ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
แนวคิด-ปรัชญา

มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ ตอนที่ 46 : นักการเมืองขี้โรคในอเมริกา

3
พฤษภาคม
2568

กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพา

 


บทความพิเศษ “นักการเมืองขี้โรคในอเมริกา” ที่ได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ การเมือง รายสัปดาห์

 

โรคตื่นกลัวคอมมิวนิสต์อย่างกาหลอลหม่าน หรือที่เรียกกันว่า Red scare และโรคระแวงสงสัยว่าใครต่อใครจะเปนคอมมิวนิสต์กันไปหมดนั้น ได้เริ่มเปนแก่อเมริกาอย่างขนาดหนักมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.๑๙๔๗ แต่นั้นมา ผู้ที่ทํางานเปนลูกจ้างรัฐบาล หรือจะสมัครเข้าทํางานเปนลูกจ้างรัฐบาล ได้ถูกตรวจสอบว่าจะเปนผู้ภักดีต่อเมริกา และเปนอเมริกันเต็ม ๑๐๐ เปอเซนต์หรือไม่ (และถ้าเป็นอเมริกันได้เกิน ๑๐๐ เปอเซนต์ก็ยิ่งดีใหญ่) ตั้งแต่ได้มีการตรวจสอบกันมา คนอเมริกันได้ถูกตรวจสอบไปแล้วถึง ๓ ล้านคน ในจํานวน ๓ ล้านคนนั้น ได้ตัวบุคคลจํานวน ๑๑,๖๑๙ คน ที่ทางการตรวจสอบรู้สึกว่ามีกลิ่นไม่รื่นรมย์จมูกของผู้ตรวจนัก ดังนั้น อเมริกันทั้ง ๑๑,๖๑๙ คน จึงถูกส่งไปให้แผนกสอบสวนกลางดมกลิ่นอีกทอดหนึ่ง ภายหลังที่แผนกสอบสวนกลางได้ดมอย่างหมดจดแล้วก็ได้พบกลิ่นอันตะแม่งๆ ในอเมริกัน ๗,๓๔๒ คน แผนกสอบสวนกลางจึงได้ส่งรายงานของอเมริกัน ๗,๓๔๒ คน ไปยังคณะกรรมการตรวจสอบความภักดีของอเมริกัน หน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านั้นเพื่อให้ทําการดมอย่างเต็มรักอีกครั้งหนึ่ง เมื่อหน่วยต่างๆ ของคณะกรรมการตรวจสอบความภักดีได้ดมอเมริกันทั้ง ๗,๓๔๒ คน อย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ลงความเห็นว่า ในจํานวนอเมริกัน ๗,๓๔๒ คน ที่แผนกสอบสวนกลางได้กลิ่นตะแม่งๆ มานั้น มีอเมริกันถึง ๖,๙๑๐ คนที่จมูกของฝ่ายกรรมการตรวจสอบความภักดีไม่ได้กลิ่นตะแม่งๆ เลย ดังนั้น อเมริกัน ๖,๙๑๐ คนนั้น จึงถูกยกยอดว่าเปนผู้บริสุทธิ์ไป คงเหลืออเมริกันเพียง ๔๓๒ คน ที่ผลการตรวจสอบลงกันว่า มีกลิ่นอเมริกันไม่แท้เจือปนอยู่ ซึ่งเปนเหตุให้ตกอยู่ในฐานะอันไม่พึงรับเข้าไว้เปนข้ารัฐการอเมริกัน อย่างไรก็ดี ในจํานวน ๔๓๒ คนนั้น ก็หาได้ถูกปลดหรือถูกปฏิเสธไม่ให้รับรัฐการทั้งหมดไม่ ที่ถูกปลดหรือถูกปฏิเสธจริงๆ คงมีเพียง ๑๘๒ คนเท่านั้น เพราะว่ามีอเมริกัน ๑๒๔ คนได้อุทธรณ์ และได้เสนอหลักฐานใหม่ไปยังองค์คณะที่รับอุทธรณ์อันมีชื่อว่า Loyalty Review Board ซึ่งในที่สุดอเมริกัน ๑๒๔ คน ได้ชนะอุทธรณ์และได้รับการรับรองให้เข้ารับรัฐการได้ ส่วนอเมริกันอีก ๑๒๖ คนนั้น กําลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาใหม่

เปนอันว่าการตรวจสอบข้ารัฐการหรือผู้ที่จะสมัครเข้าเปนข้ารัฐ การที่อเมริกาได้กระทํามาเป็นเวลา ๓ ปี และได้ตรวจสอบชายหญิงอเมริกันไปแล้ว ๓ ล้านคนนั้น ในที่สุดก็เพียงแต่ได้ปลด หรือปฏิเสธคนอเมริกันมิให้เปนข้ารัฐการไปได้ ๑๘๒ คน และก็เพียงในฐานที่ว่า คณะผู้ตรวจสอบไม่เชื่อถือว่าจะเปนอเมริกันเต็ม ๑๐๐ เปอเซนต์ เท่านั้น หาเกี่ยวด้วยข้อผิดร้ายฉกรรจ์อะไรไม่ อนึ่ง ในจํานวนอเมริกันทั้งชายหญิงที่ถูกตรวจสอบไปแล้วถึง ๓ ล้านคนนั้น ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกหาว่ามีความผิดฐานเป็นจารชน!

