เดือนเมษายน ทางโรงเรียนคัดเลือกนักกีฬาจากทีมกีฬาต่างๆ เป็นตัวแทนนักกีฬาไปร่วมสวนสนามวันเมย์เดย์ ตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันผู้ใช้แรงงานสากล ปลายพยายามยืดตัวให้สูงขึ้นเผื่อจะเข้ามาตรฐานความสูงของนักกีฬาที่กำหนดไว้
“เหลียนเหลียน ผิงผิง ปู้หวา...” เสียงเรียกชื่อตัวแทนนักกีฬา
ทุกวันหลังเลิกเรียน ปลายฝึกเดินสวนสนาม เสียงนกหวีดดัง “ปริ๊ด ปรี้ ปริ๊ด” แขนขวาพับงอเป็นมุมฉากสูงระดับอก แขนซ้ายเหวี่ยงไปข้างหลังพร้อมๆ กับขาซ้ายยกสูงไปข้างหน้า แล้วจึงวางราบบนพื้น สลับไปสลับมา
“ซ้าย ขวา ซ้าย” ครูจ๊างเป็นผู้ฝึกให้จังหวะ ครูจ๊างจงใจหยุดอยู่กับคำว่า “ซ้าย” นักกีฬาเหมือนหุ่นยนต์ที่ได้รับคำสั่งจากเครื่องรีโมทคอนโทรล ชะงักนิ่งอยู่กับที่ในท่าก้าวขาซ้าย ครูจ๊างค่อยๆ เดินตรวจดูทีละแถว ถ้ามีไม้บรรทัดวัดมุมฉากครูจ๊างคงจะใช้วัดมุมฉากขาซ้ายของทุกคนให้เท่ากัน
ก่อนหน้าวันเมย์เดย์ 2 วัน ในคืนวันที่ 29 เมษายน มีการฝึกซ้อมใหญ่ ณ บริเวณถนนฉางอ๊าน หน้าจัตุรัสเทียนอันเหมิน ทุกๆ หน่วยงานและสถาบันฝึกซ้อมกันมาอย่างดี กองทัพนักกีฬาเดินพร้อมเพรียงกัน
เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม ท้องฟ้ายังมืดสลัวอยู่ ปลายลุกจากเตียง พับผ้าห่มนวมวางไว้ปลายเตียง ดึงผ้าปูที่นอนจนเรียบตึง จากนั้นคว้ากะละมังเคลือบลายดอกโบตั๋นสีแดง ใส่สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ไม่ลืมที่จะหยิบผ้าขนหนูพาดบ่า ตรงไปยังห้องน้ำรวม
กลับเข้ามาสวมชุดนักกีฬาผ้ายืดสีแดงเลือดหมู แขนเสื้อและขากางเกงสั้นกุด คอกลมคว้านลึก แบบเดียวกับชุดนักกีฬายิมนาสติก พิเศษหน่อยเดียวตรงเอวคาดด้วยเกลียวเชือกสีเดียวกับเสื้อ
อากาศข้างนอกหนาวเย็น ปลายคว้าเสื้อโค้ตนวมมาสวมทับ
รถโรงเรียนพาเหล่านักกีฬามาตั้งแถวรอที่ถนนเป่ยฉือจือ ตามกำหนดการขบวนนักกีฬาเริ่มออกเดินขบวนในเวลา 11 นาฬิกา แต่นี่ยังไม่ทัน 7 โมงเช้า หน่วยพลาธิการเอาขนมปังกับผลไม้มาแจก ปลายรีบกินให้อิ่มท้อง เวลายังเหลือเฟือ กำลังเซ็งอยู่ไม่รู้จะทำอะไรดี ผิงผิงทำท่าคลำหาของในกระเป๋าเสื้อโค้ต
“ดูนี่สิ” ผิงผิงชู เจี้ยนจือ ให้ดู
