพร้อมกับหนังสือนี้.

วิบูลย์สวัสดิวงศ์

ราชเลขานุการในพระองค์.

 

เอกสารของนายกรัฐมนตรีถึงราชเลขานุการในพระองค์

 


เอกสารของนายกรัฐมนตรี

 

ที่ทำการคณะรัฐมนตรี

วังปารุสกวัน

ที่ ก.๒๙๘/๒๔๗๖

วันที่ ๒๖ สิงหาคม พุทศักราช ๒๔๗๖

นายกรัฐมนตรี ทูล ราชเลขานุการในพระองค์

หนังสือที่ ก. ๑๔๔/๒๔๗๖ ลงวันที่ ๒๕ เดือนนี้ เชิญพระราชกระแสในเรื่องหลวงประดิษฐมนูธรรมมานั้น เกล้าฯ ได้รับหนังสือภายหลังที่ได้ดำเนินการในเรื่องหลวงประดิษฐฯ ต่อไปแล้ว คือ เกล้าฯ ได้นำบันทึกพระราชกระแสในเรื่องหลวงประดิษฐ ฯ ของหม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ เมื่อไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ ๒๓ เดือนนี้ เสนอคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติให้โทรเลขไปยังหลวงประดิษฐ์ฯ ตามนัยแห่งพระราชกระแสที่พระราชทานมา ดั่งสำเนาโทรเลขที่แนบมาพร้อมกับหนังสือนี้.

จึงทูลมา ถ้ามีโอกาสอันควรขอได้ทรงนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท การจะควรประการใดแล้วแต่จะทรงกับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ.

แล้วแต่จะโปรด

(ลงนาม) พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา

นายกรัฐมนตรี.

 

คำแถลงการณ์ เรื่องหลวงประดิษฐ์มนูธรรม

 


เอกสารของกองโฆษณาการ

 

คำแถลงการณ์ เรื่องหลวงประดิษฐ์มนูธรรม

โดยที่หลวงประดิษฐ์มนูธรรมรับรองว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลอันจะดำเนินการตามหลักนโยบาย ซึ่งรัฐบาลได้วางไว้แล้ว ในการโภคกิจ กล่าวคือ

“๑. รักษาประโยชน์ของชนทุกชั้นทุกเหล่า และสมานประโยชน์นั้นให้กลมกลืนกัน โดยให้ชนทุกชั้นทุกเหล่าช่วยกันบำรุงเศรษฐกิจของชาติ

๒. ให้ที่ดินประเทศที่ยังว่างเปล่าอยู่มากเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจขึ้น

๓. ให้ราษฎรมีช่องทางประกอบการเลี้ยงชีพโดยชอบทั่วหน้ากัน

๔. ให้คนไทยเลื่อมใสในการกสิกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม โดยวิธีที่รัฐบาลให้ความสะดวก ความช่วยเหลือ การฝึกฝน การร่วมมือ และการควบคุม เท่าที่จำเป็น เพื่อให้ผู้ประกอบการนั้น ๆ  ได้รับผลเต็มที่ ๆ ตนควรได้ และมีลู่ทางผ่อนความหนักในหนี้สินที่มีอยู่ให้เบาบางลง

๕. ให้สินค้าขา-ออกของประเทศมีมากอย่าง และมีปริมาณยิ่งขึ้น

๖. ให้ฐานะการเป็นอยู่ของคนไทยเขยิบดีขึ้นเป็นชั้น ๆ เป็นลำดับไป

อหนึ่งในการที่จะดำเนินการไปสู่จุดความมุ่งหมายข้างต้นนั้น รัฐบาลจะไม่ใช้วิธีใหม่ใด ๆ ที่จะบังคับซื้อที่ดินและบังคับจ้างแรงงาน” ดังนี้

จึงจะได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หลวงประดิษฐ์มนูธรรมกลับมารับราชการเป็นรัฐมนตรีสืบไป

หลวงประดิษฐมนูธรรมได้เดินทางโดยเรือ“Hakone Maru” ออกจาก มาเซลย์ ในวันที่ ๑ เดือนนี้

กองการโฆษณา

วันที่  กันยายน พุทธศักราช ๒๔๗๑

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

หมายเหตุ:

  • อักขรและวิธีสะกดคงไว้ตามต้นฉบับ
  • ภาพประกอบจากหลักฐานชั้นต้นเรื่อง หลวงประดิษฐ์มนูธรรม

หลักฐานชั้นต้น:

  • สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. (2) สร0201.73/1. เรื่อง หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (5 ส.ค. 2476-13 ก.ค. 2496)

 


[1] สะกดชื่อ หลวงประดิษฐมนูธรรม แบบไม่มีการันต์ตรง ฐ์ ตามหลักฐานชั้นต้น