แม้ว่าผลจากการตรวจสอบอเมริกันทั้งชายหญิง ๓ ล้านคน จะได้พบจารชนเพียงคนเดียวก็ดี นายแมคคาธี สมาชิกสภาเซนเนต นักหาความบันลือนาม ซึ่งใครๆ แม้ในอเมริกาเองยังพากันสั่นเศียรนั้น, ก็ยังตั้งข้อหาขึ้นว่า เฉพาะในกระทรวงการต่างประเทศกระทรวงเดียว มีคอมมิวนิสต์ระหว่าง ๕๗ ถึง ๒๐๕ ราย แม้แต่นายแอจชิสัน รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศเอง ก็ถูกนายแมคคาธี นักกล่าวหาบันลือนามหมายหัวไว้ว่ากระเดียดไปข้างเปนคอมมิวนิสต์เหมือนกัน!

การกล่าวหาความ และความระแวงสงสัยกันในขนาดที่เปนอยู่ในอเมริกานั้น ประชาชนในยุโรปได้พากันมองดูด้วยความพิศวงงงงวย และทําให้ประชาชนเหล่านั้นเบื่อหน่ายต่อการที่จะร่วมมือกับอเมริกาในการทําสงคราม ไม่ว่าจะเปน “สงครามเย็น” หรือ “สงครามยิง” ต่อไป ความพลุ่งพล่านของอเมริกาในเรื่องที่จะกําจัดคอมมิวนิสต์ หรือกําจัดใครต่อใครในอเมริกานั้น ก็เปนธุระของคนอเมริกัน แต่เมื่อความพลุ่งพล่านอันนั้นได้ถูกแพร่ออกไปนอกเขตต์แดนอเมริกา ก็เปนธุระของประชาชนชาติต่างๆ จะต้องจับตาดู

ข่าวสดที่แสดงถึงความยุ่งขิงถึงขนาดที่ยุโรปตะวันตกต้องสั่นหัวด้วยความไม่เข้าใจได้มาถึงเมืองไทยเมื่อวันที่ ๑ เดือนนี้อีกรายหนึ่ง สํานักข่าวอเมริกัน เอ.พี.ได้รายงานว่า เมื่อ ดีน แอจชิสันแถลงนโยบายของอเมริกาทางภาคตะวันออกไกลในรัฐสภานั้น สมาชิกสภาผู้แทนของพรรคเดโมแครตผู้หนึ่งได้กล่าวขึ้นว่า ทริกเวลี เลขาธิการสหประชาชาตินั้นไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน ที่แท้คือคอมมิวนิสต์ดีๆ นั่นเอง!

เราได้ทราบกันแล้วว่า ทริกเวลี ได้ใช้ความพากเพียรอันน่าสรรเสริญยิ่ง เพื่อจะกําจัดสงครามเย็นที่จะนําไปสู่สงครามยิง และสถาปนาความอุ่นอกอุ่นใจในสันติภาพให้บังเกิดแก่ชาวโลก จึงได้เดินทางไปพบกับประมุขของรุสเซีย ครั้นแล้วก็ได้เข้าเจรจากับมุขบุรุษของมหาอํานาจตะวันตกทั้งสาม เพื่อหาทางผ่อนผันข้อขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย รูปการณ์ก็ดูเหมือนว่าจะคลี่คลายไปในทางดี และทั่วโลกต่างก็คอยสดับผลงานของทริกเวลีด้วยความสนใจ และปรารถนาที่จะ ให้บรรลุความสําเร็จ แต่ในวงของนักการเมืองอเมริกันนั้น มีบุคคลอยู่พวกหนึ่งที่จะไม่มีความสบายใจเลย หากมีการจัดการให้โลกนอนตาหลับลงได้ด้วยเหตุแห่งสันติ ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าเลขาธิการสหประชาชาติได้พยายาม และความพยายามนั้นอาจประสพผลสําเร็จในข้อที่จะให้โลกนอนตาหลับได้ นักการเมืองแห่งพรรคเดโมแครตผู้หนึ่งจืงได้ร้องกล่าวหาขึ้นมาในที่ประชุมรัฐสภาว่า ผู้ที่พยายามจะทําโลกให้เปนโลกแห่งสันติภาพนั้นเปนตัวคอมมิวนิสต์แท้ที่เดียว นักการเมืองอเมริกันผู้นั้นได้กล่าวหาว่า เลขาธิการสหประชาชาติ “เปนผู้ที่ดําเนินการอยู่หลังฉาก เพื่อที่จะให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์จีนได้ที่นั่งในสหประชาชาติ” เขากล่าวว่า เขาออกจะรู้สึกว่า “ทริกเวลีพยายามจะนําประเทศคอมมิวนิสต์อีกประเทศหนึ่งเข้ามาในสหประชาชาติ เพื่อที่จะได้มีโอกาสเข้ามาก้าวก่ายในกิจการภายในประเทศของสหรัฐอเมริกา”