เงินอีแปะ 3-4 อัน ร้อยเข้าด้วยกัน ตรงปลายมีแผ่นยางรองอยู่ ตรงหัวผูกด้วยขนไก่ 3 ก้าน ให้เกิดความสมดุล เจี้ยนจือเป็นของเล่นที่ไม่ต้องไปซื้อหา ใครๆ ก็ทำเป็น
ผิงผิงโยนเจี้ยนจือขึ้นไป เมื่อมันตกลงมาก็ใช้สันเท้าขวารองรับเจี้ยนจือกระเด้งขึ้นลงตามจังหวะ
ใครสามารถเดาะเจี้ยนจือได้มากครั้ง คนนั้นก็ชนะ
ผิงผิงเดาะเจี้ยนจือเก่งกว่าใคร เดี๋ยวใช้สันเท้าขวารองรับ เดี๋ยวกระโดดขึ้นไปใช้สันเท้าซ้ายรองรับ
“หนึ่งร้อย” ปลายช่วยนับจำนวนครั้งที่เจี้ยนจือกระเด้งขึ้นลง
ผิงผิงเองชักจะเหนื่อยแล้ว เลยชวนให้เดาะเจี้ยนจือแบบล้อมวง เด็กผู้หญิงล้อมวงกันเดาะเจี้ยนจือ คนละทีสองที เป็นที่สนุกสนาน จนได้เวลาตั้งแถว
ปลายถอดเสื้อโค้ตฝากไว้กับหน่วยพลาธิการ แสงแดดแหวกม่านเมฆออกมา แม้แขนขาเปลือยเปล่าก็ไม่ถึงกับหนาว เพียงแต่รู้สึกเย็นนิดๆ เมื่อลมโชยมากระทบผิวหนัง
ปลายเป็นคนที่ 3 จากขวาของแถวแรก แต่ละแถวเรียงหน้ากระดาน 50 คน จากแถวแรกถึงแถวสุดท้ายนับได้ 60 แถว
“อกผาย ไหล่ผึ่ง น่องตรง เข่าชิด” เสียงครูจ๊างกำชับอีกครั้งก่อนออกเดินนับตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐราษฎรจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2492 เป็นต้นมา วันผู้ใช้แรงงานสากลซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม และวันชาติจีนในวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนและผู้นำรัฐบาลจีนจะปรากฏตัวบนประตูเทียนอันเหมิน การปรากฏตัวนี้ทำให้รู้ว่า ใครคือผู้มีอำนาจในแผ่นดิน ประชาชนเรือนแสนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบในบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน วันชาติจีนปีกลาย ปลายก็อยู่ในฝูงชนนี้ คอยชูช่อดอกไม้กระดาษสีสดโบกไหวไปมา สลับกับการเปล่งคำขวัญสรรเสริญผู้นำ และพรรคคอมมิวนิสต์จีน
วันนี้เฉกเช่นเคย ชายหนุ่มหญิงสาวเชิญธงชาติจีนสีแดง มุมซ้ายด้านบนมีดาว 5 ดวง ด้วยท่วงท่าสง่างาม นำริ้วขบวนเข้าสู่บริเวณสวนสนาม ตามด้วยขบวนของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน อาวุธยุทโธปกรณ์ครบครัน เสียงเครื่องบินขับไล่ดังกระหึ่มเหนือน่านฟ้า จากนั้นเป็นขบวนของผู้ใช้แรงงาน ชาวไร่ ชาวนา ประชาชน นักกีฬา นักแสดง
...
