ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“สมุดปกเหลืองคนตกอกตกใจกันมาก เพราะมันเป็นของแปลกใหม่ของสังคมขณะนั้น ถ้าเป็นทุกวันนี้ก็คงไม่มีอะไร”

ในปี 2527 กองบรรณาธิการมติมหาราษฎร์ได้สัมภาษณ์ ม.ร.ว.เสนีย์ ในหลายประเด็น ทั้งการชิงสุกก่อนห่ามของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ความเห็นต่อเค้าโครงการเศรษฐกิจ การเกิดกบฏบวรเดช การทำงานขบวนการเสรีไทย เกร็ดเรื่องการได้รับเชิญจากนายปรีดีให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีสวรรคต รวมถึงความขัดแย้งกับนักการเมืองคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างนายควง อภัยวงศ์ และ ม.ร.ว.เสนีย์ เอง

"นักเรียนควรจะได้เรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์วรรณคดีไทยไว้ด้วย"

ว่าด้วย เค้าโครงการเศรษฐกิจ ตอนที่ 4: มองเค้าโครงเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและอนาคต

บทความล่าสุดของ 'เขมภัทร ทฤษฎิคุณ' ชิ้นนี้ เสนอแนวทางของการสืบสาน รักษา และต่อยอดอุดมการณ์ซึ่งปรีดีได้เคยคิดเอาไว้ในเค้าโครงการเศรษฐกิจ อันเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ยังคงมีประโยชน์ มีความสำคัญ และควรระลึกถึงไว้ในโลกอนาคตที่ความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ

ปรีดี พนมยงค์ กับแนวคิดในการสร้างความชอบธรรมในสังคมไทย

“สังคมก็จะดํารงอยู่ได้ก็ด้วยมวลราษฎร ดังนั้นเอง ระบบสังคมที่จะทําให้มวลราษฎรมีพลังผลักดันให้สังคมก้าวหน้า ก็คือ ระบบประชาธิปไตย… คือ หมายถึงระบบที่ประชาชนหรือมวลราษฎรมีอธิปไตย...” -- ปรีดี พนมยงค์

ระลึกถึงบุคคล - ระลึกถึงความดี

เมื่อ วาณี พนมยงค์ สายประดิษฐ์ จากไป สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต) ได้เขียนข้อความรำลึก และให้ข้อธรรมเป็นข้อคิดว่า "ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ทุกคนควรทำกิจหน้าที่ และไม่พึงประมาท"

รำลึกถึง วาณี พนมยงค์ สายประดิษฐ์

ประวัติ

วาณีเป็นน้องคนสุดท้องของครอบครัว เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2484 ที่บ้านป้อมเพชรนิคม หลังจากเกิดได้ไม่กี่เดือน สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็แผ่มาถึงประเทศไทย สภาผู้แทนราษฎรได้ปรึกษาหารือกันแล้วลงมติตั้งคุณพ่อเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ครอบครัวจึงย้ายไปพำนักที่ทำเนียบท่าช้างซึ่งทางราชการจัดให้

ในขั้นต้น วาณีเรียนที่โรงเรียนดรุโณทยานของคุณครูฉลบชลัยย์ พลางกูร และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์

วาณี พนมยงค์ เล่าเรื่องพ่อปรีดี

ที่ผ่านมา อจ.ปรีดีท่านได้พยายามทำเพื่อชาติบ้านเมืองตลอดเวลา แต่ก็ยังถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย ไม่ทราบว่าพี่เคยเห็น อจ.ท้อใจหรือเคยบ่นให้ลูก ๆ ฟังบ้างหรือไม่

อันนี้รู้สึกจะเป็นคุณธรรมข้อหนึ่งที่ท่านมีอยู่ คือท่านไม่เคยแสดงความท้อใจและไม่เคยบ่นเลย จนกระทั่งหลายต่อหลายคนเคยพูดเหมือนกันว่า ถ้าเขาโดนสภาพเช่นเดียวกับท่านอาจารย์ก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่คณพ่อพี่ถึงแม้จะถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายยังไง ท่านก็ยังมีเจตนาบริสุทธิ์ที่จะทำอะไรเพื่อความเจริญของบ้านเมือง จนกระทั่งไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสแล้ว ท่านก็ยังพยายามเขียนข้อเสนอความคิดเห็นต่าง ๆ ในบั้นปลายชีวิต แม้เรื่องกรณีสวรรคตก็ไม่เคยบ่น

จดหมายขอบพระคุณ เรื่อง “สภาพนอกอาณาเขต”

ในปี 2526 หลังจาก ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร พระธิดาของพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเทววงศ์วโรทัย ได้อ่าน "ชีวประวัติย่อของนายปรีดี พนมยงค์" หลังจากนายปรีดีถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว 'คุณท่าน' ได้ส่งจดหมายถึงท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์

ธรรมกถาในวาระ 7 รอบนักษัตร นายปรีดี พนมยงค์

ตามที่ปุถุชนทั้งหลาย มีลูกหลานเป็นต้นหรือลูกหลานมิตรสหายมาปรารภวันเกิดของตนก็ตาม หรือของท่านที่เคารพนับถือของตนก็ตาม ก็เสมือนหนึ่งเป็นการให้ได้มีโอกาสสอบสวนชีวิตของคนแต่ละท่านว่าที่ล่วงลับล่วงเลยไปแล้วนั้น เราได้ดําเนินชีวิตไปเหมาะสมแค่ไหน เพียงใด 

ทั้งนี้ก็เพื่อว่า เมื่อว่าชีวิตของเราดําเนินมาในทางที่ไม่ดี เราจะได้แก้ไขปรับปรุงให้มันดีขึ้น หรือเมื่อเห็นว่าชีวิตของเราดําเนินดีถูกต้องอยู่แล้ว ก็อย่าได้ดีใจแต่ให้เพียรทําความดีสืบต่อไป นี่ก็เป็นจุดมุ่งหมายที่คาดคะเนว่าคงจะปรารถนาเช่นนี้จึงได้มีการบําเพ็ญกุศลเนื่องในวันสําคัญของตน 

Subscribe to