แม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาจะเปนผู้ที่แอนตี้โลกคอมมิวนิสต์อย่างแรงอยู่แล้ว และเปนอเมริกันอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว เมื่อได้ฟังคํากล่าวหาของนักการเมืองผู้สังกัดพรรคเดียวกันต่อทริกเวลีเช่นนั้น ก็ยังกลืนเข้าไปไม่ลง และจําต้องออกรับแทนทริกเวลีว่า ไม่มีใครเลยในรัฐบาลอเมริกันที่จะสงสัยเคลือบแคลงในความสัตย์ สุจริตของเลขาธิการสหประชาชาติ อย่างไรก็ดี แอจชิสันเองก็ได้ถูกนักการเมืองแห่งพรรครีปับริกันผู้หนึ่งให้สมญาว่า “Red Dean” แห่งวอชิงตัน ซึ่งมีความหมายว่า เปนผู้ที่โน้มเอียงไปทางคอมมิวนิสต์

เราจึงเห็นได้ว่า ในวงนักการเมืองอเมริกันนั้น มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ต้องการจะปราบอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเฉียบขาดลงไป และจะไม่ยอมผ่อนผันให้เลย แม้ถึงว่าหากดําเนินการเฉียบขาด มุ่งแต่ประโยชน์ของตนตะพัดไปดังนั้น จะเปนเหตุเท่ากับจุดไฟบรรลัยกัลป์ขึ้นในโลกเขาเหล่านั้นก็จะไม่พะวงเลย ถ้าเพียงแต่ชีวิตและความมั่งคั่งสุขสมบูรณ์ของพวกเขาจะคงดํารงรุ่งโรจน์อยู่ต่อไป ในทางตรงกันข้าม ถ้าโลกจะมีสันติสุขได้ด้วยการผ่อนผันเข้าหากัน และในการนั้นประเทศของเขาจําเปนจะต้องสละผลประโยชน์และความพอใจออกแลกบ้าง นักการเมืองกลุ่มนั้นก็จะไม่ยอมเปนอันขาด

นักการเมืองอเมริกันกลุ่มนี้แหละที่คอยแต่จะผลักดันนโยบายของอเมริกาให้มุ่งไปในทางกระชากเอาโลกทั้งโลกมาทุ่มทิ้งลงไปในทะเลเพลิง เนื่องด้วยเอเชียในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ได้ตกอยู่ในข่ายเหล็กแห่งนโยบายของอเมริกา จึงเปนการจําเปนที่ประชาชนในภูมิภาคนี้จะต้องศึกษาความประพฤติและจิตใจของนักการเมืองอเมริกาไว้ เพื่อที่จะได้ทราบว่า เขาต้องการอะไร, เขากําลังคิดอย่างไร, ชาวเอเชียในภูมิภาคนี้จะได้และเสียอะไรจากการกระทําของเขา ซึ่งมีที่มุ่งหมายอยู่แต่ผลประโยชน์ของเขาเป็นใหญ่

ที่มา : นสพ. การเมือง รายสัปดาห์ : ปีที่ 6 ฉบับที่ 47
เวลา: 18 มิถุนายน พ.ศ.2493

 

หมายเหตุ:

  • กองบรรณาธิการสถาบันปรีดี พนมยงค์ ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ต้นฉบับจากคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการหนังสือมนุษย์ไม่ได้กินแกลบฯ และคุณปรีดา ข้าวบ่อ แห่งสำนักพิมพ์ชนนิยมแล้ว
  • อักขระและวิธีสะกดคงไว้ตามต้นฉบับ
  • โปรดดูเพิ่มเติม หมายเหตุบรรณาธิการได้ที่ สุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการ, เรื่อง “นักการเมืองขี้โรคในอเมริกา”, มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ ข้อเขียนการเมืองของกุหลาบ สายประดิษฐ์ (กรุงเทพฯ: แอล.ที.เพลส, 2548),  น. 455-459.
  • ตัวเน้นโดยผู้เขียน

บรรณานุกรม :

  • กุหลาบ สายประดิษฐ์, เรื่อง “นักการเมืองขี้โรคในอเมริกา”, มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ ข้อเขียนการเมืองของกุหลาบ สายประดิษฐ์ (กรุงเทพฯ: แอล.ที.เพลส, 2548),  น. 455-459.

บทความที่เกี่ยวข้อง :