เมื่อกองทัพนักกีฬาเดินผ่านอัฒจันทร์ด้านตะวันออกหน้าสวนวัฒนธรรมประชาชนผู้ใช้แรงงาน ปลายใช้หางตาชำเลืองมองหาพ่อกับแม่ ปลายทราบว่าวันชาติจีนและวันเมย์เดย์ทุกปี พ่อกับแม่ได้รับเชิญมาชมการสวนสนามด้วย
นักกีฬาเดินด้วยฝีเท้าฉับไว ฉับๆ ไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงหน้าประตูเทียนอันเหมิน ประธานเหมาเจ๋อตุ๊งกับผู้นำ ของจีนยืนตรวจพลอยู่บนเชิงเทิน
“เหมาจู่สีว่านสุ้ย” เสียงเปล่งคำขวัญให้ “ประธานเหมาจงเจริญ” ดังกึกก้องทั่วจตุรัส
ไกลลิบๆ เกินกว่าที่ปลายจะเห็นหน้าตาท่าทางของประธานเหมาเจ๋อตุ๊งหลังจากขบวนแถวเลิกแล้ว ผิงผิงบอกกับปลายด้วยความลิงโลดว่า “ประธานเหมาโบกมือทักฉันด้วยละ”
“ตั้งไกลโข ประธานเหมามองเห็นเธอได้ยังไงกัน” ปลายขัดคอผิงผิง
คืนวันนั้นปลายกลับมาที่จัตุรัสเทียนอันเหมินอีกครั้งกับเพื่อนๆ ลานกว้างใหญ่พลันเล็กลงถนัดตา ผู้คนเบียดเสียดกันจับมือร้องรำทำเพลง ฝูงชนโห่ร้องด้วยความลิงโลดเมื่อม่านฟ้าสว่างไสวด้วยดอกไม้ไฟเบญจมาศดอกใหญ่แตกกระจายเป็นดอกเล็กๆ หลากสีระยิบระยับกลางอากาศ ประตูเทียนอันเหมินสูงลิ่วพลอยสว่างไสวไปด้วย วันเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ประตูสู่สรวงสวรรค์ของพระจักรพรรดิได้แลเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมจีน จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบสาธารณรัฐ จากระบอบสาธารณรัฐสู่ระบอบสังคมนิยมและจะเป็นประจักษ์พยานทุกๆ ลมหายใจของประชาชนจนตราบนานเท่านาน
ที่มา : ว.ณ. พนมยงค์, “สวนสนามวันเมย์เดย์,” ใน “วันวานในโลกกว้าง,” ใน อนุสรณ์ วาณี พนมยงค์ สายประดิษฐ์. (กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2562), น. 278-281.
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- ตอนที่ 1 - ปลายแถว
- ตอนที่ 2 - เด็กหญิงกล้วยน้ำว้า
- ตอนที่ 3 - ไปโรงเรียน
- ตอนที่ 4 - จุดหักเห
- ตอนที่ 5 - นกน้อยในกรงเหล็ก
- ตอนที่ 6 - สู่โลกกว้าง
- ตอนที่ 7 - ฉันเป็นชาวสยาม
- ตอนที่ 8 - การเดินทาง 15,000 กิโลเมตร
- ตอนที่ 9 - บ้านหลังใหม่
- ตอนที่ 10 - ปู้หวา
- ตอนที่ 11 - พระราชวังต้องห้าม
- ตอนที่ 12 - ตามล่าหาสายลับ
- ตอนที่ 13 - น้ำพริกแอปเปิ้ล
- ตอนที่ 14 - กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ
- ตอนที่ 15 - ยามดอกเหมยบาน
- วาณีเล่าเรื่อง
- วาณี พนมยงค์
- วันวานในโลกกว้าง
- วาณี พนมยงค์ สายประดิษฐ์
- สวนสนามวันเมย์เดย์
- วันผู้ใช้แรงงานสากล
- สวนสนาม
- วันเมย์เดย์
- จัตุรัสเทียนอันเหมิน
- วันชาติจีน
- พรรคคอมมิวนิสต์จีน
- ผู้นำรัฐบาลจีน
- ประตูเทียนอันเหมิน
- กองทัพปลดแอกประชาชนจีน
- เหมาเจ๋อตุ๊ง
- ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
- ระบอบสาธารณรัฐ
- ระบอบสังคมนิยม